ตอนที่ ๔ ไม่มีคนโง่
“คลับคนแน่นเหมือนเดิมเลยนะ สาว ๆ ก็สวย ๆ กันทั้งนั้น” สายตาของมาวินกวาดมองไปรอบคลับซึ่งตอนนี้เขานั่งอยู่ด้านล่างหน้าเคาน์เตอร์บาร์
“สนใจคนไหนก็หิ้วขึ้นห้อง” เขาพูดแล้วยื่นคีย์การ์ดให้กับหลานชาย
“ไม่เอา พี่ก็รู้ว่าผมกำลังคลีนตัวเอง” เขาดันมันกลับไม่ยอมรับคีย์การ์ดห้อง “ทำไมไม่เชื่อผมเหรอ แต่ส่วนเรื่องคนคุยมันอีกเรื่องนะ”
“มึงนี่เจ้าเล่ห์นะ” เขาหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาแล้วเคาะมันลงที่พื้นกระเบื้องเนื้อดีตามจังหวะของดนตรีที่กำลังเปิดเบา ๆ ให้ได้บรรยากาศ
“คงไม่เท่าพี่หรอก ทุกอย่างผมก็ได้มาจากพี่นะครับ แล้วก็...” เขาใช้สายตามองเลยไปยังด้านหลังของมาธัส “พี่ว่ามันพรหมลิขิตหรือเปล่าครับ”
“......” เขาหันมองไปตามสายตาของมาวิน พบกับกิ่งฟ้าที่กำลังนั่งดื่มอยู่กับเพื่อนอีกสองคน เธอกำลังพูดคุยหัวเราะกับเพื่อนด้วยความสนุกสนาน
มาวินที่ได้มองเห็นรีบยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มหวังที่จะเดินเข้าไปหากิ่งฟ้า แต่กลับถูกมือของมาธัสรั้งเอาไว้ก่อน หลานชายยอมเชื่อฟังแต่ยังทอดสายตามองไปทางเธอตลอดเวลา
“พี่ห้ามผมทำไม”
“เขามากับเพื่อน อย่าไปขัดเขาเลยดีกว่า อีกอย่างเธอคงไม่อยากมาเจอกับมึงที่นี่หรอกทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นดีที่สุด” มันก็แค่ข้ออ้างที่เขาไม่อยากเห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันเท่านั้น
“ก็แค่เข้าไปทักผมไม่ได้จะไปนั่งด้วยซะหน่อย” มาวินบ่นขึ้น เขายังอยากเข้าไปทักทายกิ่งฟ้า
“เชื่อกูเถอะ ขึ้นไปห้องทำงานกูจะได้มองเห็นชัดเจนกว่านี้” เขาว่าแล้วพามาวินเดินขึ้นมาบนห้องทำงาน มีกระจกบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นด้านล่างจากตรงนี้ได้อย่างชัดเจน
“เธอต่างจากวันนั้นมากเลยนะครับ วันนั้นไม่เห็นจะยิ้มแต่วันนี้ยิ้มเก่งมาก” สายตาของเขายังคงจ้องมองไปที่หญิงสาวด้านล่างเช่นเดิม
มาธัสกลับเอาแต่มองตามเท่านั้น เขารู้ว่ารอยยิ้มของเธอนั้นดูสดใส ตอนนี้มันเทียบไม่ได้กับเมื่อก่อน อาจจะเป็นเพระเขาเองที่ทำให้รอยยิ้มสดใสของเธอนั้นหายไป
“พี่ว่า...ผมจะมีความสุขมากแค่ไหน ถ้าได้อยู่กับเธอแล้วมองเห็นรอยยิ้มนี้ทุกวัน”
“เลิกฝัน ให้ได้แต่งก่อน จัดการเรื่องคนคุยของมึงให้ได้ก่อนเถอะ” เขาตัดสินใจเดินมานั่งที่โซฟา ไม่อยากได้ยินเรื่องราวของกิ่งฟ้าที่ดังออกมาจากปากมาวิน
แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านี้ เขาจะบอกหลานชายไปเลยดีไหมว่ากิ่งฟ้าเป็นคนของเขา และเขาก็ไม่ปล่อยให้ใครมาแย่งไปง่าย ๆ
“พี่กำลังคิดอะไรอยู่” มาวินทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ กับเขา “พูดมาเถอะผมรู้ว่าพี่มีเรื่องในใจ”
“สมมุติว่า เธอเคยมีอดีตกับคนใกล้ตัวของมึง มึงจะคิดยังไง”
“พี่ถามอะไรเนี่ย ผมคงไม่โชคร้ายแบบนั้นหรอก อีกอย่างผมว่าเธอไม่น่าจะมีแฟนด้วยซ้ำนะครับ ดูสิมีผู้ชายไปขอชนแก้วด้วยเธอก็ปฏิเสธทุกครั้งเลย”
เสียงวางแก้วกระทบลงที่โต๊ะกระจก เขาหันมองไปตามสายตาของมาวินอีกครั้ง ฟันที่กำลังขบกันทำให้กรามนูนขึ้นมาเป็นสัน
“คนเราเมื่อมันโชคร้ายแม่งก็ร้ายสุด ๆ เลยนะ” เขายกแก้วในมือขึ้นมาดื่มอีกครั้ง
“อย่าพูดเป็นลางร้ายสิครับ ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับผมนะ อีกอย่าง...ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ๆ ผมก็ควรมองที่ปัจจุบันมากกว่าว่าไหม”
“คิดได้แบบนั้นก็ดี แต่อย่าไปชอบถูกเมียใครแล้วกัน” คำพูดลอย ๆ ทำให้มาวินหัวเราะเสียงดัง
“วันนี้พี่แปลกนะ ถามอะไรก็ไม่รู้ คิดมากเรื่องแฟนพี่หรือเปล่าถึงถามกับผมแบบนี้” เขาถามคำถามกลับแต่กลับได้มาแค่ความเงียบเท่านั้น สีหน้าของมาธัสยังคงไม่แสดงออกสิ่งใด
“จะกลับตอนไหน” เขามองนาฬิกาข้อมืออยากทำงานที่ค้างเอาไว้
“อีกสักพัก ถ้าอยากทำงานก็ไปทำเถอะ ผมจะนั่งอยู่ในห้องนี่แหละ” มาวินเอนหลังพิงไปด้านหลังจ้องมองไปที่กิ่งฟ้าอยู่เช่นเดิม
“งั้นกูลงไปดูความเรียบร้อยข้างล่างก่อน อยากดื่มอะไรก็สั่งมาเลย” เขาว่าจบแล้วเดินออกมาจากห้องทำงาน มาธัสหลบเดินเข้ามาหยุดยืนมองดูกิ่งฟ้าที่มุมมุมหนึ่ง
ทันทีที่เธอลุกมาเข้าห้องน้ำเขาก็ไม่รอช้าที่จะเดินตามหลัง รอให้เธอออกมาแล้วจับแขนลากขึ้นไปบนห้องชั้นสาม ก่อนใช้เท้าปิดประตูเสียงดังเหมือนกับอารมณ์ที่ร้อนรุ่มในตอนนี้
“ปล่อยนะ!!” เธอไม่ทันที่จะร้องขอความช่วยเหลือเขาก็ลากเธอให้เดินตามมาในห้องที่มีเพียงเตียงนอนกว้างเท่านั้น
“ดื่มมากเกินไปหรือเปล่า” สองข้างแก้มของหญิงสาวแดงระเรือง ด้วยที่กิ่งฟ้าเป็นคนผิวขาวพอได้ดื่มเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ก็ทำให้เธอผิวพรรณมีเลือดฝาดขึ้นมาทันที
“อย่ามายุ่ง บอกแล้วไงว่าไม่อยากเจอหน้า” เธอไม่ยอมให้เขาเข้ามาใกล้ทั้งยังพยายามจะออกไปจากห้องเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่กับเขาเพียงลำพัง