หวานดีจัง :)

1538 Words
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะลูก” ฉันยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจก่อนจะมองดูเค้กที่ปักเลข1และ9เอาไว้ ใช่ตอนนี้ฉันอายุได้19ปีแล้วตั้งแต่ฉันได้กลายมาเป็นลูกสาวบ้านนี้ชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปมากได้เข้าเรียนโรงเรียนดีๆได้มีเพื่อนได้มีสังคมที่ดีทุกอย่างมันดีไปหมดยกเว้นความสัมพันธ์ของฉันกับพี่คริส เพราะตั้งแต่ที่ฉันย้ายเข้ามาพี่คริสก็บอกต่อหน้าทุกคนทันทีว่าเขาไม่สนใจฉันและไม่ว่าพ่อกับแม่จะหาทางให้เราเข้ากันได้ยังไงก็ไม่เป็นผลฉันเลยตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตโดยไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพี่คริส “โตแล้วนะลูกแม่ขอให้หนูมีแต่ความสุขนะขอบคุณที่หนูได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว” ฉันยิ้มรับคำอวยพรจากแม่ก่อนสบตากับพ่อที่ยิ้มอยู่ข้างๆ “พ่อก็ขอให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิตนะขอบคุณที่เข้ามาสร้างรอยยิ้มให้กับครอบครัว” ฉันยิ้มรับอีกครั้งพ่อกับแม่มักจะให้พลังบวกกับฉันเสมอและฉันก็สัญญาว่าถ้าเรียนจบแล้วฉันจะเข้าบริษัทและช่วยที่บ้านทำงานเพื่อตอบแทนที่พวกเขาทั้งสองได้ให้ชีวิตใหม่กับฉัน “ตาคริสอวยพรน้องบ้างสิ” ฉันหุบยิ้มทันทีเมื่อแม่เอ่ยถึงพี่คริสที่นั่งทำหน้าบุญไม่รับอยู่ตรงข้ามฉันก็แน่แหละเพราะว่าเขาโดนแม่ลากลงมาเพียงเพราะให้มาดูฉันเป่าเค้กเท่านั้นฉันยิ้มหยีๆแบบเกรงใจจะปฏิเสธไปก็รู้อยู่ดีว่าแม่คงไม่ยอมและอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ในอนาคตเลยได้แต่นั่งนิ่งๆรอฟังอีกฝ่ายพูดแค่นั้น “เบิร์ดเดย์” น้ำเสียงเรียบๆเอ่ยออกมาพร้อมกับสายตาที่จ้องมองฉันเขม็งแม้จะรู้สึกผิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเอ่ยขอบคุณและยิ้มกว้างอย่างมีความสุขไปให้ “ผมขอตัวก่อนนะครับ” ฉันมองร่างสูงที่ตอนนี้กลายเป็นมนุษย์เงินเดือนเรียบร้อยแล้วยอมรับตรงๆเลยว่าฉันรู้สึกดีเล็กน้อยที่เพื่อนๆมักจะอิจฉาที่ฉันมีพี่ชายที่หล่อเหลาได้ขนาดนี้ก็นะบางวันก็เป็นพี่คริสที่มารับฉันที่โรงเรียนในช่วงที่พ่อหรือแม่ไม่ว่างซึ่งถ้าวันไหนเขามารับฉันก็ได้แต่พ่นคำขอโทษออกไปที่จริงก็ขอพ่อกับแม่เดินทางกลับบ้านเองแล้วแต่เป็นพ่อกับแม่ที่ไม่ยอมจนต้องไปรบกวนเวลาเรียนของพี่คริสแน่นอนว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้เต็มใจเลยสักนิดเหมือนกัน “ตาคริสนี้จริงๆเล้ย!” แม่เอ่ยบ่นตามหลังถ้าถามว่าพี่คริสเกลียดฉันมั้ยฉันก็บอกได้ไม่เต็มปากนะว่าเกลียดรึเปล่าเพราะบางทีพี่คริสเขาก็จะมีมุมอ่อนโยนบ้างอย่างเช่นเขารู้ว่าฉันไม่ค่อยชอบทานผักเขาก็จะดันจานผักไปไว้ใกล้ตัวเขาแทนและดันจานเนื้อๆส่งมาให้ฉันหรือเป็นตอนที่ฉันเครียดกับการสอบเข้ามหาลัยมากๆก็เป็นพี่คริสที่ชอบชื้อของหวานที่ฉันชอบกลับมาบ้านหลังเลิกงานทุกครั้งและมักจะบอกให้ฉันเอาไปแบ่งๆกับพี่แม่บ้านกินมันเป็นการกระทำเงียบๆที่ถ้าไม่สังเกตจริงๆก็จะไม่รู้เลยอะไรประมาณนั้น Rrrrr “เรย์ขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ” ฉันค่อยๆลุกออกไปอย่างระมัดระวังก่อนจะกดรับสาย “ฮัลโหลค่ะ” (แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะเรย์) น้ำเสียงอบอุ่นของปลายสายทำฉันยิ้มออกมา “ขอบคุณนะคะที่แทน” ฉันเอ่ยขึ้นยิ้มๆพี่แทนหรือแทนคุณเป็นเพื่อนสนิทของพี่คริสที่เราได้เจอกันตอนฉันมาอยู่บ้านได้เกือบเดือนหลังจากแนะนำตัวไปพี่แทนคุณก็ใจดีกับฉันมากเวลามาบ้านทีไรก็ชอบซื้อขนมมาฝากฉันตลอดเขามักจะพูดให้กำลังใจฉันในเรื่องเรียนและเรื่องส่วนตัวหรือแม้กระทั่งบางครั้งก็อาสามารับฉันที่โรงเรียนเพื่อพาไปทำ กิจกรรมต่างๆที่ฉันไม่เคยทำมาก่อนทำให้ฉันค่อนข้างที่จะสนิทกับพี่แทนคุณมากกว่าพี่ชายอย่างพี่คริสเสียอีก (ไว้พี่พาไปเลี้ยงย้อนหลังนะ) “ได้ค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ”>.< (ครับมีความสุขมากๆนะ) สิ้นสุดประโยคสายก็ถูกตัดไปพอดีสงสัยคงแอบมาโทรตอนเวลาทำงานแน่ๆ “คุยกับแฟนหรอ?” ฉันสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงปริศนาที่จู่ๆก็โพล่งขึ้นมาก่อนจะรีบหันไปดูและก็เจอกับชายร่างสูงที่ส่วนสูงพอๆกับพี่คริสเขาคือเพื่อนสนิทอีกคนของพี่คริสที่มักจะมาคุยงานกันอยู่เสมอใบหน้าของเขาจัดได้ว่าหล่อมากแต่ถ้ารู้นิสัยจริงๆแล้วทั้งตัวก็มีดีแค่ หน้าตาเท่านั้นแหละ “แล้วพี่จะมายุ่งอะไรด้วยหรอคะ?” ฉันเอ่ยถามออกไปด้วยความไม่ชอบใจเพราะฉันไม่เคยชอบผู้ชายคนนี้เลยแม้แต่น้อย!คือไม่ชอบเลยเรียกได้ว่าเป็นผู้ชายที่มีนิสัยที่ฉันเกลียดอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะพูดจาไม่ดีพูดไม่ให้เกียรติคนอื่นหรือแม้กระทั่งสายตาที่มักจะมองมาที่ฉันอย่างหื่นกามนั่น “แหมๆปากร้ายขึ้นเยอะเลยนะน้องสาว” ร่างสูงเอยขึ้นอย่างยียวนก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาหาฉันซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่อยู่นิ่งๆหรอกเลยตัดสินใจที่จะเดินหนีแต่ก็โดนร่างสูงคว้าแขนเอาไว้ก่อนจะดันฉันกำแพงบ้านอย่างแรง “มันเจ็บนะคะพี่ดีแลน!” ฉันเอ่ยออกไปด้วยความโมโหเขาเป็นใครทำไมต้องมายุ่งย่ามกับฉันนักหนาก็ไม่รู้ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นอย่าง สนุกก่อนจะค่อยๆใช้จมูกโด่งๆของเขาไล้ไปมาบริเวณหน้าของฉันซึ่งฉันก็พยายามจะขัดขืนแล้วแต่ก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหวจะให้ร้องตะโกนก็ไม่อยากให้คนอื่นมาเห็นฉันในสภาพแบบนี้ “อึกปล่อยนะคะ” ฉันดีดดิ้นอย่างแรงเมื่อปลายจมูกของอีกฝ่ายเริ่มลงมายังซอกคอของฉันก่อนที่เขาดูดเนื้อตรงคอฉันเบาๆและใช้ฟันขบมันอย่างแรง “อึกเจ็บ!” ด้วยความเจ็บฉันเลยใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออกทันทีก่อนจะกุมไปที่คอที่ยังคงชุ่มไปด้วยน้ำลายของอีกฝ่าย “หวานดีจัง” พี่ดีแลนเอ่ยขึ้นพร้อมกับเช็ดมุมปากของตัวเล็กน้อยการกระทำของเขาทำให้ฉันค่อยๆร้องไห้ออกมาเพราะนี่มันต่างอะไรกับการโดนล่วงเกินเลยสักนิด “ทำอะไรกัน” ฉันตกใจเมื่อได้ยินเสียงของพี่คริสดังขึ้นมาก่อนจะรีบปาดน้ำตาออกทันทีพี่คริสเดินเข้ามาหาฉันเขาจ้องมาที่ฉันก่อนจะมองไปที่เพื่อนของเขาที่เพียงยืนเฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ร้องไห้?” พี่คริสเอ่ยถามฉันพร้อมกับมองสลับไปที่พี่ดีแลน “ปะเปล่าค่ะเรย์ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันเอ่ยขึ้นอย่างลนๆโดยที่มือก็กำคอไว้เพราะฉันรู้ว่ามันต้องมีรอยแน่ๆก่อนจะรีบเดินหนีทั้งคู่และรีบขึ้นห้องไปทันทีเมื่อถึงห้องสิ่งแรกที่ฉันทำคือการตรงที่กระจกก่อนจะเอียงคอและก็เป็นอย่างที่ฉันคิดจริงๆพี่ดีแลนทิ้งรอยแดงจ้ำใหญ่ไว้บนคอของฉันฉันใช้มือถูรอยนั้นอย่างรังเกียจฉันทนมาตลอดหลายปีกับสายตาหื่นกามของอีกฝ่ายและพอเริ่มรู้ตัวก็จจะเริ่มไม่เข้าไปใกล้หรือใส่ชุดที่ปกปิดร่างกายให้ได้มากที่สุด แต่เหมือนมันจะไม่เป็นผลเลยสักนิดเมื่อยิ่งหลบหน้าพี่ดีแลนก็ยิ่งสนุกยิ่งคอยตามแกล้งฉันไปทั่วฉันไม่รู้จริงๆว่าในหัวสมองของเขาคิดอะไรอยู่จะเรียกว่าแกล้งเพราะชอบฉันก็ไม่ใช่เพราะเขาก็ไม่ได้มีท่าทีจะชอบฉันเลยแม้แต่น้อยแต่เขาเพียงแค่สนุกกับการแกล้งฉันแค่นั้น ฉันถูจนมันเป็นรอยแดงขนาดใหญ่กลบรอยแดงเล็กๆของพี่ดีแลนน้ำตาของฉันไหลออกมาด้วยความแสบร้อนก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปขัดตัวทุกซอกทุกมุมที่ผู้ชายคนนั้นจับร่างกายของฉัน ฉันรังเกียจและไม่ชอบขี้หน้าพี่ดีแลนที่สุด โอ้ยยสงสารยัยยหนูเรย์พี่ดีแลนคะทำตัวดีๆหน่อยสิคะเดี๋ยวเถอะนะ อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD