เมื่อก่อนหน้าที่เคยใกล้ชิดกับนาง ซ่งหยวนซีไม่เคยนึกพิศวาสเด็กสาวผู้นี้แม้แต่น้อย ทว่าตอนที่เขาสัมผัสเนื้อตัวนาง ร่างกายของเขามีอาการตื่นตัวจนรู้สึกปวดร้าวไปหมด
“เด็กสาวที่เดินชนท่านในตลาด คือพระสนมหลี่น่าใช่หรือไม่ ? ”
ซ่งเหยียนหมิงเคยเจอหลี่น่าเมื่อคราวที่นางเพิ่งเข้ามาอยู่ในพระราชวังไป๋อวี้ วันคืนหมุนผ่านไปรวดเร็วราวกับดีดนิ้ว ลองใคร่ครวญดูจึงตระหนักว่าล่วงเลยมาสามปีได้แล้ว ทว่าเขายังจดจำใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราของนางได้แม่นยำ
“เจ้าเห็นด้วยรึ” ซ่งหยวนซีถามกลับ
ซ่งเหยียนหมิงยกยิ้มตรงมุมปาก “ข้ามองเห็นได้ชัดเจนว่านางน่ารักมากแค่ไหน แต่จะมองอย่างไรนางก็ดูไม่เหมือนเด็กหญิงอายุสิบสองปีอย่างที่ท่านเคยกล่าวหาเลยสักนิด”
ซ่งหยวนซีทำเสียงฮึดอัดในลำคอ
“ดูเหมือนสุราที่ดื่มเข้าไปเมื่อคืนยังตกค้างอยู่ในท้องของเจ้าเป็นแน่ เจ้าจึงไม่สร่างเมาสักที”
“ถ้าหากท่านไม่ชอบพระสนมหลี่น่า ท่านยกนางให้กับข้าดีหรือไม่” อี๋ชินอ๋องเอ่ยพูดทีเล่นทีจริง
“ไม่ยักรู้ว่าเจ้าชอบกินเด็ก”
“เพิ่งรู้ตอนนี้ คงไม่สายไปหรอกกระมัง”
ความจริง ซ่งเหยียนหมิงมองเห็นหลี่น่าก่อนที่นางจะเดินชนกับไท่จื่อตั้งนานแล้ว เนื่องจากตอนเดินตรวจตราความเป็นอยู่ของราษฎร ร่างบางเดินผ่านหน้าเขาไปแบบเฉียดฉิว คล้อยหลังที่นางเดินเข้าไปในร้านค้า เขาก็ขึ้นมานั่งจิบชาแอบมองนางอยู่บนระเบียงชั้นสองของโรงเตี๊ยม และถือเป็นการนั่งรอซ่งหยวนซีไปในตัวอีกด้วย
แม้ว่าพระสนมหลี่น่าจะสวมใส่เสื้อผ้าสีพื้นแบบธรรมดาเหมือนชาวบ้านร้านตลาด แต่ผิวพรรณนวลผ่องดั่งหยกขาวมันแพะและดวงตาดอกท้อคู่งามที่เป็นประกายพราวใสราวกับเพชรสีนิลของนางคู่นั้นดูโดดเด่นเกินเด็กสาวทั่วไป อีกทั้งใบหน้าของนางก็มีส่วนคล้ายคลึงกับพระชายาหลี่รี่ผู้เป็นพี่สาวต่างมารดาอยู่หลายส่วน
“ท่านไม่เคยลังเลที่จะแบ่งปันสตรีสิบห้านางที่งามราวกับเทพธิดากับข้า แต่เด็กสาวไร้เสน่ห์ผู้นี้ ทำให้ท่านถึงกับพูดไม่ออกเชียวรึ”
“นางผอมบางราวกับจะปลิวไปตามลม สตรีเช่นนี้ไม่มีทางอุ้มท้องและให้กำเนิดทายาทแก่ราชวงศ์ซ่งได้อย่างแน่นอน”
ในที่สุดซ่งหยวนซีก็สามารถแก้ต่างให้ตัวเองได้
ตอนนี้ราชวงศ์ซ่งเยว่มีเพียงเขากับซ่งเหยียนหมิงเป็นผู้สืบทอด เนื่องจากบุรุษตระกูลซ่งแต่ละรุ่นสามารถให้กำเนิดทายาทเพศชายได้เพียงแค่สองคน และไม่ใช่สตรีทุกคนที่สามารถตั้งครรภ์มังกร ดังนั้นทั้งคู่จึงไม่ขัดข้องหากเด็กชายที่กำเนิดจากหญิงสาวผู้นั้นเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของใคร
หลังกลับมาที่ตำหนักโม่ลี่ฮวา ลีน่าก็รีบเก็บข้าวของจำเป็นเพื่อเตรียมตัวหนีออกจากวังทันที เนื่องจากหญิงสาวรู้ตัวดีว่าการฝ่าฝืนคำสั่งกักบริเวณขององค์รัชทายาทจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก
ที่สำคัญพระสนมหลี่น่าไม่ได้เป็นที่โปรดปรานของไท่จื่อ มิหนำซ้ำนางเพิ่งโดนลดตำแหน่งจากพระชายาสี่ กลายมาเป็นพระสนมลำดับสุดท้าย แค่นี้ก็สามารถคาดเดาโทษทัณฑ์ได้ล่วงหน้าแล้ว พระสนมหลี่น่าอาจจะถูกโบยจนตายแบบในละครย้อนยุคหรืออาจจะโดนจองจำในคุกใต้ดินไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน
ถ้าพระสนมหลี่น่าถูกลงโทษแค่คนเดียวก็ยังพอรับได้ แต่นี่... ผลลัพธ์การกระทำผิดของลีน่าได้ส่งผลให้คนอื่นดวงซวย ต้องพลอยฟ้าพลอยฝนรับกรรมตามไปด้วย
ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะองค์รัชทายาทซ่งหยวนซีปลอมตัวเป็นคนธรรมดาออกไปเดินเที่ยวเล่นในตลาดเพียงคนเดียว อีกทั้งชายหนุ่มมีธุระสำคัญต้องไปจัดการ เขาจึงจำใจปล่อยให้นางกับซูปี้กลับมารอฟังคำตัดสินโทษที่วัง โดยไม่เสียเวลาซักไซร้ไถ่ถามสักคำว่าพวกนางแอบหลบหนีออกมาได้อย่างไร
ดาราสาวมองหีบใส่ทรัพย์สมบัติมากมายภายในห้องด้วยความอาลัยอาวรณ์เหมือนใจจะขาด แต่เธอต้องเลือกรักษาชีวิตตัวเองและพรรคพวกอีกสามคนเอาไว้ก่อน
ลีน่าคัดเอาเพชรนิลจินดาของมีค่าที่สุดใส่ถุงผ้าเก็บไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และเอาผ้าพันตั๋วเงินไว้ตามลำตัวกับแขนขาอีกชั้นหนึ่ง เผื่อถูกโจรป่าปล้นเหมือนในละคร เธอจะได้ไม่เหลือแค่ตัวเปล่า ส่วนเสื้อผ้าคลุมกายในย่ามเธอเอาไปด้วยเพียงแค่ชุดเดียว
“ทุกคนพร้อมแล้วใช่ไหม”
สามนางกำนัลพยักหน้าแบบสลดหดหู่ พวกนางไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าหากนายหญิงตัดสินใจจะหนีไปตายเอาดาบหน้า เพราะอย่างไรก็ชะตาถึงฆาตแล้ว
“พวกเรารีบไปกันเถอะ”
ลีน่าในชุดรัดกุมเดินนำทุกคนไปที่โพรงสุนัขด้านหลังตำหนัก เนื่องจากแม่นมหวงมีรูปร่างท้วมจึงต้องเสียเวลาขุดดินขยายทางออกให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่า
“เชิญพระสนมไปก่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันแก่แล้ว”
แม่นมหวงน้ำตาคลอ หากมีใครมาพบเข้าตอนนี้ ไม่ว่าอย่างไรนายหญิงของนางก็หนีออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยแล้ว
“ก็ได้ แต่พวกเจ้าอย่ามัวเกียงกันอีก รีบๆ ตามข้ามา เร็วๆ เข้า!”
พระสนมหลี่น่ามีรูปร่างผอมบางจึงไถลตัวบนผ้าที่ปูรองพื้นดินผ่านไปได้อย่างไม่ลำบาก เมื่อหญิงสาวลอดโพรงสุนัขออกมาได้ นางก็สอดมือผ่านเข้าไปใต้กำแพงเพื่อช่วยดึงคนอื่นๆ
แต่คนที่ลอดตามตัวหนักมากจนนางต้องหลับหูหลับตาและใช้เท้าข้างหนึ่งยันกำแพง เพื่อออกแรงดึงอีกฝ่ายแบบทุ่มเทสุดพลังกาย
“ซูปี้กับซูลี่ พวกเจ้าช่วยกันผลักด้วย!” ลีน่าหายใจเสียงหอบแฮ่กๆ เธอคิดเอาเองว่าคนที่ตัวหนักแบบนี้จะต้องเป็นแม่นมหวงอย่างแน่นอน
แต่ที่ไหนได้ ร่างที่โผล่พ้นออกมาจากโพรงสุนัขกลับกลายเป็น...
ร่างสูงใหญ่ที่ยืนตระหง่านอยู่ข้างหน้าของเด็กสาวตอนนี้ คือชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคมสัน เจ้าของหุ่นแซ่บสะท้านทรวงเหมือนนายแบบแถวหน้าระดับอินเตอร์
ทั้งที่เขาเพิ่งลอดออกมาจากโพรงสุนัข แต่เสื้อผ้าและเรือนผมยาวดำขลับยังสะอาดสะอ้านเรียบร้อยปราศจากฝุ่นผงร่องรอยราคี ท่วงท่าสบายอกสบายใจไร้ความวิตกกังวลอย่างสิ้นเชิง ส่งเสริมให้เขาดูมีสง่าราศีสูงส่งเกินคนธรรมดาสามัญ
ดวงตาคมกริบที่จดจ้องมายังลีน่าคู่นั้นดูสงบนิ่งล้ำลึกเหมือนมหาสมุทรยามราตรี มนตร์เสน่ห์แห่งเซ็กซ์แอพพีลอันสุขุมนุ่มละมุนชวนอ่อนระทวยของผู้ชายคนนี้ ทำให้ดาราสาวจ้องมองเขาตาค้างและไม่สามารถเบือนสายตาหลบเลี่ยงไปทิศทางอื่นได้ชั่วขณะ ความฟินเว่อร์นี้ช่างแสนรุนแรงแบบสุดติ่งกระดิ่งแมว แจ่มแจ๋วสะแด่วทรวงกระทั่งผู้หญิงกร้านโลกอย่างเธอเกือบจะเผลอทำน้ำลายไหลหก
“ท่านเป็นใคร?” ลีน่าย่นคิ้วเข้าหากัน เธอรู้สึกได้ว่าในดวงตาคมกริบคู่นี้มีปริศนาบางอย่างซ่อนอยู่
รอยยิ้มบางเบาปรากฏบนใบหน้าคมคาย สุ้มเสียงหัวเราะอย่างเป็นกันเอง ดุจสายลมวสันต์ในวันที่แสงแดดเจิดจ้า เขาช่างเป็นชายหนุ่มที่อบอุ่นราวกับเตาไมโครเวฟ
“พระสนมหลีน่า เจ้าจดจำข้าไม่ได้สักนิดเลยรึ ?” น้ำเสียงชายหนุ่มเจือความขบขัน
“ท่าน... ท่านคือ... อี๋ชินอ๋องซ่งเหยียนหมิง!” เเธอตะโกนชื่อชายหนุ่มเสียงดังลั่น เมื่อนึกขึ้นได้คลับคล้ายคลับคลาว่าพระสนมตัวน้อยเคยเห็นคนหล่อลากไส้แบบนี้มาก่อน
'ซวยซ้ำซ้อนจริงๆ แม่เอ้ยยย....’
ลีน่าเข่าอ่อนทรุดฮวบลงไปกองต่อหน้าน้องชายสามี เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังพังทะลายไปพร้อมกับสมบัติมหาศาล ดาราสาวได้ยินเสียงอื้อยาวต่อเนื่องเหมือนมียุงบินเข้าหู ใบหน้าหมองคล้ำลงเพราะดวงตามองเห็นทุกอย่างเป็นลายพร้อย
เธอสูดลมหายใจเข้าออก เพื่อประคับประคองสติอันน้อยนิดเอาไว้ ความรักตัวกลัวตายทำให้ลืมเป็นห่วงภาพลักษณ์สาวสวยที่ตัวเองลงมือปั้นเอาไว้ไปเสียสนิท
“ข้าไม่เคยนึกเลยว่าเด็กสาวท่าทางดูเรียบร้อยอย่างเจ้าจะแอบทำเรื่องซุกซนแบบนี้” ซ่งเหยียนหมิงกระเซ้าเย้าแย่นาง รอยยิ้มเขย่าหัวใจหญิงสาวปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาคมคาย
1510/5000