พอลงมาถึงด้านล่างผมก็หันซ้ายขวา สายตามองหาโต๊ะว่างแล้วจัดการพาตัวเองไปนั่งเป็นเหยื่อเพื่อล่อสาวให้เข้ามาหา และไม่ถึงห้านาทีก็มีเหยื่อที่เสืออย่างพวกผมตั้งใจล่อเข้ามาติดกับ สาวสวยหุ่นเซ็กซี่สองคนเดินตรงเข้ามาหาก่อนจะทอดสะพานให้พวกผมอย่างจงใจ
“ขอโทษนะคะ ขอชนแก้วด้วยได้ไหมคะ” สาวสวยในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่เผยส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจนเดินมาหยุดยืนข้างผมและเบียดหน้าอกตูมของเธอเข้ากับต้นแขนของผมอย่างจงใจพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนมาด้วย ผมที่เห็นเธอเสนอมาแบบนั้นมีเหรอจะไม่สนอง
“ยินดีครับ” ว่าพลางยกแก้วขึ้นไปชนกับเธอก่อนจะสบตากับเธอพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก
“ชื่อนาเดียร์นะคะ แล้วนี่ก็ลูกปัดเพื่อนของนาเดียร์เอง ว่าแต่พวกคุณชื่ออะไรเหรอคะ” สาวสวยในชุดเดรสสีแดงเพลิงนามว่านาเดียร์เอ่ยแนะนำตัวเองและเพื่อนของเธอ แต่ดูเหมือนเพื่อนของเธอจะสนใจไอ้อาร์มเข้าให้แล้วเพราะดูเธอไม่ได้สนใจเพื่อนของตัวเองเลยเอาแต่จ้องหน้าไอ้อาร์มด้วยสายตาหวานฉ่ำ
“ผมอิฐครับ ส่วนนี่เพื่อนผม... ไอ้อาร์ม” นาเดียร์พยักหน้าเป็นเชิงทักทายให้ไอ้อาร์มพร้อมกับยิ้มหวานให้พวกผม ส่วนลูกปัดที่เอาแต่จ้องหน้าไอ้อาร์มก็หันมายิ้มให้ผมด้วยเช่นกัน
“ขอพวกเรานั่งด้วยคนได้ไหมคะ พอดีไม่มีโต๊ะว่างเลยอ่ะค่ะ” ว่าพลางยิ้มหวาน แววตาของพวกเธอดูก็รู้ว่าไม่ได้แค่อยากนั่งตรงนี้แน่ ผมกับไอ้อาร์มที่รู้จุดประสงค์ของพวกเธอก็ได้แต่ยิ้มแล้วเชื้อเชิญสองสาวให้นั่งด้วยกันตามที่พวกเธอต้องการ จากนั้นบทสนาก็เริ่มขึ้น ดูพวกเธอกระตือรือร้นในการทำความรู้จักกับพวกผมมาก แต่ก็ดีครับผมชอบผู้หญิงที่เก่งกาจในเรื่องนี้เพราะผมจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมากในการเริ่มต้น หึๆ...
“แล้วนี่คุณอิฐกับคุณอาร์มมาดื่มกันสองคนเหรอคะ?” สาวสวยในชุดเดรสรัดรูปสีขาวเอ่ยถามพวกผมก่อนจะหยุดยิ้มให้ไอ้อาร์มอย่างจงใจ
“เปล่าครับพวกผมมากับเพื่อนอีกสองคน แต่พอดีพวกมันกลับไปแล้วน่ะครับ... แล้วนาเดียร์กับลูกปัดหละครับมากันแค่สองคนเหรอครับ หรือว่ารอใครอยู่ด้วยเหรือเปล่าครับ” ถามเป็นการหยั่งเชิงเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเธอไม่ได้มากับคนอื่นเพราะผมยังไม่อยากมีเรื่องกับใคร
“เดียร์มากับลูกปัดแค่สองคนค่ะ แต่ว่าคืนนี้ไม่อยากกลับกันแค่สองคนน่ะสิคะ....ต้องทำไงดีน้าาาา” นาเดียร์ยิ้มยั่วยวนอย่างชัดเจนผมกับไอ้อาร์มถึงกับยกยิ้มมุมปากเลย
“นั่นสิครับ ต้องทำไงดีครับ พวกผมก็เพิ่งมาด้วยสิยังไม่อยากกลับเลย” เป็นไอ้อาร์มที่เอ่ยขึ้นมาเป็นเชิงหยอกแต่คนฟังก็เหมือนจะรู้ดีว่าพวกผมไม่ได้คิดเหมือนที่พูด พวกเธอยกยิ้มหวานมาให้แต่ไม่ได้พูดอะไรพร้อมกับยกแก้วขึ้นมาชนกับพวกผมแทน สายตาที่มองมามันเชิญชวนอย่างเห็นได้ชัด
“ลูกปัดรู้สึกมึนหัวจังเลยค่ะ เดี๋ยวลูกปัดขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” แล้วลูกปัดก็เริ่มเดินเกมส์ก่อนคนแรกด้วยการแสดงที่เธอคิดว่าเนียนสุดแต่ผมกับไอ้อาร์มรู้ดีว่ามันเป็นการแสดงที่ห่วยสุดแต่เพราะพวกผมต้องการกลับกับพวกเธออยู่แล้วจึงมองข้ามการแสดงของเธอไป
“เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อนนะ” นาเดียร์ว่าพลางยิ้มกริ่มกับเพื่อนของเธอ
“ไม่เป็นไงหรอกแก แกเองก็ดื่มไปตั้งเยอะคงจะเมาไม่ต่างไปจากฉัน... จริงไหม? เดี๋ยวฉันไปเองดีกว่า.... อุ้ย มึนหัวจังเลยค่ะ” เธอว่าพลางลุกขึ้นยืนแล้วเซถลามาหาไอ้อาร์ม ไอ้อาร์มไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ยกยิ้มแล้วมองมาทางผมก่อนมันจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วประคองลูกปัดไว้แนบอก
“เดี๋ยวผมพาไปเองก็ได้ครับ”
“จะดีเหรอคะ... แต่ก็ขอบคุณนะคะ” เธอว่าพลางยิ้มหวานให้ไอ้อาร์มก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินออกไป ผมรู้ดีว่าสองคนนั้นไม่ได้ไปห้องน้ำแต่นอน เพราะผู้หญิงทอดสะพานขนาดนั้นมีเหรอไอ้เสืออาร์มจะปล่อยไว้น่ะ
“ยัยลูกปัดนี่จริงๆ เลยนะคะ รู้ว่าตัวเองดื่มไม่ค่อยเก่งก็ยังจะดื่ม ก็เลยเมาแบบนั้นเลย... ว่าแต่คุณอิฐจะไปไหนต่อหรือเปล่าคะ?” นาเดียร์ตำหนิเพื่อนเบาๆ ด้วยท่าทางที่ไม่จริงจังนักแต่ผมรู้ดีว่ามันคือการแสดง แต่ถ้าพวกเธอคิดว่าแสดงได้ดีแล้วผมเองก็พร้อมที่จะยอกเชื่อ
“ไม่รู้สิครับ แล้วคุณนาเดียร์หละครับ... อยากไปไหนต่อหรือเปล่า” ผมแขนกับโต๊ะพลางจ้องมองดวงตาเรียวคู่คมตรงหน้าพลางยกยิ้มบางๆ ให้เธอไปด้วย เจ้าหล่อนอมยิ้มออกมาด้วยท่าทางเขินๆ ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบาแสนยั่วยวนออกมา
“ไปต่อห้องเดียร์กันไหมคะ พอดีเดียร์ได้ไวน์ขวดใหม่มา... คุณอิฐสนใจอยากจะลองชิมดูไหมคะ?”
“ก็ดีครับ ผมกำลังอยากดื่มไวน์พอดีเลย” ผมเองก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เธอพร้อมยกยิ้ม ก่อนจะเป็นฝ่ายลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือไปรับมือของเธอมาจับแล้วเดินออกจากร้านตรงไปยังลานจอดรถทันที......
พอมาถึงลานจอดรถนาเดียร์ที่เหมือนจะจู่โจมผมก่อนโดยการที่เธอเข้ามาประชิดตัวผมก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ พร้อมรอยยิ้มหวานพลางกัดริมฝีปากของตัวเองเบาๆ แต่ก่อนที่เธอจะเริ่มเกมส์ก็เหมือนเธอนึกอะไรขึ้นมาได้ดูท่าทางเลิ่กลั่กเล็กน้อย
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?” เลิกคิ้วเป็นเชิงถามเธอออกไป
“เดียร์ลืมโทรศัพท์มือถือไว้ในห้องน้ำน่ะค่ะ เดียร์ขอกลับเข้าไปเอาก่อนนะคะ เดี๋ยวเดียร์กลับมาค่ะ”
“ครับ” ว่าแล้วเธอก็รีบวิ่งกลับเข้าไปในร้านทันที ผมที่เห็นแบบนั้นก็กรอกตามองบนเล็กน้อยพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาพลางยืนพิงรถเพื่อรอเธอไปด้วย....
[ แตงกวา ]
หลังจากที่อายตาโดนผู้ชายตัวโตลากกลับไปแล้วฉันกับน้ำหวานก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนรักทันที แต่ว่าทั้งโทรทั้งไลน์ยัยอายตาก็ไม่มีท่าทีที่จะรับสายเลย ฉันกับน้ำหวานเลยได้แต่ถอนหายใจออกมาพร้อมกับมองหน้ากันไปมา
“คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง? อายตามันก็เหมือนจะรู้จักกับเขานะ?” ฉันเอ่ยออกมาเสียงเบา พูดออกมาแบบนั้นแต่ในใจก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
“ก็หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยถามมันอีกทีละกัน” น้ำหวานเองก็มองหน้าฉันด้วยความกังวลเหมือนกัน ปากบองว่าไม่มีอะไรแต่แววตาของมันดูเป็นห่วงอายตามาก...ฉันเองก็เหมือนกัน
“เอาเหอะ ค่อยว่ากันละกันแต่ตอนนี้ดึกแล้วเรากลับกันเหอะ” ฉันยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกามันบอกเวลาเกือบห้าทุ่มแล้วเลยเอ่ยชวนน้ำหวานเพื่อกลับบ้าน น้ำหวานเองก็พยักหน้าก่อนที่พวกเราจะพากันเดินออกมาจากร้านแล้วแยกย้ายตรงลานจอดรถวันนี้น้ำหวานเองก็ขับรถมาเหมือนกัน
ฉันเดินแยกออกมาเพื่อจะตรงไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกล แต่เดินมาได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักเท้าไว้เพราะอยู่ๆ ใครบางคนก็ก้าวเข้ามาหยุดยืนขวางหน้าฉันไว้ พอเงยหน้าขึ้นไปสบตาฉันก็ต้องพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมา ทอยด์ยืนมองหน้าฉันนิ่งพร้อมกับแววตาเศร้า ฉันเบี่ยงตัวเพื่อจะเดินเลี่ยงไปทางอื่นแต่แขนของฉันกลับถูกเขารั้งไว้
“เดี๋ยวสิแตงกวา เรามีเรื่องจะคุยด้วย”
“แต่ฉันไม่มี! แล้วก็ปล่อยแขนฉันเดี๋ยวนี้!!” ฉันพยายามสะบัดแขนของตัวเองให้หลุดพ้นจากการเกาะกุมของเขา แต่เขากับกระชับมันให้แน่นขึ้นจนกลายเป็นบีบจนฉันเจ็บ
“แต่ทอยด์อยากคุยกับแตงกวานะ” สายตาของเขาดูอ้อนวอนแต่ฉันไม่คิดจะสนใจอีกแล้ว เพราะเรื่องที่เขากับพี่สาวของฉันทำมันเกินที่จะให้อภัยได้
“ขอร้องนะทอยด์ เลิกยุ่งกับฉันซะที!!”
“ไม่!! ยังไงเราก็อยากคุยกับแตงกวา เรากลับไปคุยกันที่คอนโดนะ”
“ฉันกับนายเราเลิกกันไปแล้วนะ อย่ามายุ่งกับฉันอีก กลับไปหาผู้หญิงของนายโน่น!!” ฉันสะบัดข้อมืออย่างแรงจนมันหลุดออกจากเกาะกุมของเขา พลางถอยหลังหนีห่างออกมาเพราะสายตาที่ทอยด์มองมาที่ฉันตอนแรกมันมีแววอ้อนวอนแต่ตอนนี้กลับแข็งกร้าวขึ้นมาในแบบที่ฉันไม่เคยเห็นจากเขามาก่อน
“พูดดีๆ ไม่ชอบใช่ไหม! ชอบให้ฉุดว่างั้น?!!”
“นายบ้าไปแล้วเหรอ!! จบก็คือจบสิ เลิกเข้ามาวุ่นวายกับฉันซะที ฉันรำคาญ!”
“แต่ฉันไม่จบและจะไม่ยอมเลิกกับเธอง่ายๆ ด้วย!!”
“นายนี่พูดไม่รู้เรื่องเหรอ!! เรื่องที่นายกับพี่สาวของฉันทำไว้มันทำให้ฉันขยะแขยงมากแค่ไหนรู้ไหม!!” จริงๆ ฉันไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้อีกแต่คนตรงหน้าทำท่าทางเหมือนจะไม่ยอมจบจนฉันต้องฝืนพูดเรื่องของเขากับพี่สาวของตัวเองขึ้นมาอีกจนได้
“เราบอกแล้วไงว่าเราไม่ได้ตั้งใจ!!”
“ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอ คนไม่ได้ตั้งใจจะไปเอากันได้ไง จะบอกว่าละเมอเอากันงั้นเหรอ!!” ฉันตวาดเขาเสียงดังอย่างเหลืออด
“ก็ขอโทษแล้วไง อย่าเลิกกับทอยด์ได้ไหม ทอยด์รักแตงกวานะ!” ทอยด์ว่าพลางก้าวเข้ามาหาแต่ฉันก็ถอยหลังหนี จนในที่สุดก็หมุนตัวเดินหนีเขาไปอีกทางแต่ไม่วายที่ทอยด์ก็วิ่งเข้ามาขวางหน้าอีกครั้ง
“ทอยด์จะไม่ไปจนกว่าเราจะคุยกันให้รู้เรื่อง!!”
“นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ เลิกยุ่งกับฉันเพราะฉันจะไปหาแฟนฉัน หลบไป!!” ว่าแล้วก็เบี่ยงตัวหนีเขา
“แฟนงั้นเหรอ เพิ่งจะเลิกกันยังไม่ทันข้ามวันมีแฟนใหม่แล้วเหรอ?”
“แล้วทำไมจะมีไม่ได้ ทีนายยังไปเอากับพี่สาวฉันได้เลยทั้งๆ ที่ยังคบกับฉันอยู่!!”
“แตงกวา!!....”
“หลบ!!” แล้วฉันก็เดินเลี่ยงออกมา ขาเล็กก้าวยาวๆ จนเกือบถึงรถตัวเองพอหันไปมองด้านหลังก็เห็นทอยด์ที่ก้าวเท้ายาวๆ ตามมาติดๆ พลันสายตาของฉันก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนพิงรถก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงหน้า ฉันจึงรีบก้าวเข้าไปยืนข้างเขาทันทีพร้อมกับยื่นแขนไปควงแขนเขาไว้ด้วย
“รอนานไหมคะที่รัก” ว่าพลางยิ้มหวานให้เขาด้วย คนที่ถูกโมเมว่าเป็นแฟนฉันเงยหน้าขึ้นมามองฉันพร้อมกับเลิกคิ้วสูงแต่ไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไร
“ฉันขอร้องช่วยฉันหน่อยนะคะ” ฉันซึ่งตอนนี้จวนตัวมากไม่มีเวลาคิดเยอะจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เขาพร้อมกับเอ่ยออกมาเสียงเบาๆ ให้เขาได้ยินพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนไปให้เขาด้วยและหวังว่าเขาจะเข้าใจฉัน แต่เพียงครู่เดียวชายหนุ่มตรงหน้าก็ยกยิ้มมุมปากพร้อมกับยื่นแขนมาโอบเอวของฉันแล้วออกแรงดึงให้เข้าไปแนบชิดกับร่างแกร่งของเขา
“มัวไปทำอะไรมาครับผมรอตั้งนาน หืม...” เขาเปล่งเสียงทุ้มนุ่มละมุนออกมา ฉันที่เงยหน้ามองเขาได้แต่ทำหน้าอึ้งๆ ผู้ชายคนนี้เล่นตามน้ำได้เนียนมาก
“ขอโทษนะคะที่ให้รอนาน” ว่าพลางยิ้มหวานที่คิดว่าหวานสุดๆ ไปให้เขาด้วย
“แตงกวา... ไอ้หมอนี่ใคร??!!” ทอยด์ที่เดินตามมาทันหยุดยืนตรงหน้าฉันกับผู้ชายคนที่ช่วยฉันไว้พร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันพลางจ้องหน้าฉันเขม็ง
“ก็บอกแล้วไงว่าแฟนใหม่! ทีนี้จะเลิกยุ่งกับฉันได้หรือยัง!” ฉันสะบัดเสียงใส่ทอยด์ก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มอีกคนที่ยอมเล่นสมอ้างว่าเป็นแฟนใหม่ของฉัน และเหมือนเขาจะรู้งานก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงราบเรียบ
“ผู้หญิงเขาปฏิเสธขนาดนี้คุณก็ควรจะเลิกยุ่งกันเธอนะ แต่ถ้ายังตื้อไม่เลิก ผมนี่แหละจะทำให้คุณคลานออกไปจากตรงนี้แทนการเดิน!” น้ำเสียงราบเรียบแต่เจือไปด้วยความหนักแน่นและเย็นชาของผู้ชายคนนี้ทำเอาฉันขนลุกเลย ...นี่เขาจะเล่นเนียนเกินไปหรือเปล่า??... ทอยด์ทำท่าฟึดฟัดมองหน้าฉันสลับกับผู้ชายคนนี้ไปมาก่อนจะหันหลังเดินจากไป พอทอยด์เดินหายไปจนลับสายตาฉันก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะรีบผละออกห่างจากผู้ชายคนนี้พร้อมกับก้มหัวขอบคุณเขา
“ขอบคุณมากนะคะที่ยอมช่วยฉัน”
“ไม่เป็นไรครับ แต่ว่าถ้าอยากให้ผมเป็นแฟนจริงๆ ของคุณก็ได้นะ... ผมยินดี” ว่าแล้วก็ยิ้มหวานมาให้ฉันด้วย
“ไม่เป็นไรค่ะ...ขอบคุณ” ฉันยิ้มแหย่ๆ ให้เขาไป รู้สึกได้ถึงสายตาเจ้าชู้ของเขาขึ้นมาทันที เขาหน้าตาหล่อเหลามากแต่ก็ดูเจ้าเล่ห์มากด้วยเหมือนกัน
“อิฐคะ!! ผู้หญิงคนนี้ใคร?!” จู่ๆ เสียงหวานแหลมของสาวสวยคนหนึ่งก็ดังขึ้นพร้อมกับที่เธอเดินตรงไปยืนข้างเขา ฉันที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบหมุนตัวเดินหนีออกมา กลัวว่าถ้าขืนอยู่นานกว่านี้จะโดนแฟนตัวจริงของเขาตบเอาได้ ดังนั้นหนีออกไปจากตรงนี้ดีที่สุดแตงกวา.... ว่าแล้วก็จ่ำอ้าวตรงไปที่รถของตัวเอง จากนั้นก็ขับออกมาจากร้านมุ่งหน้ากลับคอนโดของตัวเองทันที.....
[ อิฐ ]
ในขณะที่ผมกำลังยืนรอนาเดียร์อยู่ที่รถพร้อมกับกดโทรศัพท์คุยไลน์กับเพื่อนไปด้วยหูของผมก็ได้ยินเสียงดังแว่วๆ มาเหมือนคนกำลังทะเลาะกันแต่ผมไม่ได้สนใจอะไร แต่แล้วจู่ๆ ก็มีผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินเข้ายืนข้างๆ ผมพร้อมกับยื่นมือเล็กมาควงแขนของผมไว้แน่นจากนั้นเธอก็โมเมว่าผมเป็นแฟนของเธอ ผมถึงกับเลิกคิ้วถามแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะดูท่าทางและแววตาของเธอที่มองมาเหมือนกำลังขอความช่วยเหลือ ในเมื่อมีผู้หญิงน่ารักขนาดนี้เสนอตัวอยากเป็นแฟนผมแล้วมีเหรอเสืออย่างผมจะขัดน่ะ ก็เล่นตามน้ำเธอไปเลยสิครับ... ชื่อของผู้หญิงคนนี้ที่ผู้ชายอีกคนเรียกเธอคือ “แตงกวา” ชื่อน่ารักใช่เล่น....
จากนั้นผมกับนาเดียร์ก็ขับรถออกมาจากร้านแล้วตรงกลับไปที่คอนโดของเธอตามคำเชิญของเธอ พอมาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง นาเดียร์จู่โจมเข้าหาผมทันที
“ใจร้อนจังครับ” ว่าพลางยกยิ้มร้ายให้เธอ ส่วนเธอที่กำลังลนลานถอดเสื้อผ้าของผมอยู่นั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตายั่วยวนสุดๆ แต่เธอไม่ได้ตอบอะไรก่อนลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพร้อมกับจัดการน้องชายของผมอย่างรวดเร็ว ในเมื่อเธอยั่วขนาดนี้เสืออย่างผมมีเหรอจะถอย เดินหน้าเต็มกำลังไปเลย... จากนั้นพวกเราก็เริ่มบทรักร้อนแรงตั้งแต่ประตูห้องจนมาจบที่เตียงนอนกว้างของเธอ
“อื้อออ อิฐค่ะ.... แรงๆ ค่ะ แรงๆ อ๊า...” เสียงหวานแหลมที่ฟังดูก็รู้ว่าเกิดจากการพยายามดัดเสียงของเธอครวญครางไม่หยุด ผมเองก็ตอบสนองตามที่เธอต้องการ สอบเอวเข้าใส่ไม่ยั้งแต่ทุกครั้งที่เกิดกิจกรรมแสนหวาบหวามแบบนี้ผมไม่เคยลืมป้องกันตัวเองหรอกนะครับ
“อ๊ะๆๆ อิฐค่ะ จูบเดียร์หน่อยสิค่ะ อ่าห์” ปากบางเล็กเอ่ยคำขอเสียงหวานแหบพร่า แต่ผมทำเพียงแค่จูบลงไปบนแก้มขาวพร้อมกับซุกไซ้ไล่ลงไปบนลำคอระหงเท่านั้น ถึงผมจะผ่านผู้หญิงมาเยอะแต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ผมจูบผู้หญิงที่นอนด้วย....เพราะริมปากของผมมันมีไว้ให้แค่ผู้หญิงเดียวที่อยู่ในใจเท่านั้น...
สะโพกสอบเร่งแรงกระแทกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับเสียงครางหวานจากคนใต้ร่างก็ดังไม่หยุดเหมือนกัน จวบจนผมพาเธอถึงฝั่งฝันแล้วถอดถอนตัวตนออกทันทีก่อนจะรีบลุกเดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการทำความสะอาดตัวเอง ก่อนจะเดินออกมาในสภาพที่แต่งตัวเสร็จแล้ว
“อิฐจะกลับแล้วเหรอคะ? ไม่ค้างกับเดียร์เหรอ? เดียร์ยังอยากอยู่กับอิฐต่อนะคะ”
“โทษทีครับ พอดีพรุ่งนี้ผมต้องเข้ามหาลัยแต่เช้าน่ะ ขอตัวนะครับ... ขอบคุณสำหรับคืนที่เร่าร้อน” ว่าแล้วก็เดินไปกดจูบที่หน้าผากมนของเธอก่อนจะก้าวเดินออกมาจากห้องนอน แต่ยังเดินไม่ถึงประตูมือเล็กของคนที่วิ่งตามออกมาก็รั้งกอดผมไว้จากด้านหลังพร้อมกับเบียดหน้าอกอวบของเธอเข้ากับแผ่นหลังของผมอย่างจงใจ แต่สำหรับผมเสร็จคือเสร็จ และยอมรับครับว่าผู้หญิงอย่างเดียร์ไม่ได้ทำให้ผมอยากต่อรอบสองหรือจะบอกว่ามันไม่ฟินก็ไม่ผิด ถึงลีลาของเธอจะเร่าร้อนแต่ผมไม่ได้รู้สึกดีขนาดนั้น... ผมแกะมือเล็กของเธอออกจากเอวก่อนจะหันหลังไปหาเธอ
“ครับ?” เลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่าเธอต้องการอะไร
“อยู่กับเดียร์ต่ออีกนิดไม่ได้เหรอคะ นะคะ...น้าาาา”
“ไม่หละครับ... ขอตัว” ว่าแล้วก็ยกยิ้มบางๆ ให้เธอก่อนจะหมุนตัวเดินออกมาจากห้องของเธอโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเธออีกเลย
“ชิ!! ผู้ชายบ้าอะไรไม่อยากเอาต่อ ปกติมีแต่คนอยากเอากับฉันทั้งนั้น ผู้ชายประสาท!!” นาเดียร์สถบอย่างหัวเสียเพราะเธอยังติดใจในลีลาเร่าร้อนและขนาดของชายหนุ่มที่เพิ่งเดินจากไปอยู่ แต่ชายหนุ่มทำเหมือนไม่สนใจในตัวเธอเลย ท่าทางของเขาทำให้เธอหงุดหงิดโมโหฟึดฟัดอยู่คนเดียว....