“ไม่จริงใช่ไหมเนี่ย?” ใบหม่อนหรือเมิ่งเจียวซินเอ่ยขึ้น เพราะเธอยังตั้งรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไม่ทัน
(โฮสต์ไม่จำเป็นต้องพูดโต้ตอบกับทางระบบค่ะ เพราะทางที่ดีพวกเราควรสื่อสารกันทางจิตน่าจะสะดวกกับทางโฮสต์มากกว่าค่ะ)
“เดี๋ยวก่อนนะคะ ฉันขอตั้งสติสักครู่ค่ะ” เมิ่งเจียวซินยังคงตอบกลับอีกฝ่ายด้วยการพูด ก่อนจะหลับตาลงเพื่อรวบรวมสติแล้วลืมตากลับขึ้นมามองมือ แขน และชุดที่เธอกำลังสวมใส่ จากนั้นเธอจึงมองไปยังบริเวณโดยรอบพร้อมกับคิดในใจ
‘อย่าบอกนะว่า...ตอนนี้ฉันทะลุมิติเข้ามาในนิยาย แล้วถ้าหากเป็นเรื่องจริงในนิยายส่วนใหญ่คนที่ทะลุมิติเข้าไปในนั้น ก็มักจะทะลุเข้าไปในนิยายเรื่องที่เพิ่งจะอ่านจบ หรือกำลังอ่านอยู่ก่อนตาย...’
(โฮสต์ใจเย็นก่อนนะคะ ตอนนี้อีกร่างหนึ่งของโฮสต์ยังไม่ตายค่ะ แต่ที่โฮสต์คิดเกี่ยวกับเรื่องของนิยายนั้นถูกต้องแล้วนะคะ เนื่องจากทางเราได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดใจของนักอ่าน ที่ได้เข้าไปอ่านนิยายของน้องชายโฮสต์ ซึ่งตอนนี้ก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และหนึ่งในความเจ็บปวดใจนั้นก็คือตัวโฮสต์เอง
ดังนั้นในฐานะที่โฮสต์เป็นพี่สาวของคนเขียนนิยายเรื่องนี้ ทางเราจึงเปิดระบบที่มีชื่อว่า ‘รับรู้แล้วแก้ไขไปพร้อมกับการเรียนรู้ด้วยชีวิตจริง’ ให้กับโฮสต์เป็นพิเศษเลยค่ะ
ซึ่งทางเราจะมอบทางเลือกให้กับโฮสต์จำนวนสองทาง คือ...
ทางเลือกแรก โฮสต์จะต้องใช้ชีวิตเป็นตัวละครในนิยาย เพื่อทำภารกิจที่ทางเราจะมอบให้จนสำเร็จภายในระยะเวลาสองปีของโลกใบนี้ค่ะ ซึ่งถ้าหากโฮสต์สามารถทำสำเร็จได้สามในห้าภารกิจ โฮสต์ก็จะสามารถกลับไปใช้ชีวิตยังโลกใบเดิมของโฮสต์แบบปกติสุขได้อีกนานเลยค่ะ ซึ่งเงื่อนไขอื่น ๆ และภารกิจทั้งห้า ทางระบบจะขอแจ้งเพิ่มเติมหลังจากที่โฮสต์ตกลงเลือกทางเลือกนี้นะคะ
ทางเลือกที่สอง โฮสต์สามารถใช้สิทธิไม่รับภารกิจ แล้วขอกลับไปยังโลกใบเดิมได้ค่ะ ซึ่งทางระบบจะทำการส่งโฮสต์กลับไปยังร่างเดิมทันที แต่ระบบขอแจ้งก่อนนะคะว่า โฮสต์มีเวลาใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนั้นอีกเพียงแค่ยี่สิบสี่วัน โดยเวลาในแต่ละวันของโฮสต์จะหมดไปกับการนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล แล้วอาการทางร่างกายของโฮสต์ก็จะหนักขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตเลยค่ะ)
“หึ! ฟังดูเหมือนฉันจะมีทางเลือกนะคะ” เมิ่งเจียวซินเอ่ยประชดอีกฝ่ายกลับทันที หลังจากได้ฟังสิ่งที่ระบบอธิบายในหัวจบ
(โฮสต์จะเลือกทางเลือกไหนดีคะ?)
“ทางเลือกที่หนึ่งค่ะ โอ้ย!” ตอบคำถามอีกฝ่ายยังไม่ทันจบ เมิ่งเจียวซินก็รู้สึกปวดศีรษะ จากนั้นเธอก็รับรู้ได้ถึงความทรงจำต่าง ๆ ของตัวละครที่กำลังไหลเข้ามาในสมอง
(นั่นคือข้อมูลทั้งหมดของตัวละครที่โฮสต์จะต้องเข้ามาสวมบทบาทต่อค่ะ)
เมิ่งเจียวซินนั่งไล่ดูความทรงจำทั้งหมดของตัวละครตัวนี้ ซึ่งแน่นอนว่าความทรงจำเหล่านี้ไม่มีปรากฏอยู่ในเนื้อหาของนิยาย
โดยตอนนี้เมิ่งเจียวซินก็รู้แล้วว่า เธอได้เข้ามาอาศัยอยู่ในร่างของตัวละครที่มีชื่อเดียวกันกับตนเอง แล้วในอนาคตตัวละครตัวนี้จะได้ไปเป็นชายาคนที่แปดของพระเอก ซึ่งเท่าที่เธอจำได้ตัวละครตัวนี้เป็นเพียงแค่ตัวประกอบที่มีบทบาทอยู่ในช่วงท้ายของเนื้อเรื่อง และโผล่ออกมาเพียงแค่สองบทเท่านั้น แล้วที่สำคัญตัวละครตัวนี้ก็ตายไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่เสียความบริสุทธิ์ให้กับพระเอก!
พอได้รู้เมิ่งเจียวซินก็แทบอยากจะก้มลงไปกราบขอบคุณระบบ เพราะถ้าหากส่งเธอเข้าไปอาศัยอยู่ในร่างของสตรีคนอื่น ซึ่งสตรีส่วนใหญ่ในนิยายเรื่องนี้สุดท้ายก็จะกลายไปเป็นหนึ่งในบรรดาเมียอีกสี่ร้อยยี่สิบแปดคนของพระเอก
แล้วพอเธอนึกไปถึงพระเอกของนิยายเรื่องนี้ เมิ่งเจียวซินก็จำได้ว่า หลังจากที่เธออ่านนิยายเรื่องนี้จบ มันก็ทำให้เธอเพิ่งเข้าใจนิยามของคำว่า ‘พระเอกสายดาร์ก’ คืออะไร เนื่องจากพระเอกของนิยายเรื่องนี้โหดร้ายเสียยิ่งกว่าตัวร้ายของเรื่อง อีกทั้งยังมีนิสัยเย็นชา ไม่สนใจใคร แต่พอได้เปิดปากต่อว่าผู้ใดก็ปากจัดเสียยิ่งกว่าสตรี แถมเวลาเข้าฉากเซอร์วิสพระเอกของนิยายเรื่องนี้ก็ไม่เคยทะนุถนอมสตรีเลยสักครั้ง เพราะเจ้าตัวมองสตรีเป็นเพียงเครื่องมือช่วยเพิ่มพลังหยิน และเป็นเพียงที่ระบายอารมณ์ของเจ้าตัวก็เท่านั้น แล้วยิ่งหลังจากที่พระเอกของนิยายเรื่องนี้ถูกธาตุไฟเข้าแทรก...
เมิ่งเจียวซินคิดไปถึงฉากที่พระเอกเสพสังวาสกับสตรีพร้อมกันถึงห้าคน มันก็ทำให้เธอรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที
(จากนี้ทางระบบขอแจ้งเงื่อนไขต่อเลยนะคะ)
.......................................................................
ผู้เขียนขอขอบคุณทุกยอดวิว ยอดกดหัวใจ ยอดกดติดตาม และทุกข้อความของผู้อ่านทุกท่านมาก ๆ นะคะ ทุกยอดคือกำลังใจที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆของผู้เขียนเลยค่ะ