01 ดาราสาวกับองค์ชาย

2193 Words
เมื่อดาราสาวเซ็กซี่ที่มาแรงที่สุดแห่งยุคปรากฏตัว ผู้ชายทุกคนในสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์ ต่างหันมาจ้องมองเรือนร่างยั่วกิเลสของนางเป็นจุดเดียว ชุดวาบหวิวเนื้อผ้าบางใสแทบไม่ช่วยปกปิดสัดส่วนอะร้าอร่าม ยามหญิงสาวเยื้องย่าง เรียวขาเพรียวงามโผล่ออกมาทั้งท่อน ตอนนางย่อตัวลง แลเห็นแก้มก้นขาวผ่องรำไร ชวนให้คนหนุ่มคนแก่เก็บเอาไปจินตนาการแบบสุดโต่ง  ปฏิกิริยาลุกลนของผู้คนรอบข้าง ทำให้หญิงสาวเชิดหน้าด้วยความภูมิใจในเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามของเธอ แม้ว่าบทบาทที่เธอรับแสดงจะเป็นเพียงบทนางยั่วตัวร้ายและฉากสุดท้ายต้องตายอย่างน่าอนาถ แต่ก็เป็นภาพยนตร์จีนย้อนยุคฟอร์มยักษ์ระดับฮอลลี่วูด  หลังจาก ‘ลีน่า รัตนะวิเศษ’ สลัดคราบนางร้ายละครน้ำเน่า เพื่อก้าวขึ้นสู่บทนางเอกในภาพยนตร์เรตอาร์ ชื่อเสียงของหญิงสาวก็ดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมาเพียงชั่วข้ามคืน ด้วยพรสวรรค์ด้านการแสดงสุดแสนยั่วตัณหานี่เอง ทำให้ลีน่าโด่งดังไกลไปทั่วโลก กระทั่งได้รับการขนานนามว่าเป็น โมนิก้า เบลลุชชี แห่งเมืองไทย ‘แอนโทนี่ หวัง’ พระเอกฮอลลี่วูดเชื้อสายจีนอเมริกันคนดัง รีบรุดเข้ามากล่าวเชิญชวนลีน่าขึ้นเตียงเพื่อซ้อมบทหวาดเสียวก่อนการถ่ายทำจริงอย่างมีชั้นเชิง ฉากที่ทั้งคู่กำลังจะถ่ายทำ คือฉาก18+ในตำนาน แอนโทนี่รับบทเป็นยอดขุนพลโรมัน ซึ่งลักลอบเล่นชู้กับพระชายาคนโปรดขององค์จักรพรรดิ บนเตียงตั่งโบราณทำจากทองคำแท้ทั้งหลัง เพื่อความสมจริงสมจังของภาพยนตร์ ผู้อำนวยการสร้างฯ ลงทุนเช่าอุปกรณ์ประกอบฉากมาจากพิพิธภัณฑ์มรดกโลกด้วยจำนวนเงินมหาศาล  บรรดาสุภาพบุรุษกลัดมันในกองถ่าย ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มคนแก่ ตั้งแต่เด็กยกของ ตากล้อง ช่างไฟ ไปจนถึงผู้กำกับฯ ต่างสามัคคีกันมามุงดูการซ้อมซีนหวาดเสียวก่อนถ่ายทำจริงของพระเอกสุดหล่อกับนางยั่วตัวร้าย ท่าทางน้ำลายหกของพวกผู้ชาย ทำให้ลีน่าแอบยิ้มระรื่นในใจ หญิงสาวไม่ได้มองเห็นแค่ราคะในแววตาของคนเหล่านั้น แต่เธอมองทะลุไปไกลถึงอนาคตอันมั่งคั่งของตัวเอง แสงสปอตไลต์ขนาดใหญ่บนเพดานสตูดิโอสว่างจ้าราวกับพระอาทิตย์ดวงที่สอง ส่องกระทบเตียงตั่งทองคำเป็นรัศมีเหลืองอร่าม ช่วยขับผิวนวลงามของหญิงสาวให้ยิ่งผุดผ่องเป็นยองใยเย้ายวนยิ่งขึ้น เธอใช้สายตาหว่านเสน่ห์เชิญชวนให้พระเอกหนุ่มรูปหล่อเดินเข้ามาติดบ่วงสวาท พลางวาดนิ้วเรียวยาวเลื่อนไล้ตามเส้นโค้งเว้าของเรือนร่าง ด้วยลีลาแพศยานางร้ายระดับโลก  ความยั่วยวนของลีน่าชวนให้พวกผู้ชายคิดไม่ดีไปต่างๆ นาๆ แต่ไม่มีใครคาดถึงว่า ตอนที่ทุกคนกำลังจ้องมองหญิงสาวตาเป็นมัน ผู้ช่วยตากล้องจะเกิดอาการมือไม้สั่นจนบังคับเครนยกกล้องถ่ายวิดีโอชนเข้ากับสปอตไลต์บนเพดานอย่างแรง โครม!! เสียงแห่งความหายนะดังสนั่น ตามด้วยเสียงคนกรีดร้องดังลั่นสตูดิโอ ลีน่าเบิกตามองขึ้นไปที่ต้นกำเนิดเสียงอย่างตื่นตระหนก แล้วสติของเธอก็ดับวูบไปพร้อมกับความมืด...  บรรยากาศภายในตำหนักโม่ลี่ฮวา(ดอกมะลิ) ที่เงียบเหงาราวกับวัดร้าง พลันเกิดความโกลาหลอลหม่านขึ้น เมื่อร่างบอบบางของพระชายาลำดับสี่ในองค์รัชทายาทหยวนซี ซึ่งบรรทมหลับอยู่บนเตียงเป็นเวลาสามวันสามคืนเต็ม มีความเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย “องค์หญิงหลี่น่าทรงขยับได้แล้ว!” แม่นมหวงหลาน ซูปี้กับซูลี่นางกำนัลที่ติดตามองค์หญิงน้อยมาจากแคว้นฉงเยว่ ทั้งสามต่างพากันดีอกดีใจ  “ข้าจะไปตามหมอหลวงเฉิง” ซูปี้ขันอาสา ไม่มีใครรู้สาเหตุที่องค์หญิงหลี่น่าเป็นลมหมดสติ เพราะหลังจากนางถูกองค์รัชทายาทเรียกตัวไปปรนนิบัติที่ตำหนักหนิงเฉิง (ความสำเร็จแห่งสันติสุข) เวลาผ่านไปเพียงครึ่งชั่วยาม ทหารองครักษ์ประจำพระราชวังไป๋อวี้ (หยกขาว) ก็นำร่างไร้สัมปชัญญะขององค์หญิงหลี่น่ากลับมาส่งที่ตำหนักโม่ลี่ฮวา โดยปราศจากคำอธิบาย องค์รัชทายาทไม่ได้ย่างกรายมาเยี่ยมเยือนนางแม้แต่ครั้งเดียว มิหนำซ้ำพระองค์ยังมีรับสั่งให้พระชายาหลี่น่าเสวยโอสถรักษาพระวรกายอยู่ภายในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน กล่าวตามตรงก็คือ หยวนซีลงโทษกักบริเวณหลี่น่านั่นเอง หมอหลวงเฉิงตรวจชีพจรและฝังเข็มเงินกระตุ้นเลือดลมให้พระชายาตัวน้อย ครู่ต่อมาเปลือกตาบางใสที่ปิดสนิทก็ค่อยๆ กะพริบตอบสนองการมองเห็น   “ทรงฟื้นแล้ว!”  ร่างผอมบางลุกขึ้นนั่งบนเตียง ลีน่าหลียวมองผู้คนแปลกหน้าที่ห้อมล้อมด้วยแววตาสับสนระคนงุนงง เพราะเธอไม่รู้สึกคุ้นเคยกับใครเลย  “นี่เรากำลังฝันเหรอ? เฮ้ย!!” หญิงสาวเอาฝ่ามือปิดปากด้วยความตกใจ ทำไม... ไม่ใช่เสียงของเธอ ? ‘พี่สาว ตอนนี้ท่านอยู่ในร่างองค์หญิงหลี่น่า’ เสียงหวานใส ดังกังวานในโสตประสาทของลีน่า  ลีน่ามองหาคนพูดท่าทางเลิ่กลั่ก เพราะแน่ใจว่าผู้หญิงแต่งตัวโบราณทั้งสามคนที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดาน ไม่ได้ขยับปาก รึว่านางกำลังอยู่ในรายการล้อกันเล่น?  ทว่า... สังเกตจากความงดงามอลังการณ์ของวัสดุตกแต่งและเครื่องใช้ภายในห้องหับรโหฐานอันวิจิตรตระการตา รวมถึงเสื้อผ้าแบบโบราณทอจากวัสดุชั้นดีที่ทุกคนสวมใส่ ทุกสิ่งทุกอย่างดูหรูหราราวกับเป็นส่วนหนึ่งในพระราชวังต้องห้าม คาดเดาไว้ก่อนว่าต้องเป็นโปรดักชั่นของรายการบันเทิงระดับโลกอย่างแน่นอน  “พระชายาทรงตื่นบรรทมแล้วพะยะค่ะ”  หมอหลวงเกาเฉิงเป็นผู้ตอบ  “ตกลง... ข้าคือองค์หญิงหลี่น่า หรือพระชายาขี้เซากันแน่?” ลีน่ารับมุกไปตามน้ำ นางเริ่มก้าวสู่เส้นทางมายาตั้้งแต่อายุเพียงสิบห้าปี กระทั่งอายุยี่สิบแปดปีแล้ว พบเจอผู้คนมาทุกรูปแบบ เรื่องทำตัวให้กลมกลืนกับสถานการณ์คือความชำนาญพิเศษ ‘องค์หญิงหลี่น่าคือพระชายาคนที่สี่ขององค์รัชทายาทหยวนซี’ ‘เริ่ด! มีสต๊าฟบอกบทผ่านอุปรกรณ์สื่อสารติดตามตัวซะด้วย’ ดาราสาวเจ้าบทบาทคิดในใจ ‘ข้าไม่ใช่อุปกรณ์สื่อสารติดตามตัว ข้าคือวิญญาณขององค์หญิงหลีน่า เจ้าของร่างกายที่ท่านอาศัยอยู่ตอนนี้’  หญิงสาวเอามือลูบคลำบริเวณใบหูซึ่งว่างเปล่าไร้เครื่องประดับ แล้วก้มลงมองร่างกายผ่ายผอมที่มีความเป็นไปได้ว่าคือตัวของเธอเอง พลันดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นด้วยความตื่นตระหนก เมื่อตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ด้วยการเมคอัพหรือวิธีศัลยกรรม!  “กระจก... กระจกอยู่ไหน?”  แม่นมหวงชี้ไปที่กระจกทองเหลืองบานยาวที่ตั้งอยู่ข้างโต๊ะเครื่องแป้ง  “กระจกส่องเงาอยู่ตรงนั้นเพคะ”   ข้าราชบริพารสี่ชีวิตที่อยู่ในห้อง เหลียวมองหน้ากันไปมาด้วยสายตามีคำถาม เหมือนพระชายาตัวน้อยจะจดจำอะไรไม่ได้เลย แต่ท่าทางของนางดูแข็งแรงไม่เหมือนคนที่เพิ่งฟื้นจากการหลับใหลเป็นเวลานาน วิญญาณดาราสาวซึ่งอยู่ในร่างกายของพระชายาหลี่น่ายืนนิ่งประหนึ่งต้องคำสาป ดวงตากลมโตคู่งามเบิกกว้าง ขณะจ้องมองภาพสะท้อนบนกระจกส่องเงาทำจากทองเหลือง ราวกับมองเห็นสัตว์ประหลาด  หมายความว่ายังไง! นี่... เธอตายแล้ว แต่วิญญาณของเธอข้ามมิติมาอยู่ในร่างกายของเด็กสาวยุคโบราณ ใช่ไหม?  นัยน์ตาสีอำพันเจิดจรัสราวกับลูกแก้วเพ่งจ้องมองตอบโต้กับเธออย่างไม่ลดละ มาตรว่าจิตวิญญาณของลีน่าที่เชื่อมโยงกับร่างกายผ่ายผอมนี้ ได้หวนคืนสู่อดีตในวัยเยาว์ของเธอ  น่าทึ่งมาก...  ทุกองค์ประกอบบนใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่ คือความงดงามที่หญิงสาวทั้งโลกปรารถนา คิ้วเข้มหนาได้รูปรับกับหน่วยตากลมโตดุจนางกวาง จมูกโด่งสวยจนน่าอิจฉา  ลีน่าเอาปลายนิ้วแตะบนกลีบปากอ่ิมย้อยสีแดงอย่างเผลอไผล ก่อนจะเงื้อฝ่ามือตบเข้าที่แก้มขาวซีดตัวเองสองฉาด ซ้ายขวาติดต่อกัน เพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้กำลังตกอยู่ในอาการประสาทหลอนเพราะศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน หรือฝันไป  “พระชายา!” / “อย่าเพคะ!” แม่นมหวง ซูปี้กับซูลี่พากันแหกปากร้องเสียงดังเซ็งเแซ่ นางกำนัลทั้งสามกรูเข้ามาจับแขนขาของนายหญิงเอาไว้  ‘เธอเจ็บ! และเจ็บมากๆด้วย... ลีน่าเชื่อแล้วว่าตัวเองกำลังสิงอยู่ในร่างของคนอื่น’ ดาราสาวพยายามควบคุมสติเต็มที่ ลองนับหนึ่งถึงสอบในใจเธอยังเห็นดาวลอยวิ๊งๆ เหนือศีรษะ ตบได้หนักแบบนี้เป็นฝีมือเธอแน่นอน  ร่างผอมบางก้าวโซเซเหมือนเมา เดินไปทรุดนั่งลงบนเตียงนอนที่เธอเพิ่งลุกออกมา  ดวงตากลมโตงดงามดุจนางกวาง กวาดมองไปรอบๆ ภายในห้อง อย่างสำรวจตรวจตรา  จากการสันนิษฐานคร่าวๆ เป็นไปได้ว่า... ในโลกปัจจุบันลีน่าได้เสียชีวิตเพราะเกิดอุบัติเหตุระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ แต่เธอไม่มีเหตุผลอะไรจะอธิบายเกี่ยวกับโลกหลังความตายได้ และสถานที่วินเทจหรูหราแห่งนี้... ไม่มีทางเป็นนรกแน่นอน!  มีความเป็นไปได้สูงมากว่า... วิญญาณของเธอมาเกิดใหม่ในร่างกายของเด็กสาวชื่อหลี่น่า! ร่ำลือกันว่าองค์รัชทายาทแห่งแคว้นซ่งรูปงามเหนือบุรุษทั้งหลายในใต้หล้า ความสูงส่งสง่างามประหนึ่งเทพเซียนคืออาวุธประจำกายอันร้ายกาจของซ่งหยวนซี เหล่าสตรีผู้มีวาสนาที่ได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลา ร้อยทั้งร้อยต่างตกหลุมเสน่ห์ของพระองค์อย่างงมงาย ด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาด ประกอบกับความเก่งกาจเป็นเลิศทั้งด้านบุ๋นและบู๊ ทำให้เหล่าองค์ชายทั้งเก้าในองค์จักรพรรดิซ่งจินซีไม่มีใครกล้าเทียบบารมี นอกจากนี้ ซ่งหยวนซียังเป็นที่รักและเปรียบเสมือนขวัญกำลังใจของเหล่าข้าราชบริพารในวังหลวง เขาไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกระทำคุณงามความดีให้เป็นที่นิยมชมชอบของใคร เขาอาศัยแค่ความหล่อเหลาราวมิใช่มนุษย์ธรรมดามัดใจผู้คนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แม้กระทั่งองค์จักรพรรดิซ่งจินซียังต้องอาศัยความหน้าตาดีของบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนผู้นี้ เป็นเครื่องมือเชื่อมสัมพันธไมตรีกับแคว้นใต้ปกครองในหลายโอกาส ทำให้เหล่าองค์หญิงจากแคว้นต่างๆ ขอถวายตัวเป็นพระชายาขององค์รัชทายาทแคว้นซ่งเยว่  ในพระราชวังไป๋อวี้ (หยกขาว) ตำหนักในทั้งสิบสอง จึงมีพระชายาและพระสนมอาศัยอยู่ครบทุกตำหนัก เหลือเพียงตำหนักมู่ตาน (ดอกโบตั๋น) ที่ประทับสำหรับพระอัครชายา (เมียเอก) ซึ่งยังว่างเอาไว้  “ข้าได้ยินว่า ท่านทำให้พระชายาหลี่น่าเป็นลมหมดสติไปสามวันสามคืน”  อี๋ชินอ๋องเหยียนหมิงเอ่ยถามซ่งหยวนซีอย่างเปิดเผย เขาเป็นองค์ชายคนเดียวของพระอนุชาในองค์จักรพรรดิซ่งจินซี ซ่งเหยียนหมิงกับซ่งหยวนซีเติบโตและร่ำเรียนวิชาด้านบุ๋นบู๊มาด้วยกัน จึงกลายเป็นทั้งญาติพี่น้องและสหายสนิท “ข้าไม่ได้แตะต้องสตรีขี้ขลาดตาขาวผู้นั้นแม้แต่ปลายเล็บ นางทะเล่อทะล่าเข้ามาเจอเหมยซินกำลังบีบนวดให้ข้า แล้วนางก็เป็นลมล้มพับไปเอง” “นางคงไม่รู้จักวิธีปรนนิบัติบุรุษเพศกระมัง” ซ่งเหยียนหมิงเห็นภาพ เนื่องจากกระบวนการบีบนวดของตำหนักไป๋อวี้นั้นไม่ธรรมดา  “นางอายุสิบห้าแล้ว แต่ผอมแห้งราวกับเด็กอายุสิบสอง”  “ดอกไม้ที่ขาดน้ำ มิอาจเบ่งบาน” ซ่งเหยียนหมิงพูดสัพยอก ก่อนจะยกจอกสุราดื่มจนหมดจอก ซ่งหยวนซีมีรสนิยมเป็นเลิศ ทุกสิ่งที่เขาครอบครองต้องผ่านการเลือกเฟ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบกระทั่งบ่าวไพร่นางกำนัลในวังไป๋อวี้ยังคัดสรรค์รูปร่างหน้าตา พระชายาและพระสนมทุกนางล้วนเป็นสุดยอดโฉมสะคราญ และมีเรือนร่างงามสะพรั่งเต็มเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์แห่งสตรีเพศ ยกเว้น... พระชายาน้อยหลี่น่า นางคือความอัปยศ ที่เขาได้มาเพราะตำแหน่งทางการเมือง!   เวลาบ่ายคล้อย ขันทีฉางเจ๋อเดินประคองถาดป้ายหัวเขียว เข้ามาภายในตำหนักหนิงเฉิงอย่างนอบน้อม  “กระหม่อมนำป้ายหัวเขียว มาให้ไท่จื่อเลือกพระสนมชายาที่จะถวายงานคืนนี้พะย่ะค่ะ” ฉางเจ๋อกล่าวเสียงเบา “ให้อี๋ชินอ๋องเลือกแทนข้า”  ซ่งหยวนซียิ้มให้ญาติผู้น้องอย่างมีความหมาย ไม่ต้องพูดให้เปลืองน้ำลาย เขากับซ่งเหยียนหมิงรู้ใจกันดียิ่งกว่าฝาแฝดร่วมครรภ์มารดา หลังจากทั้งคู่ดื่มเมรัยจนเมามายได้ที่ เลือดลมในกายก็ไหลไปรวมกันอยู่ที่ความเป็นบุรุษเพศ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD