2

1471 Words
น้ำเสียงของคนที่ยืนค้ำหัวเธออยู่ทำให้ไพรหอมถึงกับช็อก รีบระล่ำระลักปฏิเสธเป็นพัลวัน “ไม่ได้นะคะ ฉันไม่ยอมเด็ดขาด” เธอขยับหนี แต่เขากระชากเอาไว้ มองอย่างคุกคาม เขาเหยียดปากขึ้น กระตุกยิ้มร้ายกาจจนหัวใจของเด็กสาวกระตุกวูบตามไปด้วย “ต้องได้สิ ฉันจะทำให้แม่เธอกระอักเลือดที่คิดหยามคนอย่างฉัน” น้ำเสียงของเขาเหี้ยมเกรียมชวนขนลุก จนเธอลนลานหนี แต่หนีไม่รอดเงื้อมือของเขา “ถ้าคุณจะแก้แค้นแม่ คงผิดคนแล้วค่ะ แม่ไม่สนใจไยดีฉันหรอกค่ะ แม่ไม่รักฉันทิ้งฉันเอาไว้กับยาย ถึงคุณจะฆ่าฉันตาย แม่ก็ไม่มีวันรู้สึกอะไร หรือหันมาสนใจฉันหรอกค่ะ” เธอพูดตามจริง แค่พูดถึงมารดา เธอก็แทบจะร้องไห้ เมื่อก่อนทุกๆ วันที่ไปโรงเรียนเธอมักโดนแกล้ง โดนล้อว่าไม่มีพ่อแม่ แม่ร่าน แม่สำส่อน เธอลำบากมาก ยายหุงข้าวกับไม้ฟืน ต้มไข่และลวกผักกับน้ำพริกให้เธอพาข้าวห่อไปโรงเรียนก็โดนแกล้งทุกวัน เธอไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่มีใครอยากคบคนจนๆ บางครั้งเธอก็นึกอยากจะรวย จะได้มีเงินซื้อยารักษายาย ยายป่วยหนักแต่ไม่มีเงินไปหาหมอ เธออยากติดต่อแม่ ให้แม่มาดูยาย พายายไปรักษาในเมือง ได้ยาดีๆ ยายอาจจะหาย ตอนนี้ก็แค่ไปรับจ้างทำงาน ไปขอยาที่อนามัยเพื่อบรรเทาไปก่อน เมื่อก่อนตอนไปโรงเรียน บางวันเธอก็ไม่ได้กินข้าว แต่กินน้ำแทนข้าวเพราะไม่มีเงินซื้อข้าวสารมากรอกหม้อ แต่เธอก็ทนจนเรียนจบมาได้ด้วยความลำบากเลือดตาแทบกระเด็นของผู้เป็นยาย “ฉันไม่สนหรอก ถ้าฉันอยากได้ ฉันต้องได้” เขาบีบปลายคางสวย ริมฝีปากบิดขึ้นอย่างไม่ชอบให้ใครขัดใจ “เห็นว่ายายป่วยไม่ใช่เหรอ ไม่อยากได้เงินไปรักษายายหรือไง” พันศึกนึกขึ้นมาได้ ถ้าไม่ยอมดีๆ ก็ต้องหาทางให้ยอมให้ได้ “คุณจะรักษายายเหรอคะ” เธอเอ่ยถามอย่างมีความหวัง ยายเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้ ถ้าไม่มียาย ชีวิตเธอก็ไม่รู้จะเป็นเช่นไรต่อไป “ใช่ แลกกับเธอไปเป็นนางบำเรอฉัน น่าจะเหมาะกับเธอนะ แม่เธอก็ถนัดอาชีพบำเรอกามอยู่แล้วนี่” เขาพูดอย่างเหยียดหยาม เมื่อก่อนไม่เคยนึกสืบประวัติของว่านจันทร์ แต่มาระยะหลัง เขาเลยได้รู้ประวัติของเธอบางส่วน ซึ่งไม่ดีนัก เธอเคยขายตัวมาก่อนหลายปี “คนใจร้าย!!!” เธอว่าเขาทั้งน้ำตา จะมีอะไรอดสูไปมากกว่านี้อีก เสียงไอของยายในบ้านไม้เก่าๆ ทำให้เธอสะบัดมือเขาออก วิ่งเข้าไปดูท่าน ก่อนจะกรีดร้องอย่างตกใจ “ยายจ๋า.... ยายเป็นอะไร ยายอย่าทิ้งหนูไปนะ ยายๆ ยายจ๋า... ถ้าไม่มียายหนูจะอยู่กับใคร ไม่เอานะยาย ไม่เอา อย่าเงียบแบบนี้สิ ฮื่อๆๆ ฮึกๆๆๆ ไม่เอานะจ้ะ ยาย...” ไพรหอมร้องไห้อย่างหนักเมื่อญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวกระอักออกมาเป็นเลือด ก่อนที่ท่านจะแน่นิ่งไป เธอประคองร่างเล็กเหี่ยวย่นไปตามอายุและผ่ายผอมของผู้เป็นยายมากอดเอาไว้ ร้องห่มร้องไห้อย่างไม่อายใคร เธอกับยายนั้นผอมไม่ต่างกัน เพราะอดมื้อกินมื้อ แม้เค้าโครงหน้าของหญิงชราจะเคยงดงามหาหญิงใดเปรียบ แต่สุดท้ายสังขารก็ร่วงโรยไปตามกาลเวลา ในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ชีวิตมนุษย์เองก็เหมือนกัน เกิดมาดับไปตามอายุขัย “ยายอย่าเป็นอะไรนะ ยายจะทิ้งหอมไปเหรอจ๊ะ ยาย ฮื่อๆๆๆๆ ไม่นะ อย่าทิ้งหอมไป ไม่เอาแบบนี้” ไพรหอมเขย่าร่างของผู้เป็นยายด้วยน้ำตานองหน้า เธอคอยซับเลือดให้อย่างน่าเวทนา กอดรัดซบหน้ากับใบหน้าของท่านอย่างอาดูรโหยไห้ “ยายจ๋า... เลือดไหลนิดเดียวเอง เดี๋ยวหนูซับให้นะ เดี๋ยวก็หายแล้ว ฮึกๆๆ ฮือๆๆ” ไพรหอมเช็ดเลือดให้ยาย ก่อนจะดึงท่านมากอดแนบหน้าลงไปอีกครั้งอย่างร้าวรานใจ พันศึกเข้าไปดูอาการ เขาจึงบอกว่ายายของเธอสิ้นใจแล้ว แต่เธอก็ยังอาละวาดไม่ให้ใครเข้าไปใกล้ ยังร้องไห้กอดศพของยายอย่างน่าเวทนา “ไม่จริง พวกคนใจร้าย อย่ามาแช่งยายนะ ยายของหอมยังไม่ตายเสียหน่อย คนปากเสียไปให้ไกลๆ เลยนะ ไปสิ!” ไพรหอมกอดร่างของยายเอาไว้ ด่าว่าคนที่พูดแช่งยายที่รักของเธอ “ยายเธอตายแล้ว ตั้งสติหน่อย” พันศึกโบกมือให้ลูกน้องออกไปจากบ้านหลังเก่าๆ ซอมซ่อ ก่อนจะเตือนสติแด็กสาวอีกครั้ง เขากวาดสายตามองรอบบ้านแล้วรู้สึกหดหู่ตามไปด้วย อารมณ์แค้นเคืองดุกร้าวในคราแรก ลดทอนลงไปเหลือแค่ความสงสาร “อย่ามาแช่งยายนะ คนใจร้าย พวกคุณมันคนใจร้าย!” ไพรหอมร้องไห้อย่างหนัก เขย่าร่างของยาย แล้วหวีดร้องสุดเสียงเหมือนคลั่ง ก่อนจะสลบไปเพราะความเสียใจสุดขีด พันศึกเข้าไปดูอาการของเด็กสาว สีหน้าของเขาเครียดเขม็ง แววตาบ่งบอกถึงความเวทนาจับใจ ในขณะที่กรามโดนกัดเข้าหากันจนขึ้นสัน   ไพรหอมนั่งร้องไห้อยู่หน้าโลงศพของผู้เป็นยาย เธอเคาะโลงศพของท่านก่อนจะพูดเรื่องเก่าๆ ตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็หัวเราะร้องไห้คนเดียว ก่อนจะโอบกอดโลงศพเอาไว้แล้วสะอื้นฮักๆ เป็นลมไปก็หลายรอบ ตื่นขึ้นมาก็รับไม่ได้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอไม่กินข้าวกินปลา เอาแต่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมไปไหน พันศึกเป็นคนจัดการงานศพให้อย่างเรียบง่าย คนในหมู่บ้านดูจะไม่ค่อยมีใครชอบไพรหอมนัก เขามาทราบเอาตอนที่ได้ยินพวกผู้หญิงในหมู่บ้านคุยกัน พวกนั้นดูห่วงลูกชายห่วงสามีไม่อยากให้มายุ่งกับไพรหอม กลัวจะหลงเสน่ห์เธอเข้า และดูเหมือนว่าจะมีผู้ชายมากมายคอยจับตามองเธอไม่ห่าง ทุกคนมองเธออย่างหื่นกระหาย ปรารถนาและบางคนก็ดูจะหลงรักเธอด้วยใจจริง เขาเองก็ยอมรับว่าไพรหอมเป็นเด็กสาวที่สวยมาก ถอดแบบมาจากมารดาและยาย บางส่วนของเธอคล้ายใครบางคน ทำให้เขาพยายามคิดว่าเหมือนใคร แต่เขาก็คิดไม่ออก แต่หน้าตาของเธอคล้ายแม่ เค้าบอกว่าผู้หญิงหน้าคล้ายแม่จะอาภัพ เขาก็ว่าน่าจะจริง เพราะชีวิตเธอดูแร้นแค้นเอาการ  “ยายจ๋า... หอมจะอยู่กับใคร ฮึกๆๆ ฮือๆๆ” ไพรหอมสะอึกสะอื้นเมื่อถึงวันเผาศพยาย เธอผอมกว่าเดิมเพราะกินอะไรไม่ได้ ทุกคืนเธอจะนอนกับศพของยาย เธอไม่มีเงิน รับรู้ว่าพันศึกเป็นคนจัดการงานศพให้ ทั้งรู้สึกเกรงใจเขาและเกรงกลัวเขา แม่ก็ติดหนี้เขา แล้วเธอก็ยังจะมาติดหนี้เขาเรื่องการจัดงานศพอีก เธอเริ่มกังวลเพราะไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปคืนเขา หรือต้องไปเป็นนางบำเรอของเขาจริงๆ แค่คิดถึงตรงนี้ก็ต้องถอนใจในชะตาชีวิตของตัวเอง “ยายจ๋า... หอมไม่เหลือใครแล้ว” ไพรหอมเอาแต่ร้องไห้น้ำตาไหลพรากอาบแก้มนวล เธอรู้ดีว่าถ้าไม่มียายเธอไม่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ เพราะผู้ชายในหมู่บ้านน่ากลัวนัก แต่เธอก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน จะให้ไปเป็นนางบำเรอ เธอคงทำไม่ได้ ทุกคนดูถูกแม่ ดูถูกยาย เธอจะต้องไม่ทำให้ใครดูถูกแบบนั้นอีก เธอเคยโดนล้อว่ายายกับแม่ท้องไม่มีพ่อ เธอจะต้องไม่เป็นแบบนั้น ไม่ยอมให้ใครมาว่าได้อีก “เธอจะไปกับฉันวันนี้เลยไหม” พันศึกเอ่ยถาม ขณะจุดบุหรี่สูบ เขาไม่มีวันปล่อยเธอไป เขาบอกตัวเองแบบนั้น เด็กสาวคนนี้ต้องเป็นของเขา และเขาจะทำให้แม่ของเธอกระอัก ไม่เชื่อก็คอยดู เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนเป็นแม่จะไม่รักลูกเลย เธอคงพูดให้เขาเข้าใจผิด ไม่พาเธอกลับไปกับเขา เขาฉลาดพอที่จะไม่โง่ซ้ำสอง และไม่เสียรู้เธอด้วย  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD