2

1087 Words
“ตอนแรกก็กะว่าจะเอามาให้ แต่ดันลืมไง อีกอย่างพรุ่งนี้ฉันต้องไปเชียงราย ไม่กลับมาเชียงใหม่แล้วจะลงใต้เลย ฉันคงเอามาให้เธอไม่ได้ เธอต้องไปเอาเอง” มะปรางไม่อยากไปคอนโดผู้พูดสักเท่าไหร่ เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตนเอง เกรงว่าเขาจะหักหาญน้ำใจตนอีก แต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้ “ฟ้า แกไปเอาของเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ” มะปรางหาตัวช่วย “โอ๊ย! อยู่ๆ ก็ปวดหัวตุ้บๆ เลย ฉันคงไปกับแกไม่ได้” นภาพรนำมือมาจับตรงขมับ แสร้งทำเป็นปวดศีรษะขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วน “นพล่ะ ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ” มะปรางหาตัวช่วยที่สอง มานพกำลังอ้าปากตอบ แต่มีบางอย่างมากระแทกขาเขา มานพมองหน้าคนที่เอาเท้ามาเตะขาตนเหมือนกับจะบอกอะไรสักอย่าง แต่เขายังไม่ทันจะพูดอะไร นภาพรก็พูดออกมากลางปล้อง “นพ นายไปส่งฉันนะ ฉันปวดหัวมากๆ เลย ปวดจนลุกเดินไม่ไหว พี่ก้องกับปรางเป็นเจ้านายลูกจ้างกัน ไปด้วยกันไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ฉันนี่สิตัวคนเดียว นายไปส่งฉันดีที่สุด” นภาพรลุกขึ้นยืน เดินไปฉุดมานพที่ทำหน้างง “ไปเร็ว ฉันปวดหัว อยากกลับบ้านไปกินยา” มานพลุกขึ้นยืนแบบงงๆ มะปรางถึงกับมึน เพราะหากสองคนนี้ไปจากที่นี่ หล่อนก็จะไม่มีตัวช่วย ต้องไปกับก้องเกียรติตามลำพัง “ลานะคะพี่ก้อง ขอบคุณที่เลี้ยงข้าวค่ะ” นภาพรพนมมือไหว้ก้องเกียรติ มานพทำตามอีกคน ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไปจากร้านอาหาร “เราไปกันเลยนะ เธอจะได้ไม่กลับหอดึก” ก้องเกียรติเรียกพนักงานมาเก็บเงิน หลังจากจัดการเรื่องค่าอาหารเสร็จ ก้องเกียรติกับมะปรางได้เดินออกจากร้านอาหาร ไปยังรถยนต์ของเจ้ามือ ไม่นานนักรถยนต์หรูถูกขับออกจากลานจอดรถ มุ่งตรงไปยังคอนโดของก้องเกียรติ ระหว่างทางมะปรางใช้ความคิดอย่างหนัก หาทางเอาตัวรอดจากเฒ่าหัวงู ยี่สิบนาทีต่อมา ก้องเกียรติเลี้ยวรถเข้ามาในคอนโดที่ซื้อไว้หลายห้อง ซื้อไว้เพื่อปล่อยให้เช่าสามห้อง และอีกหนึ่งห้องเป็นห้องส่วนตัวของเขา ก่อนนำรถมาจอดในลานจอดรถ “เอ้าลงสิ หรือต้องเชิญให้ลง” ก้องเกียรติบอกมะปรางที่ยังคงนั่งเฉย “คุณไปเอาของให้หน่อยสิ ฉันปวดขา” “ที่ไม่ลงไม่ใช่เพราะปวดขาหรอก แต่กลัวฉันมากกว่า” เขาพูดอย่างรู้ทัน มะปรางหันขวับมามองผู้พูด “ใครว่าฉันกลัว ไม่ได้กลัวซะหน่อย” มะปรางตอบไม่ตรงกับใจ “คนอย่างมะปรางไม่เคยกลัวใคร” หล่อนเชิดหน้าใส่ “ไม่กลัวก็ขึ้นไปเอาของเองสิ กล้าป่ะล่ะ” เขาทำเสียงเหมือนท้า “กล้าอยู่แล้ว” มะปรางเปิดประตูรถ ก้าวลงไปยืนข้างรถ แกล้งปิดประตูแรงๆ ให้เสียงดังๆ ราวกับไม่กลัวประตูรถจะพัง ก้องเกียรติไม่ใส่ใจเรื่องที่หล่อนทำ เพราะมีเรื่องอื่นที่น่าสนใจรอให้เขาทำอยู่ มะปรางใจเต้นรัวเมื่อเดินเข้ามาในลิฟต์โดยสารของคอนโด หล่อนมีความรู้สึกว่า คิดผิดที่มากับเขาเป็นของสำคัญในการเรียนและการทำงานเสริม ถ้าหากหล่อนไม่หลงลืมโน้ตบุ๊กไว้ที่ไร่กอบกุล หล่อนก็คงไม่ต้องมายืนอยู่ในลิฟต์ตัวนี้ ยืนอยู่กับก้องเกียรติผู้ชายอันตราย “ถึงแล้ว” ก้องเกียรติแนบคีย์การ์ดกับช่องตรงประตู ก่อนเปิดประตูกว้างให้มะปรางเดินเข้าไป “เชิญ” “ฉันไม่เข้า คุณไปเอาของให้ฉันละกัน” มะปรางระวังตัวเต็มที่ “หน้าที่ฉันไหมเนี่ยที่ต้องบริการเธอถึงที่” ก้องเกียรติทำเสียงไม่พอใจ “ถ้าไม่เข้าไปเอาก็ไม่ต้องเอา ฉันไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว” มะปรางมองหน้าคนพูดที่ยืนกอดอกพิงขอบประตูห้อง หากของชิ้นนี้ไม่สำคัญหล่อนยอมทิ้งมันไป ไม่เข้าไปเอาเด็ดขาด แต่นี่กว่าหล่อนจะเก็บหอมรอมริบซื้อโน้ตบุ๊กเครื่องนี้ได้ก็ใช้เวลาหลายเดือน หากทิ้งมันไปไม่ไยดีก็ต้องซื้อเครื่องใหม่ แน่นอนว่าหล่อนไม่มีเงินซื้อในทันที ต้องเก็บเงินอีกหลายเดือนกว่าจะได้ รายได้หลักของตนคือการทำรายงานให้เพื่อนๆ หากไม่มีโน้ตบุ๊กก็ไม่มีรายได้ หล่อนเหมือนคนจนแต้ม ก้าวเดินเข้าไปในห้องชุดของก้องเกียรติด้วยขาอันสั่นเทา ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ก้องเกียรติยิ้มอย่างผู้กำชัย ก้าวเดินตามร่างอรชรและไม่ลืมปิดประตูห้อง “ว้าย! ปล่อยนะ” มะปรางตกใจเมื่อก้องเกียรติสวมกอดตนทางด้านหลัง “ไอ้เฒ่าหัวงู ปล่อยฉันนะ” “ปล่อยให้โง่” ก้องเกียรติพูดข้างหู กดปลายจมูกลงบนแก้มหล่อน “คิดถึงจัง” “ไอ้บ้ากาม ปล่อยนะ ฉันไม่คิดถึงแก ฉันเกลียดแก” มะปรางไม่ออมคำพูด สะบัดตัวไปมา หวังให้พ้นจากลำแขนใหญ่ที่คล้ายครีมเหล็ก รัดแน่นจนขยับหนีไม่ได้ “เดี๋ยวก็รู้ว่าเกลียดหรือไม่เกลียด” เขาพูดขณะยกร่างมะปราง เท้าหล่อนลอยเหนือพื้น ก้าวเดินไปยังห้องนอน มะปรางเห็นเตียงนอนก็ยิ่งสะบัดตัว สะบัดปลายเท้า ทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองรอดพ้นจากเงื้อมมือก้องเกียรติ หล่อนไม่ยอมเขาเป็นครั้งที่สองแน่นอน แต่ดูเหมือนว่า โอกาสที่หล่อนหวังมีน้อยเต็มทน เมื่อเขาเหวี่ยงร่างสาวลงบนที่นอน ตามด้วยร่างหนาทาบทับเก็บกักอิสรภาพ “ปล่อยนะ แกไม่ใช่ลูกผู้ชายรังแกผู้หญิง” มะปรางต่อว่าก้องเกียรติที่ทำหน้าตาไม่สะทกสะท้านกับคำต่อว่า “เธอก็น่าจะรู้นะว่า ฉันน่ะลูกผู้ชายทั้งแท่ง แท่งใหญ่ซะด้วยไม่งั้นเธอไม่ครางเหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวกหรอก” ก้องเกียรติโต้กลับแบบกวนๆ “ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ไอ้...” “จุ๊ๆๆ อย่าด่าผัวมากสิจ๊ะเมียจ๋า ด่ามากลูกดกนะ” เขายิ้ม มะปรางยิ้มไม่ออก ได้แต่ร้องฮึ่มๆ ในใจ “มาให้ผัวชื่นใจหน่อยเร็ว เป็นเดือนแล้วนะที่ไม่ได้กกเมีย คิดถึงที่สุดเลย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD