ตอนที่ 1 คนชอบแกล้ง

2939 Words
ตอนที่ 1 คนชอบแกล้ง ฟิ้ว!!!!! ตุ๊บ!!!!! ลูกบอลสีขาวลอยลิ่วมาด้วยแรงเตะของใครบางคน ‘วิทยา’ เด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีที่เป็นคนกระทำยิ้มพอใจในเป้าหมาย สายตาของเขามองเห็นเพื่อนร่วมห้องเดินผ่านมาทางนี้ เธอเป็นหญิงตัวอ้วนหนักราวแปดสิบกิโลฯเห็นจะได้ ทุกครั้งที่มีการชั่งน้ำหนักประจำปี เธอจะเป็นคนเดียวที่วิทยาอยากจะรู้และนำมาล้อเธอ “โอ๊ย!” ‘ยู’ หรือ ‘ยูริน’ เด็กสาวร่างอ้วนที่เพื่อน ๆ มักเรียกว่าบูริน (หมูอวกาศ) เธอจับหัวตัวเองด้วยความเจ็บจากแรงกระแทกของลูกบอล สายตามองไปยังคนกระทำที่มีคนเดียวในห้อง ทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนเขาก็ยังไม่ยอมที่จะหยุดแกล้งเธอ แม้เวลาเรียนด้วยกันมาหกปีเต็มไม่เคยมีวันไหนที่เธอไม่ถูกวิทยาแกล้ง “ไอ้วิท! แกล้งเพื่อนทำไมวะ” ใครคนหนึ่งวิ่งเข้ามาเก็บลูกบอลที่อยู่ตรงหน้าของยูริน ก่อนที่สายตาจะเห็นว่าเขาคนนั้นคือรเชษฐ์ เพื่อนร่วมห้องที่ได้รับฉายาว่าเจ้าชายของสาว ๆ ทั้งที่อยู่ห้องเดียวกันมาหกปีแต่เธอก็ไม่ค่อยสนิทกับใคร ยิ่งรเชษฐ์เด็กหนุ่มหน้าตาดีขวัญใจของสาว ๆ อีกทั้งยังเป็นประธานนักเรียนที่ถูกอาจารย์เรียกใช้จนไม่ค่อยสุงสิงกับเพื่อน เขาจึงเป็นชายที่ห่างเหินและสาว ๆ หมายเข้าใกล้ “ก็อ้วนยืนบังทำไมเล่า เลิกเรียนแล้ว ไม่กลับบ้านเหรออ้วน รอแฟนเหรอจ๊ะ!” วิทยาส่งเสียงล้อ เขาตั้งใจเตะใส่ก็จริงแต่มันก็ไม่ได้แรงมาก แค่อยากแกล้งก็เท่านั้นตามนิสัยของเขา “อู้ ๆ ไม่เอาไม่โกรธนะอ้วน อย่ามาพองลมใส่เพื่อนนะ เพื่อนกลัว” “ไอ้วิท! กลับไปเลยไป พ่อมารับแล้วไม่ใช่เหรอ” รเชษฐ์ร้องว่า สายตามองเห็นรถของพ่อเพื่อนจอดนิ่งพอดี โรงเรียนมัธยมแห่งนี้เพิ่งมีการตั้งกฎขึ้นมาใหม่ หลังจากที่รุ่นพี่ก่อเรื่องหนีไปเที่ยวไม่ยอมกลับบ้าน เป็นเหตุให้ผู้ปกครองกับทางโรงเรียนมีปัญหากัน ด้วยรุ่นพี่โกหกว่าเลิกเรียนแล้วจึงไป นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทุกคนที่จะออกจากโรงเรียนได้ต้องมีผู้ปกครองมารับ ราวกับเด็กอนุบาลไปไหนไม่ได้ “เออ ๆ งั้นกูกลับก่อนละกัน!” วิทยาร้องบอกสายตามองไปยังสาวอ้วน เขาทำดีดนิ้วใส่เธอคล้ายจะเข้าไปหยิกแก้ม แต่สุดท้ายก็วิ่งไกลไปยังรถสีดำเงาที่จอดรอ ยูรินจับหัวตัวเองก่อนจะเดินไปอีกด้าน เธอถูกเพื่อนร่วมห้องแกล้งแบบนี้เป็นประจำเสมอ จะมีคนเดียวที่ไม่คิดจะแกล้งเธอก็คือรเชษฐ์ ด้วยเป็นผู้ชายสุภาพและนิสัยดี รวมถึงเขาคงไม่มีเวลาแกล้งด้วยมีแต่สาว ๆ ห้อมล้อม “อ้าว! แล้วทำไมยูไม่กลับบ้านล่ะ เย็นแล้วนะ” รเชษฐ์วิ่งมาดักหน้า ข้างตัวของเขามีลูกบอลที่กอดเอาไว้ขนาบข้างตัว เสื้อนักเรียนสีขาวสะอาดตามีรอยเปื้อนของดิน ชายเสื้อหลุดลุ่ยแต่มันก็ไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของเจ้าชายของสาว ๆ เสียหายไปเลย “แล้ว......ทำไมเธอยังไม่กลับ” “รอแม่มารับน่ะ อาทิตย์นี้แม่ไม่ค่อยว่าง” “......” คนฟังเพียงพยักหน้าและไม่ได้ตอบอะไร เพราะเธอไม่รู้ว่าควรที่จะพูดตอบแบบไหน “เธอก็คงรอแม่เหมือนกัน เจ็บไหมที่ไอ้วิทมันแกล้ง” ยูรินส่ายหัวทั้งที่จริงแล้วเธอเจ็บ เธอโดนคนในห้องแกล้งบ่อย แต่ไม่เคยมีใครถามว่าเจ็บไหม เธอเชื่อแล้วว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นเจ้าชายของสาว ๆ จริง เพราะเวลาที่เขาพูดแววตาจะดูอบอุ่นขึ้นมาทันที ทั้งที่ไม่ได้รู้สึกชอบหรือคลั่งไคล้แบบเด็กนักเรียนคนอื่น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารู้สึกดีมาก “ความจริงเราอยู่ห้องเดียวกัน แต่ไม่เคยคุยกันเลยว่าไหม เราชื่อเชษฐ์นะ” “เราชื่อ....เธอเรียกชื่อเราแล้ว!”เด็กสาวตอบเสียงเบา ในหัวของเธอแอบคิดด้วยว่าที่ไม่เคยคุยกัน เพราะเขามีแต่หญิงสาวคุยด้วยเสียมากกว่า เธอก็เป็นแค่เด็กหน้าห้องที่เพื่อนมักบอกว่าชอบนั่งบังคนอื่นก็เท่านั้น เด็กหนุ่มยิ้มพร้อมกับเกาท้ายทอย เขารู้จักเธอนานแล้วแต่ไม่เคยคุยด้วย แน่นอนว่าต้องรู้จักเพราะเพื่อนสนิทอย่างวิทยาแกล้งเธอเป็นประจำ แต่อีกชื่อเสียงที่รู้จักนั่นคือเธอเรียนเก่ง หลายครั้งที่อยากหาโอกาสพูดคุยเพื่อขอเทคนิควิชา แต่ก็ไม่เคยว่างจากงานที่อาจารย์มอบหมายนอกเหนือจากเรียน “เล่นบอลไหม ระหว่างรอแม่มารับไง” “เราเล่นไม่เป็น” “ไม่ยากหรอก เป็นการออกกำลังกายด้วย เอาไหม!” “......” คนฟังเงียบ เพราะเธอไม่ชอบออกกำลังกาย เธออ้วน ไม่มีคนอ้วนคนไหนชอบออกกำลังกายให้ตัวเองตัวเหม็นไปมากกว่าเดิม หรือเหงื่อออกให้รู้สึกน่ารังเกียจ “โอเค ไม่เล่นก็ได้ แล้วเธอจะนั่งรอเฉย ๆ เหรอ ?” “เราจะทำการบ้าน” “งั้นเราทำด้วย เราก็ยังไม่ได้ทำ ไอ้วิทชวนเราเล่นบอลซะก่อน” ยูรินมองชายตรงหน้านิ่ง หลายปีที่เรียนที่นี่ เธอนั่งรอคนเดียวมาตลอด แต่ทำไมวันนี้มันถึงเปลี่ยนไป เธอกำลังจะมีคนมานั่งทำการบ้านเป็นเพื่อน “พี่เชษฐ์ หนูซื้อขนมมาฝากค่ะ” รุ่นน้องม.4คนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเด็กหนุ่มรุ่นพี่ด้วยความขัดเขิน เธอยัดกล่องของขวัญสีชมพูน่ารักใส่ในมือของเขาก่อนที่ความกลัวจะทำให้เธอวิ่งออกไปอีกด้าน เป็นการสารภาพรักต่อรุ่นพี่ที่แอบชอบที่หลายคนในโรงเรียนชอบทำ “เกลียดคนหล่อโว้ย! ได้ขนมอีกแล้ว” “มึงก็ได้ไหมไอ้วิท” ทรงเวทเอ่ยพูดแทรก ก่อนหน้าที่เด็กคนนี้จะวิ่งเข้ามาหารเชษฐ์ ก็มีรุ่นน้องคนหนึ่งวิ่งเอาดอกกุหลาบมาให้กับวิทยา แต่เพราะเขามีแฟนแล้วเป็นตัวเป็นตน เขาจึงปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้าด้วยคำว่า ‘พี่มีแฟนแล้ว อย่าเอาอะไรมาให้อีก’ ความเถื่อนที่หลายคนมองว่าหยาบ แต่แปลกที่สาว ๆ กลับชอบ นั่นเป็นจุดดึงดูดของกลุ่มเด็กรุ่นน้องเข้ามาหาวิทยาได้เป็นอย่างดี สำหรับเด็กนอกห้องและรุ่นน้องวิทยาจะเป็นคนนิ่งเงียบ แต่สำหรับเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาจนสนิท...เขาเป็นคนที่ชอบแกล้งและกวนประสาทมาก ทั้งสามคนเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ทั้งสามคนกลับมีนิสัยที่แตกต่าง รเชษฐ์ มีนิสัยสุภาพเป็นคนดีในทุกการกระทำ ได้รับคำชมชอบจากเหล่าอาจารย์เสมอ วิทยา เป็นผู้ชายปากร้าย แต่ส่วนลึกเขาจิตใจดี แค่ชอบแกล้งคนมากไปก็เท่านั้น ส่วนทรงเวท...เขาไม่ค่อยสนใจใครเท่าไหร่ เงียบ นิ่ง ขรึม “อ้วนนี่หว่า! เอาขนมมานี่! กูจะเอาไปให้อ้วน” วิทยาแย่งขนมไปจากมือของเพื่อน อ้วนที่พูดถึงก็คือยูริน ไม่ว่าจะเห็นที่ไหนวิทยาเป็นต้องเข้าไปแกล้งเสมอจนติดเป็นนิสัย “ทำไมมึงชอบแกล้งยูนักวะไอ้วิท” ทรงเวทพูด ความจริงหลายคนก็สงสัยแต่ไม่เคยถาม และอีกเหตุผลที่ไม่มีใครถามเพราะวิทยาจะไม่ตอบ “อ้วน กินหนมเปล่า พี่เลี้ยง เอาม้ะ ๆ” “.....” ยูรินไม่สนใจ เธอหันมามองตาเขียวใส่คนพูดก่อนที่จะหันกลับ เธอพยายามเก็บกลั้นไม่อยากจะพูดกับเขาให้มากความ เพราะหากพูดก็คงได้ทะเลาะกันแน่ “อย่ามองพี่แบบนี้หมูอ้วน พี่เสียใจนะ พี่อุตส่าห์เอาขนมมาฝาก ไม่กินหน่อยเหรอ” “ไม่ใช่ขนมนาย เราเห็นอยู่ว่ามันเป็นขนมของรเชษฐ์” ยูรินตอบกลับเสียงแข็ง รเชษฐ์และทรงเวทได้แต่มองการสนทนานั้น วิทยาชอบนักที่ได้แกล้งเด็กสาวร่างอ้วนคนนี้ หลังจากประกาศคบกับลูกเจี๊ยบเขาก็ไม่สนใจสาวไหน ก็มีแต่ยูรินสาวอ้วนตากระปุกออมสินที่ชอบแกล้งเป็นนักหนา ตั้งแต่เรียนมัธยมต้นอยู่ห้องเดียวกันมาตลอดแต่ก็ไม่เคยคุยกันดีสักครั้ง “อ๊ะ ๆ พูดแบบนี้ แสดงว่าพี่รเชษฐ์อยู่ในสายตาน้องหมูอ้วนใช่ไหมครับ แอบมองพี่รเชษฐ์เหรอ เหรอจ๊ะ!” “ไอ้บ้า!! หลบ!!” “เขิน ๆ หน้าแดงด้วยอ่า...จะไปไหน โรงอาหารอยู่ทางนี้ จะไปไหนจ๊ะ!” “จะไปขี้!!!!” ยูรินตอบกลับจนชายที่ยืนด้านหลังวิทยาแทบหลุดขำ คงมีวิทยาคนเดียวที่ยั่วโมโหเธอได้และทำสำเร็จเสมอด้วย หลายคนชอบบอกว่ายูรินเป็นคนเรียบร้อยไม่พูดคำหยาบหรือไม่สุภาพ เพราะพ่อของเธอเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด แม่ของเธอเป็นครูภาษาไทย แต่วิทยาทำให้สาวอ้วนด่าได้เสมอ “อุ้ย!! ส้วมแตกแน่ ฮ่า ๆ” “ไอ้วิทบ้า!!” เที่ยงของวันยูรินนั่งกินข้าวอยู่คนเดียวที่โต๊ะหนึ่งของโรงอาหาร โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนเอกชนที่มีคนมากมายหลายตา แต่ทุกคนล้วนแต่มีฐานะทางบ้านที่ดีพร้อม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมีประสิทธิภาพในการเรียนรู้ เช่นเดียวกับชานม ชานมคือเด็กสาวที่ย้ายเข้ามาใหม่ในช่วงปลายเทอมสุดท้าย เธอไม่มีเพื่อนอย่างเดียวไม่พอ เธอยังมีความเข้าใจในเรื่องที่เรียนน้อยกว่ามาตรฐานคนอื่น ๆ ด้วย ช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเรียนใหม่ ๆ หลายคนจึงไม่ค่อยสนใจการเรียน แต่ก็มีบางคนที่ทุ่มเทเพื่อที่จะสอบเข้ามหา’ลัยที่ตัวเองต้องการให้ได้ ความหวังดีของยูรินจึงหมายจะนำสมุดบันทึกเล่มหนึ่งที่เธอจดสรุปไปให้ ตั้งใจหมายหวังว่าหลังจากกินข้าวแล้วจะเดินเข้าไป จนเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจึงได้หยิบจับข้าวของ “อ้วน! สมุดการบ้านใช่เปล่า เอามาลอกหน่อย” สมุดไดอารี่ถูกวิทยาแย่งไปจากมือได้เสียนี่ เธอวางจานอาหารก่อนที่จะทำตาเขียวใส่ ทั้งวันจะตามแกล้งเธอไม่เลิกอย่างนี้ใช่ไหม! แต่ถึงจะทำตาเขียวใส่เท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้คนที่อยากจะแกล้งเกรงกลัว อีกทั้งยังพอใจที่ทำให้คนตรงหน้าโกรธได้ เขาไม่สามารถหาเหตุผลที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ไม่มีคำอธิบายว่าทำไมถึงชอบแกล้ง แต่เพียงรู้ว่าแกล้งเธอมาทุกวันจนเข้าปีที่หก และมันก็คงจะต้องแกล้งจนกว่าจะเรียนจบนั่นเอง “เอาสมุดเราคืนมา!!” “อ้วนอย่าเสียงดัง ตกมันเหรอ อ้วนใจเย็น” “ไอ้วิท!! เอาสมุดเราคืนมา!!” ยูรินตะคอกเสียงดังกลางโรงอาหาร มันสร้างเสียงหัวเราะให้กับรเชษฐ์และทรงเวทมาก เสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะยูรินตลก แต่วิทยาจะเป็นคนเดียวที่ทำให้ยูรินโกรธได้เป็นฟืนเป็นไฟ ตอนนี้ยังทำให้ยูรินพูดคำหยาบอกมาได้อีกด้วย “ทำไมอ้วนเกรี้ยวกราดจังเลย แม่ไม่ให้กินอ้อยเหรอ” “ไอ้วิท ไอ้นิสัยไม่ดี! เอามา!!!” “เอาอาราย... จะเอาอารายจ๊ะ เอาอ้อยเหรอ” วิทยายังลอยหน้าลอยตาแกล้ง มือหนึ่งชูสมุดขึ้นเหนือหัว ความสูงของเขายังไงยูรินสาวอ้วนก็ไม่มีทางหยิบถึง “ไอ้วิท! มึงนี่หาเรื่องแกล้งยูไม่เลิก เอาคืนยูไป” รเชษฐ์เอ่ยพูดเป็นเชิงตำหนิเพื่อน เห็นได้ชันเจนว่าคนถูกแกล้งเริ่มไม่สนุกด้วยแล้ว ทั้งที่เป็นเพื่อนกันมานานบนความแกล้ง วิทยาก็ไม่เคยทำให้ยูรินถึงขั้นร้องไห้ อีกทั้งยังไม่ยอมให้ใครแกล้งนอกจากตัวเองเท่านั้น เพื่อนในห้องคนไหนก็ห้ามล้อห้ามปากเสียใส่สาวอ้วน เขาจะเป็นคนเดียวที่กวนอารมณ์ได้จนฟิวขาด “วิท ไหนบอกมาซื้อน้ำ เจี๊ยบหิว!” “คุยกับอ้วนอยู่ไง อ๊ะ! คืนไปอ้วน” วิทยายื่นส่งสมุดเล่มสีชมพูลายจุดน่ารักให้กับสาวร่างอ้วน แต่มือเรียวของแฟนสาวที่ยืนข้างกลับยื้อแย่ง จังหวะที่ไม่ทันระวังทำให้สมุดเล่มนั้นตกลงกับพื้น โชคไม่เข้าข้างที่พื้นนั้นเปียกไปด้วยน้ำที่ใครทำหกไว้ก่อนแล้ว “เจี๊ยบ! แย่งทำไมเล่า” วิทยาต่อว่าทันที เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้มันตก “ก็เจี๊ยบอยากดูว่ามันสมุดอะไร ทำไมต้องเอามาให้วิทถือด้วย แล้วทำไมวิทต้องมาหยุดคุย” เจ้าของสมุดมองด้วยดวงตาแววใส มันก็เป็นแค่สมุดจดบันทึกที่เธอตั้งใจเอาไปให้ใครอีกคน แต่ที่เธอจ้องอย่างเสียใจในตอนนี้ เพราะเธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เป็น ทำไมเธอจะต้องยอมรับการถูกแกล้งในสายตาของเพื่อนด้วย เป็นรเชษฐ์ที่ก้มเก็บสมุดเล่มสวยที่เปียกน้ำ เขาหยิบคว้าผ้าเช็ดหน้าหมายจะเช็ดทำความสะอาดให้กับยูริน แต่เจ้าของสมุดกลับกระชากออกไปจากมือและเดินหนี ทิ้งให้ชายทั้งสามที่เป็นเพื่อนซี้มองหน้ากัน คนเดียวที่รู้สึกผิดคงไม่พ้นวิทยา ถึงเขาจะแกล้งแต่ก็ไม่เคยทำให้ร้องไห้ เรียนด้วยกันมาหลายปีที่แกล้งเพราะเห็นว่าน่ารัก ถึงจะอ้วนตัวกลมเชื่องช้าทำอะไรไม่ดี แต่ก็มีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อน ๆ ทั้งห้อง ทั้งการสอนการบ้านและเป็นตัวแทนตอบคำถามแทนเด็กเกเร เธอเป็นคนมีน้ำใจคนหนึ่งในสายตาของเขา “เจี๊ยบไปซื้อเองเลย เราจะไปขึ้นเรียนแล้ว” “อ้าว! ไมล่ะ..ไหนว่า” วิทยาเดินเลี่ยงไปอีกด้านโดยไม่ตอบคำถามของแฟนสาว เขาไม่ได้ตามไปขอโทษยูรินในสิ่งที่ตัวเองมีความผิด แต่เขาก็ไม่พอใจที่แฟนของตัวเองทำให้สาวอ้วนหน้าง้ำงอร้องไห้ เขาจะแกล้งจนหน้าเขียวหน้าเหลืองยังไงก็ได้ ....แต่คนอื่นห้ามแกล้ง การเล่นฟุตบอลในเย็นของวันนี้ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ทั้งที่วิทยาขอมาเป็นประตูไม่อยากเหนื่อยวิ่ง แต่ก็ยังไม่สนุกสำหรับเขาที่รับไม่ได้สักลูก จนเพื่อนร่วมทีมต้องไล่ออกมานั่งรอที่ข้างสนาม “มึงผิดนะเว้ยไอ้วิท มึงทำยูร้องไห้” “ร้องไห้บ้าอะไร กูไม่เห็นน้ำตาเลย” วิทยารีบขัดสิ่งที่รเชษฐ์พูด เด็กหนุ่มมองเห็นว่าสาวอ้วนเหมือนจะร้องไห้ก็จริง แต่เธอไม่ได้ร้องออกมาเสียหน่อยตามที่เพื่อนเอ่ยอ้าง “อีกอย่างกูก็ไม่ได้ตั้งใจนะเว้ย อ้วนมันก็เห็น” “ใครก็เห็นแหละ แต่ทำไมมึงต้องเรียกยูว่าอ้วนด้วย คนโดนล้อ...มึงสนุกเหรอ ถ้ามึงโดนล้อ ?” รเชษฐ์เทน้ำใส่ปากพร้อมกับแรงเหนื่อย เขาขอเพื่อนเปลี่ยนออกมานั่งข้างสนาม ดูออกว่าวันนี้ฝีมือของวิทยาที่เล่นดีจนเป็นตัวแทนของโรงเรียนเล่นไม่ได้เรื่อง นั่นเพราะเขากำลังมีเรื่องไม่สบายใจ “กูเรียกมาหกปีแล้วไหม ไม่ได้ล้อ แต่นี่มันชื่อเลย ก็น่ารักดีออก ใครเขาก็เรียกคนอ้วนว่าน้องอ้วน มันก็น่ารักไม่ใช่เหรอ!” “เหอะ!! มึงถามเขายังว่าน่ารักหรือเปล่า” วิทยาเอนตัวไปด้านหลังพิงกับแสตนเชียร์ สายตามองไปอีกด้านจนเห็นใครบางคน สายตามองเห็นชานมเด็กเข้าใหม่เดินอ่านสมุดเล่มสีชมพูที่เป็นปัญหาตอนนี้ ทำไมสมุดเล่มนั้นถึงมาอยู่กับเธอได้ ความสงสัยทำให้วิทยาวิ่งออกไปจากจุดที่นั่ง มุ่งตรงไปยังสาวแว่นหนาที่อ่านหนังสือไม่สนใจทางเดิน “ทำไมสมุดเล่มนี้มาอยู่กับเธอ!!”วิทยาแย่งมาจากคนอ่านก่อนที่จะเอ่ยถาม สายตาคาดโทษหากเธอขโมยมาจากเจ้าอ้วนเด็กในการกลั่นแกล้งของเขา “ก็..ก็ยูให้เรา ยูบอกว่าจะเอาไปทิ้งแล้ว” “ทิ้งเลยเหรอ ไอ้อ้วน! ทำตกแค่นี้จะเอาไปทิ้งเลยเหรอ!!” วิทยามองซ้ายขวาหาคนที่บอกว่าจะทิ้ง ทั้งที่ไม่ใช่ของตัวเอง แต่ในความรู้สึกของเขา เธอกำลังทิ้งมันเพราะเขาทำตกพื้น จริงหรือไม่ไม่รู้..แต่หัวสมองคิดไปแบบนั้น “เอาสมุดเรามา ยูให้เราแล้ว” “อ้วนจะให้เธอได้ยังไง นี่มันสมองมันเลยไม่ใช่เหรอ!” “ก็เขาบอกเรา” ชานมพยายามเถียง ทั้งที่เธอรู้สึกกลัวในเสียงของวิทยาที่เสียงดังใส่ แต่เธออยากได้สมุดเล่มนั้นด้วยอ่านแล้วเข้าใจง่าย เธอเรียนไม่เก่งแม้มีอาจารย์พิเศษก็ยังไม่เข้าใจเท่าอ่านสมุดของยูริน “ไอ้วิท มึงจะแกล้งเพื่อนทำไม” รเชษฐ์จะแย่งสมุดคืนให้กับชานมแต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อวิทยาไม่ยอม อีกทั้งเขายังเดินไปอีกด้านเพื่อหาเจ้าของสมุดที่กล้าทิ้ง “เดี๋ยวเราเอามาคืนนะ รออยู่นี่นะ” รเชษฐ์วิ่งตามเพื่อนไป เขาเป็นเจ้าชายของสาว ๆ ทุกคนเสมอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD