ตอนที่ 4 / 1

1578 Words
หลังจากได้ครัวซองต์ที่สั่งไว้ก่อนหน้าแล้ว แพรพิศก็กลับมาสนใจงานที่ค้างอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ทำงานได้ไม่ถึงสิบนาที หญิงสาวก็ต้องตกใจเผลออ้าปากค้าง กับร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มกางเกงชิโน่สีดำที่ได้มานั่งลงกับที่นั่งตรงกันข้ามกัน                                         เธออ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ทีแรกตกใจว่าใครที่ถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะด้วย ครั้นเห็นแววตาที่เปล่งกายระยิบ กับรอยยิ้มกระจ่างของเขา เธอก็ขานเรียกอีกฝ่ายด้วยความคาดไม่ถึงทันที      "คุณพีท!"                                                                                  "ใช่ ฉันเอง ตกใจนึกว่าใครอีกคนรึเปล่า"                            เธอไม่เข้าใจ ว่าพิมานถามหรือกระเซ้าเย้าแหย่อะไร ใครอีกคนที่เขาหมายถึงคือใคร หรืออย่าบอกนะว่า หมายถึงภูเขาน้ำแข็งลูกนั้น   "ช่างเถอะ" พิมานตัดบท วางแขนข้างหนึ่งพาดไว้กับพนักที่นั่งเอนตัวพิงอย่างสบายแล้วถามอีก "ขอนั่งด้วยได้มั้ย หรือแพรมากับใคร"             "ไม่ค่ะ แพรนั่งคนเดียว มานั่งทำงานฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ ถ้าคุณพีทอย่างจะนั่งด้วยก็ได้ค่ะ" ตอบเขาแล้วก็เพ่งมองเขาอย่างเคลือบแคลง "ว่าแต่คุณพีทบังเอิญผ่านมาเจอแพรหรือคะ"                               "เปล่าตั้งใจมาหาเลย"                                                     คำตอบอันแสนเรียบง่ายและแฝงด้วยรอยยิ้มขบขันของเขา ทำให้แพรพิศอุทานซ้ำ "หา! แล้วคุณพีทรู้ได้ยังไงว่า..."                              พิมานรีบหยิบโทรศัพท์มือถือมา เปิดไอจีของหญิงสาวแล้วพลิกกลับมาให้แพรพิศดูคำตอบเอาเอง                                      "อ้อ" รูปกาแฟแก้วหนึ่งกับครัวซองต์หนึ่งชิ้นที่เธอถ่ายและอัปลงไอจีไปเมื่อสองชั่วโมงก่อนหน้านั่นเอง แถมเธอยังระบุชื่อร้านอีก ไม่แปลกใจเลยที่พิมานจะรู้ว่าเธออยู่ที่ร้านนี้                                          พิมานวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะ เอ่ยเพิ่มอีก "พอดีแวะมาคุยงานกับลูกค้าที่จะให้บริษัทออกแบบคลินิกเสริมความงามแถวนี้น่ะ งานเสร็จแล้วก็ลองแวบมาดูว่าแพรยังอยู่ที่ร้านนี้มั้ย ว่าแต่ฉันนั่งได้จริงๆ ใช่มั้ย ไม่ได้รบกวนอะไรใช่มั้ย"                                               "ไม่ค่ะ ไม่ได้รบกวนอะไร" ความจริงเธอก็อยากจะพักสายตายาวๆ อยู่ดี ครั้นมีพิมานมานั่งด้วย หญิงสาวเลยปิดการทำงานของแล็ปท็อปแล้วเปลี่ยนมาเป็นนั่งพูดคุยกับเขาไปเรื่อยๆ แทน                      พิมานนั่งดื่มกาแฟกับเธออีกหนึ่งชั่วโมงเขาก็ขอตัวกลับออฟฟิศ ส่วนแพรพิศก็กลับไปทำงานต่อที่ห้อง โดยตอนเย็นเขาได้ชวนเธอไปทานข้าวด้วยกันที่ร้านของเพื่อนเขา เป็นร้านที่พิมานรับออกแบบตกแต่งให้ เขาเลยอยากชวนเธอไปดูผลงานของบริษัทและไปนั่งดูวิวสวยๆ ของทางร้านด้วยกัน จนเวลาถึงสองทุ่มตามที่เขานัดไว้ เขาก็ขับรถมารับเธอที่คอนโดจากนั้นก็ตรงไปยังร้านดังกล่าวทันที   อัคราบรรจงใช้ส้อมและมีดเฉือนสเต็กที่อยู่ในจาน พร้อมกับช้อนตาขึ้นมาส่งยิ้มให้กับหญิงสาวที่นั่งตรงกันข้ามและกำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มในแบบเดียวกับเขาอยู่ด้วย                                 "อาหารที่นี่อร่อยมากค่ะ บรรยากาศก็ดีมากด้วย ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมี rooftop bar ดีๆ แบบนี้ซ่อนอยู่ในกรุงเทพฯ อีก แคร์ชักติดใจที่นี่แล้วสิคะ" เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงแห่งความพึงพอใจพร้อมกับกวาดตาไปมองรอบๆ ที่เป็นวิวจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายหลักของกรุงเทพฯ     อัครายิ้ม พลางเอ่ยตอบ "ถ้าแคร์ชอบ เอาไว้พี่จะพามาอีก ดีมั้ยครับ"                                                                                     "ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่อัคร"                                                ชนิภาบุตรสาวของผู้บริหารระดับสูงของธนาคารเจ้าดังแห่งหนึ่งนั่นเอง เธอตอบแล้วก็กวาดตามองไปรอบๆ ที่เห็นตรงหน้ามี แสงสี ดวงไฟจากเรือลำหลายที่ล่องผ่านไปมา และตั้งแต่ที่เธอเริ่มต้นคบหากับอัครา ที่นี่เป็นสถานที่ที่สองที่อัคราพาเธอมาเดทด้วย เธอต้องการจะจดจำเอาไว้ให้เป็นโมเมนต์อันแสนพิเศษของเธอ                                            ขณะที่ชนิภามัวแต่เพลิดเพลินกับวิวตรงหน้า                            อัคราเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งก็แสดงความตกตะลึงไม่น้อย กับภาพของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังพากันเดินเข้ามาในร้านแห่งนี้ เป็นผู้ชายและผู้หญิงที่เขารู้จักดี                                                                                 พิมานและแพรพิศนั้นเอง ยิ่งเป็นแพรพิศ วันนี้เธออยู่ในชุดเดรสสีครีมแขนกุด เธอรวบผมยาวนั้นไว้ด้วยกัน เผยให้เห็นดวงหน้าเรียวเล็กและเครื่องหน้าที่รับกันได้อย่างลงตัว จึงไม่แปลกใจเลยที่เธอจะดึงสายตาของผู้ชายหลายคนในร้านให้มองอย่างหลงใหลได้ตั้งแต่แรกเห็น ยิ่งโต เธอยิ่งเหมือนอรพิมเมื่อตอนสาวๆ ไม่มีผิด                            ชนิภาหันกลับมา ก่อนจะแสดงความแปลกใจที่อัคราเหมือนกำลังมองไปที่ใครบางคนด้านหลัง ทำให้หญิงสาวต้องเอี้ยวตัวกลับไปดูด้วย  พิมานนั่นเอง เขากำลังเดินควงมากับสาวน้อยหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง แน่นอนว่าหญิงสาวคนนี้ได้กลายมาเป็นจุดเด่นของร้านเล็กๆ แห่งนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น เพราะสายตาของผู้ชายที่ได้เห็นเธอ ต่างก็เปล่งประกายระยิบในแบบเดียวกันทั้งหมด                                        "พี่พีทมากับใครคะ เอ๊ะ แคร์ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน" ชนิภาหันมาถามอัคราด้วยความสงสัย ดูเหมือนว่า อัคราจะไม่ได้ยินคำถามของชนิภา ภายในหัวของเขาปรากฏแค่ภาพและคำถามของพิมานในวันนั้นว่า                                     'ถ้าฉันจะเดินหน้าตามจีบเด็กในความปกครองของนาย นายจะว่าอะไรมั้ย'                                                                             แววตาของอัคราดูมีความดำมืดลงคล้ายกับไม่ชอบใจในบางสิ่งอยู่ ยิ่งสร้างความแปลกใจต่อชนิภาอีก                                                      "พี่อัครคะ"                                                                                  "พี่อัคร!"                                                                        "ครับ!" อัครารีบขานรับทันทีที่ได้ยินเสียงชนิภาเรียกชื่อเขาแทรกเข้ามาในภวังค์                                                                                 "ว่ายังไงนะครับแคร์!"                                                                   ชนิภามองคนตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ แต่ก็รีบเก็บเอาไว้ก่อน แล้วถามเขาด้วยคำถามเดิมอีก "พี่พีทมากับใครคะ ผู้หญิงที่ไหน หน้าตาสะสวยเชียว"                                                                               ไม่ทันที่อัคราจะทันได้ตอบคำถามนี้ของหญิงสาว เพราะพิมานพาแพรพิศได้พากันมาหยุดอยู่ตรงโต๊ะของเขาแล้ว   "ไม่คิดว่าจะเจอนายที่นี่นะอัคร" พิมานทักชายหนุ่มอีกคนยิ้มๆ ก่อนจะหันไปทักทายหญิงสาวที่อัคราพามาทานมื้อค่ำด้วยกัน "สวัสดีครับน้องแคร์"      ชนิภารีบยกมือไหว้พิมาน "สวัสดีค่ะพี่พีท"                                     แพรพิศเองจำต้องยกมือไหว้ชายหนุ่มที่นั่งตรงหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ อัคราเองก็รีบรับไหว้ แล้วเสมองไปทางหญิงสาวอีกคน จะเริ่มอธิบายต่อชนิภาอย่างไรว่า แพรพิศเป็นเด็กที่เขาได้อุปการะไว้  "ไม่คิดว่านายก็มา แล้วนี่..." เหล่มองหญิงสาวที่ดวงหน้าแต่งแต้มในแบบอ่อนๆ รับกับชุดสีโทนหวาน และทำผมในแบบเผยให้เห็นดวงหน้าหวานทั้งหมด ไม่แปลกที่จะเป็นที่สะดุดตาใครต่อใครภายในร้าน และตอนนี้เธอยังคงยืนเงียบๆ ทำเหมือนไร้ตัวตนขึ้นมาเสียอย่างนั้น  "ฉันพาแพรมาเปิดหูเปิดตาน่ะ พอดีตอนกลางวันเราเจอกันที่ร้านกาแฟ แล้วฉันก็ชวนแพรมาที่ร้านนี้ มาดูร้านสวยๆ ดูวิวสวยๆ บ้าง" พิมานกล่าว เพราะความจริงแพรพิศแทบไม่รู้จักทั้งสถานที่และผู้คนในกรุงเทพฯมากนัก ตอนนั้นเธอมาอยู่กรุงเทพฯได้ไม่ทันไร ก็โดนอัคราจับส่งไปเรียนที่อังกฤษแล้ว "อ้อ" อัคราขานรับในลำคอสั้นๆ                                                     "จะไม่แนะนำแคร์หน่อยหรือคะพี่พีท พี่อัครว่านี่..." ชนิภาที่นั่งมองสองหนุ่มโต้ตอบกันอยู่ ทนไม่ได้ต้องถามขึ้นมาบ้าง ทำไมคนทั้งสองไม่ยอมแนะนำให้เธอและหญิงสาวอีกคนได้รู้จักกันเสียที และหญิงสาวที่ยืนข้างพิมานก็เอาแต่ยืนสงบเสงี่ยม ดูราวไม่มีปากมีเสียงขึ้นมาอย่างนั้นแหละ  "อ้อ แพรพิศ หรือแพร" พิมานรีบแนะนำให้ชนิภารู้จัก แล้วหันไปมองหน้าอัคราอีก                                                               ด้วยท่าทางเลิ่กลั่กของสองหนุ่มทำให้ชนิภารับรู้ว่าหญิงสาวที่พิมานพามาด้วยต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับอัคราอีกแน่                                     ขณะนั้นบริกรของร้านได้เดินมาต้อนรับแขกพอดี พิมานจึงแจ้งหมายเลขโต๊ะที่จองไปตอนบ่ายไป จากนั้นคนทั้งสองก็พากันเดินตามบริกรของร้านไปที่โต๊ะนั้นทันที   คล้อยหลังของชายหนุ่มและหญิงสาวคนนั้นแล้ว ชนิภาก็เริ่มจ้องอัคราอย่างไม่วางตา แล้วถามอีกครั้ง "ตกลงเด็กคนนี้เป็นใครคะ ท่าทางจะเกี่ยวกับพี่อัครด้วยแน่ๆ และที่สำคัญ ท่าทางแคร์จะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนด้วย ใช่มั้ยคะพี่อัคร"               
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD