CEO สุดฮอต

1325 Words
วันนี้เพื่อนๆในเฟซบุ๊กของรัญชิดาต่างแชร์ข่าวและภาพของแม็กซิมิเลียน คีธ ไฟร์เยอร์ ผู้บริหารหนุ่มของโรงแรมเดอะ แกรนด์ ไฟร์เยอร์ ซึ่งเพิ่งได้รับตำแหน่ง CEO ที่ฮ็อตที่สุดแห่งยุค จากนิตยสารผู้หญิงของประเทศอังกฤษมาหมาดๆ สาวๆแต่ละคนต่างกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่กับความหล่อเหลาราวกับเจ้าชายในเทพนิยายของเขา                          กรี๊ดดดด หล่อวัวตายควายล้ม หาได้ที่ไหนเนี่ย             เจอพ่อของลูกแล้ว #มิสเตอร์ไฟร์เยอร์             #บอกเค้าไปว่าฉันชอบเค้า             ลูกสะใภ้ตระกูลไฟร์เยอร์รายงานตัวค่ะ             #หล่อจนต้องร้องขอชีวิต             เก็บกระเป๋าเตรียมไปหาคุณสามี             เฮ้ย! นี่คือเนื้อคู่ที่พลัดพรากของเรานี่นา              แต่เราก็หากันจนเจอ มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา #ตื่นค่ะ แค่นามสกุลก็ฮ็อตแล้ว              อยากเป็นมิสซิสไฟร์เยอร์             นั่นเป็นส่วนหนึ่งของข้อความที่เพื่อนๆเธอโพสต์ประกอบข่าวที่แชร์มา รัญชิดาซึ่งใช้เวลาวันหยุดพักผ่อนอยู่ที่คอนโดแถวชานเมืองกรุงเทพฯส่ายหน้าแล้วก็ถอนหายใจ พวกสาวๆคงไม่รู้สินะว่าอีตาแม็กนี่หล่อแต่รูป แต่นิสัยไม่ดีเลยสักนิด เพราะเขาเป็นจอมเผด็จการ ชอบบังคับ และเอาแต่ใจตัวเองมากถึงมากที่สุด!             เธอไม่ได้กล่าวหาลอยๆนะ แต่จากที่ทำงานด้วยกันมาสองปี แม็กซิมิเลียนเป็นแบบนี้จริงๆ ยกตัวอย่างก็เช่นตอนเธอลาพักร้อนสิบห้าวัน บินไปเที่ยวลาสเวกัสกับเพื่อนสนิทหวังจะเริงร่าเต็มที่ แต่อีตาแม็กก็ดันอุตริบินมาประชุมที่โรงแรมเดอะ แกรนด์ ไฟร์เยอร์สาขากรุงเทพฯ และเธอซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแผนกต้อนรับส่วนหน้าก็ต้องเข้าประชุมด้วย             แน่นอนว่าเธออดเที่ยว และต้องบินกลับมาประชุมอย่างเสียไม่ได้ นั่นแหละคือหนึ่งในความเอาแต่ใจแบบสุดยอดของเขา ทว่าเพื่ออนาคตด้านการงาน รัญชิดาจึงต้องยอม เพราะเดอะ แกรนด์ ไฟร์เยอร์ถือเป็นหนึ่งในโรงแรมชั้นนำระดับโลกที่มีแต่คนอยากร่วมงานด้วย             ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา เธอเลยไม่ได้ตื่นเต้นกรี๊ดกร๊าดแม็กซิมิเลียนเหมือนสาวๆคนอื่น เพราะทำงานด้วยกันมานานและนิสัยของเขาทำให้ความหล่อเหลาไม่มีอิทธิพลต่อหัวใจเธอ (คิดว่าอย่างนั้นจริงๆนะ) และขอยืนยันคำเดิมว่า ถึงจะเหลือเขาเป็นผู้ชายคนสุดท้ายในโลก เธอก็ไม่เอามาทำสามีแน่นอน!             กริ๊งงงง!             สมาร์ตโฟนในมือบางกรีดเสียงขึ้น และบนหน้าจอปรากฏชื่อที่เธอบันทึกไว้ว่า Devil Boss             จะเป็นใครไปได้อีกล่ะนอกจากแม็กซิมิเลียน คีธ ไฟร์เยอร์             นี่วันหยุดของเธอนะ เขาจะโทรมาทำไมเนี่ย รัญชิดากลอกตามองบนอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็กดรับสายบอสหนุ่มจอมเผด็จการ             “สวัสดีค่ะ”             “สวัสดีดาด้า ทำไมถึงทำเสียงเย็นชาใส่ผมแบบนั้นล่ะ” ปลายสายถามด้วยน้ำเสียงมีรอยขัน คงกำลังพอใจอยู่สินะที่ได้รบกวนเวลาวันหยุดอันมีค่าของเธอ             “เจ้านายโทรมามีเรื่องคอขาดบาดตายอะไรหรือเปล่าคะ” รัญชิดาถามด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ก่อนจะแกล้งอุทานอย่างลืมตัว “อุ๊ย ขอโทษค่ะ ใช้คำพูดผิดไปหน่อย มีเรื่องด่วนหรือเปล่าคะ”              “ถ้าไม่ด่วนคุณจะวางสายงั้นเหรอ” แม็กซิมิเลียนซึ่งบินมาประจำอยู่ที่สาขากรุงเทพฯเป็นวันที่สี่แล้วถามกวนๆ             “ใช่สิคะ นี่วันหยุดของฉันนะ”             “โอเคๆ งั้นผมไม่อ้อมค้อมแล้วกัน เย็นนี้ว่างไหม” เธอนึกภาพออกเลยว่าดวงตาสีฟ้าของเขาคงกำลังเป็นประกายเจ้าเล่ห์อยู่             “ทำไมคะ” รัญชิดาสอบถามก่อนเพื่อความปลอดภัย เธอจะไม่ตอบตกลงเด็ดขาดหากไม่รู้จุดมุ่งหมายของอีกฝ่าย             “ไปทานอาหารเย็นกับผม”             หญิงสาวมั่นใจว่านั่นไม่ใช่คำถาม คำเชิญ แต่เป็นคำสั่ง หึ ถือว่าเป็นเจ้านายแล้วจะสั่งได้ทุกอย่างเหรอ ฝันไปเถอะย่ะ!             “ฉันคงต้องขอตัวค่ะ พอดีมีนัดแล้ว และยกเลิกไม่ได้ด้วยสิคะ” ถึงไม่มีก็ไม่ไปหรอก ในเวลางานนั้นการไปทานข้าวกับเจ้านายหนุ่มไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะบางครั้งต้องออกไปพบหุ้นส่วนของโรงแรมกับเขา และมักจะมีการทานอาหารร่วมกันต่อ แต่มาชวนกันนอกเวลาแบบนี้ แถมไปแบบสองต่อสอง เธอขอปฏิเสธดีกว่า              “แน่ใจเหรอว่านัดของคุณสำคัญกว่าการทานอาหารเย็นกับผม” คนที่แสนจะหลงตัวเองถาม             “แน่ใจค่ะ” คนถูกถามก็ตอบอย่างมั่นใจเช่นกัน             “แล้วถ้าผมบอกว่า ผมจะคุยเรื่องเลื่อนตำแหน่งของคุณล่ะ” แม็กซิมิเลียนเอ่ยด้วยเสียงโน้มน้าว             “เลื่อนตำแหน่ง?”             “ใช่ ผมวางแผนจะส่งคุณไปทำงานที่โรงแรมเดอะ แกรนด์ ไฟร์เยอร์ สาขาลอนดอนเร็วๆนี้ ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการต้อนรับส่วนหน้า สนใจหรือเปล่า ถ้าไม่สนใจ ผมจะได้พิจารณาคนอื่น ให้เวลาตัดสินใจห้าวินาที”             “สนค่ะสน ทำไมจะไม่สนล่ะ ไม่ต้องพิจารณาคนอื่นนะคะ ฉันพร้อมจะรับตำแหน่งนี้โดยเร็วที่สุด” รัญชิดารีบตอบแทบไม่ทัน เพราะกลัวชายหนุ่มจะเปลี่ยนใจ ถึงจะเป็นตำแหน่งเดิม แต่การได้ไปทำงานในต่างประเทศเป็นความฝันของเธอเลย แถมยังเป็นที่สาขาลอนดอน ประเทศอังกฤษด้วย แค่จินตนาการว่าตัวเองมีหนุ่มผมทอง ตาสีฟ้า หน้าตาหล่อเหลามารุมจีบก็ฟินไปสามโลกแล้ว             เวณิกาเพื่อนสนิทของเธอแซงหน้าแต่งงานกับชาร์ลส์ แอชตัน วินเทอร์[1] ซีอีโอหนุ่มของโรงแรมดังในลาสเวกัสไปแล้ว แถมตอนนี้ก็กำลังตั้งท้องใกล้คลอดเต็มที เธอจะต้องตามฝ่ายนั้นไปแบบด่วนๆ ลูกออกมาจะได้ให้เป็นเพื่อนกัน (จริงๆเธอไม่ค่อยชอบเด็กนักหรอก แต่ถ้าเป็นลูกของตัวเอง อันนี้ยกเว้น)             จริงๆแม็กซิมิเลียนก็มีรูปร่างหน้าตาตามสเปคเธอ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหล่อเหลากร้าวแกร่งเหมือนเจ้าชายในเทพนิยาย ผมสีทองหยักศกเล็กน้อย ดวงตาสีฟ้าสว่างพราว แถมยังมีรอยยิ้มพิฆาต เพียงแค่เขากระตุกมุมปากเบาๆ สาวๆก็หลอมละลายแล้ว ยกเว้นนิสัยของเขานั่นแหละที่แย่มากเกินเยียวยา จนเธอไม่อาจรับไว้พิจารณา เธอสวยเลือกได้นะจะบอกให้ จะให้คว้ามามั่วๆไม่เอาหรอก             แล้วนี่ตกลงเธอจะไปทำงานหรือตามหาหนุ่มในฝันกันแน่?             ทำงานสิ ส่วนเรื่องอื่นเป็นผลพลอยได้             “จะมาทานข้าวกับผมใช่ไหม?” เสียงทุ้มลึกของเจ้านายหนุ่มที่ทวงถามขึ้นมา ทำให้รัญชิดาหลุดจากความคิดซึ่งกำลังเพ้อฝันล่องลอย             “แน่นอนสิคะ”             “แล้วนัดของคุณล่ะ”             “นัดแล้วก็ยกเลิกได้ค่ะ เพื่อนจะสำคัญกว่าหน้าที่การงานได้ยังไง ฉันเป็นคนรับผิดชอบกับงานมากนะคะ เจ้านายก็รู้นี่” รัญชิดาเอ่ยเสียงเป็นทางการขึ้นมาทันที             แม็กซิมิเลียนหัวเราะครืน “ชัดเจนตรงไปตรงมาจริงๆ ผมชอบคุณก็ตรงนี้ละ”             ประโยคนั้นจะไม่มีปัญหาอะไรเลย หากซีอีโอหนุ่มจะไม่เอ่ยด้วยเสียงทุ้มนุ่มกว่าปกติซึ่งทำให้หัวใจดวงน้อยๆอันบอบบางของรัญชิดาเต้นผิดจังหวะไปในทันที และหญิงสาวก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า การไปพบเจ้านายหนุ่มในเย็นนี้จะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างคาดไม่ถึง! [1] ชาร์ลส์ แอชตัน วินเทอร์ และเวณิกา พระนางจากเรื่อง เตียงรัก CEO จอมบงการ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD