เข้าถ้ำเสือ 3

1389 Words
การปรากฏตัวของอรอินทร์ในวันนี้ให้ความรู้สึกแตกต่างจากวันแต่งงานของเจ้าสัวกับนงเยาว์ วันนั้นเธอสวยสะพรั่ง แต่วันนี้แทบจะเหมือนป้าไปแล้ว ถึงกระนั้นความสวยของเธอก็ทะลุเสื้อผ้าเชยๆ นั้นออกมาจนได้ ทำให้หนุ่มๆ ต่างก็เมียงมองสนใจ “นั่นลูกสาวเจ้าสัวนะ ไม่ใช่พนักงานธรรมดา อย่าแม้แต่จะคิดเชียว” สุชาดา สาวใหญ่ผู้ช่วยของปวีร์หันไปดุพนักงานชายที่ชะเง้อชะเง้อมองตามหลังหญิงสาวไป จากนั้นจึงหมุนตัวเดินตามทั้งคู่เข้าไปในห้อง เมื่อเห็นสุชาดา อรอินทร์ก็ยกมือไหว้โดยที่ปวีร์ไม่ต้องแนะนำให้รู้จักและไม่มีท่าทีหยิ่งผยองว่าตนเป็นลูกเลี้ยงของเจ้าสัวแต่อย่างใด ทำให้ผู้สูงวัยกว่ามองเธออย่างเอ็นดูและนึกชมในใจว่านงเยาว์สอนลูกได้ดี อรจิราเองก็น่ารัก นอบน้อมถ่อมตนอย่างนี้เช่นกัน ทำให้ทุกคนในบริษัทต่างก็ชื่นชมและเอ็นดูเธอกันทุกฝ่าย “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ป้าสุ” หญิงสาวเอ่ยนอบน้อม “ยินดีมากๆ ค่ะ...เชิญค่ะ” ตอนท้ายผายมือเชิญเธอไปข้างนอก ซึ่งสุชาดาจัดโต๊ะไว้รอแล้ว “เดี๋ยว คุณสุ ให้คนยกโต๊ะอรอินทร์เข้ามาข้างในห้องนี้เลย...พอดีผมมีเรื่องด่วนต้องให้ทำตอนนี้เลย ขี้เกียจตามหลายรอบ” สั่งเสร็จ เขาก็นั่งลงและเริ่มต้นทำงาน ไม่ได้เงยหน้ามามองผู้ช่วยคนใหม่ที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แค่นี้ก็อึดอัดจะแย่แล้ว “ค่ะ” สุชาดารับคำ แล้วหมุนตัวเดินออกไป “คุณวีร์คะ แอ้นขอนั่งข้างนอกนะคะ สะดวกกว่าค่ะ” เธอเว้นคำว่า ‘ใจ’ ไว้ในใจ “ระหว่างรอโต๊ะ มาสรุปรายละเอียดที่ให้อ่านในรถให้ฉันฟัง” เขาเงยหน้าสั่ง พลางชี้ที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเขา “คะ?” เขาไม่เอ่ยอะไรอีก ก้มลงทำงานตรงหน้าต่อ อรอินทร์สูดลมหายใจยาวๆ เพื่อตั้งสติ ก่อนก้าวไปนั่งตรงข้ามเขา แล้วเริ่มต้นพูดสิ่งที่เธอได้อ่านตอนอยู่บนรถ ระหว่างฟังเธอพูด เขาก็ทำงานไปด้วย คล้ายไม่ได้สนใจฟัง แต่เขาก็มีคำถามย้อนกลับมาให้เธอรู้ว่า เขาได้ยินทุกประโยค พอเธอรายงานผลจบ พนักงานผู้ชายสองคนก็ยกโต๊ะเข้ามาพอดี อีกคนยกเก้าอี้ โดยมีพนักงานหญิงช่วยสุชาดาถืออุปกรณ์ตามมา เจ้าของห้องเงยหน้าจากงานแล้วชี้ไปที่มุมตรงข้าม ไม่นาน การจัดโต๊ะก็เสร็จสิ้น อรอินทร์ขอบคุณพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็เดินจากไป “ร่างจดหมายแล้วส่งให้ฉันดูก่อน” ปวีร์สั่งขึ้นอีก หญิงสาวจึงลุกไปนั่งที่โต๊ะซึ่งตอนนี้มีแลปท็อบใหม่เอี่ยมเปิดรออยู่แล้ว งานร่างจดหมายไม่ยากสำหรับอรอินทร์ เพราะที่ทำงานเก่า เธอก็เคยทำมาแล้ว ถึงกระนั้นเธอก็ยังต้องมีคำถามถามสุชาดาอยู่ดี จึงวิ่งเข้าวิ่งออกอยู่หลายรอบ ใกล้เที่ยง ประตูห้องทำงานของปวีร์ก็ถูกผลักเข้ามาโดยไม่มีการเคาะ มีกลิ่นน้ำหอมโชยเข้ามาก่อน ก่อนที่หญิงสาวคนหนึ่งจะก้าวเข้ามา สวย สะดุดตา แต่งตัวออกแนวเซ็กซี่แบบหรู ดูดี แต่งหน้าบางๆ เน้นดวงตาให้คมกริบ เธอชะงักไปเมื่อเห็นอรอินทร์นั่งอยู่ในนั้น “เอ๊ะ?...” อรอินทร์เองก็ชะงักไปเช่นกัน ด้วยรู้จักผู้หญิงคนนั้นดี ปาริดา ไฮโซสาว ลูกสาวเจ้าสัวธนากร เจ้าของธุรกิจนำเข้ารถยนต์ ที่เพิ่งจะหย่ากับสามีต่างชาติเมื่อสามสี่เดือนก่อนนั่นเอง อรอินทร์ส่งยิ้มให้ แต่ปาริดาก็เมินหน้ากลับไปก่อน “วีร์รับพนักงานใหม่เหรอคะ” เธอถามชายหนุ่มเจ้าของห้อง “ครับ...คุณปลากลับจากอเมริกาเมื่อไหร่ครับ” ปวีร์เงยหน้าจากงาน “เมื่อวานนี้เองค่ะ เบื่อจะตายไป เที่ยวกับคุณแม่ ท่านไปไหนไม่ได้มาก เลยได้แต่อยู่แถวโรงแรม นี่ถ้าวีร์ไปกับปลา เราก็คงเที่ยวกันสนุก” สาวสวยว่าพลางทรุดกายลงนั่งตรงข้ามเขา “ผมไปไม่ได้ เพราะต้องเตรียมงานแต่งคุณพ่อไง” “จริงด้วย งานแต่งราบรื่นมั้ยคะ...” ปวีร์ยังไม่ทันตอบ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง ผู้ที่ก้าวเข้ามาคือ หญิงสาวผิวขาวจัด แต่งหน้าจัดเต็ม แต่งตัวด้วยชุดวับแวม “วีร์ขา...” เรียกเขาด้วยเสียงสดใส ก่อนจะชะงักกึกเมื่อเห็นปาริดา คนนี้อรอินทร์ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน พร้อมกันนั้นก็นึกทึ่ง นี่ปวีร์ฮอตขนาดนี้เชียวหรือ “อ้าว คุณปลา กลับจากเมกาแล้วเหรอคะ” ผู้มาใหม่เอ่ยทักก่อน ก่อนรี่เข้าไปใกล้ปาริดา “อุ๊ย ดูสดใสขึ้นนะคะ สงสัยคงเพราะได้ ‘กินของ’ ที่คุ้นเคยใช่มั้ยคะ” สาวหน้าหมวยเน้นคำว่า ‘กินของ’ ปาริดาที่รู้ว่าถูกจิกกัด ยิ้มกลับอย่างใจเย็น “ปลาไม่ชอบกินอะไรเดิมๆ หรอกค่ะ เพราะไม่ใช่คนติดอะไรง่ายๆ เหมือนที่คุณเกวเสพติดศัลยกรรม...” แล้วไฮโซสาวก็เอียงหน้ามองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา “เอ...กลับมารอบนี้คางแหลมขึ้นนะคะ อีกนิดเดียวก็ใช้แทนเข็มได้แล้วนะคะเนี่ย ทานโทษนะคะ ตอนทำคางให้คุณเกว หมอเขากินปลาจวดอยู่หรือเปล่า” ว่าจะไม่หัวเราะแล้วเชียว แต่อรอินทร์ก็อดไม่ได้ เธอเผลอหลุดเสียงพรืดออกมา จนเกวหรือเกวลินหันขวับมามองด้วยความแปลกใจ เนื่องจากตอนแรกไม่ทันเห็นเธอ “ใครคะ คุณวีร์...ทำไมแต่งตัวเหมือนหลุดมาจากยุคคุณยายแบบนี้ล่ะคะ” “แอ้นเป็นลูกสาวคนเล็กของน้าเยาว์ แม่เลี้ยงผม” ได้ยินอย่างนั้น สองสาวก็พร้อมใจกันพุ่งตัวมาหาอรอินทร์ จนเธอต้องผงะถอยหลังกรูดด้วยความตกใจ “น้องสาวคุณวีร์เหรอคะ อุ๊ย น่ารักจังเลยค่ะ” เกวลินเปิดฉาก ‘เลีย’ ก่อน มองเธอเหมือนมองเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องเอาใจ “อายุเท่าไหร่คะเนี่ย หน้าเด็กเหมือนยังเรียนอยู่เลย ทำงานเป็นแล้วเหรอคะ เก่งจัง” “เอ่อ...” อรอินทร์ไม่รู้จะพูดว่าอะไรเลยจริงๆ “หน้าสวยจังเลยค่ะ ทั้งสวยทั้งน่ารักทั้งเก๋ นี่ถ้าจับแต่งตัวดีๆ หน่อย ขี้คร้านหัวบันไดบ้านวีร์ไม่แห้งนะคะ” ปาริดาพูดบ้างขณะเอียงคอมองเธออย่างพิจารณา อรอินทร์ยิ้มแห้งๆ รู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลยที่โดนมองและวิจารณ์อย่างนี้ แม้จะเป็นคำชมก็เถอะ “สวัสดีค่ะ พี่ชื่อเกวนะคะ เป็นเพื่อนสนิทกับวีร์ค่ะ” เกวลินแนะนำตัวขึ้นพร้อมรอยยิ้มหวานที่แม้แต่เด็กก็รู้ว่าไม่ได้ออกจากใจ “ส่วนคนนี้ปาริดา เป็นเพื่อนของวีร์ค่ะ ไม่ได้สนิทเท่าไหร่” “ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” อรอินทร์พยักหน้ารับทราบ “ขอตัวทำงานต่อก่อนนะคะ” เท่านั้นเอง สองสาวก็ผละไปหาปวีร์ เพื่อชวนเขาไปทานข้าวเที่ยง “ไปกับปลานะคะ วีร์ ตอนนี้มีร้านอาหารอิตาเลี่ยนมาเปิดใหม่ เป็นของเพื่อนปลาเอง ไว้ใจเรื่องคุณภาพและความอร่อยค่ะ” “ไปทานติ่มซำเจ้าดังกับเกวดีกว่านะคะ เกวไม่ได้ทานนานแล้ว วีร์พาไปทานหน่อยนะคะ” “ไปกับปลาค่ะ” “ไปกับเกวดีกว่าค่ะ อาหารฝรั่งเลี่ยนจะตาย” “ก็ยังดีกว่าอาหารจีน...” “ผมจะไปทานกับแอ้น นัดไว้แล้ว” ปวีร์เอ่ยขัดขึ้นพลางลุกขึ้น และคนที่ ‘นัดไว้แล้ว’ ก็หน้าตาตื่น นัดตอนไหนไม่ทราบ “ไปแอ้น ไปกินข้าวกัน วันนี้อยากกินส้มตำแซบๆ” ไม่พูดเปล่า เขาเข้ามาจูงมือเธออีกด้วย อรอินทร์ฝืนตัวไว้เพราะไม่อยากเป็นหนึ่งในเกมหนีหญิงของเขา “แต่ว่าแอ้น...” เธอจะบอกเขาว่านัดพี่สาวเอาไว้แล้ว “เร็วๆ หิวแล้ว” เขาทำเสียงดุ มองเธอเชิงบังคับ และเธอก็จำต้องยอมเขาอีกเหมือนเคย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD