ข้อตกลงระหว่างเราสองคน ผมยอมรับมันทุกเงื่อนไข ไม่มีข้อคัดค้าน ถึงจะได้สิทธิ์แค่นอนจับมือผมก็ยอม แต่ยัง! มันยังไม่จบ แป้งอนุญาตให้ผมช่วยตัวเองได้แต่ห้ามไปเอากับใครเด็ดขาด ฟังแล้วเหมือนใจกว้างแต่มันแคบยิ่งกว่าช่องว่างในถุงยางใช้แล้วซะอีก
เธอจะมาหาผมที่คลับเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าผมจะไปหาให้โทรบอกก่อนเสมอ และทุกวันเสาร์จะเป็นวันที่เธอมีธุระ ห้ามผมไปหาเด็ดขาดไม่ว่าจะที่มหาลัยหรือที่บ้าน โดยไม่บอกเหตุผล แต่ผมก็ยังตกลงโดยไม่ตั้งคำถาม
ฮ่า ๆ / ฮา~~
เสียงหัวเราะของชายฉกรรจ์หลายคนประสานดังลั่น มีเพียงคนเล่าที่นั่งเอามือกุมขมับ มองตาละห้อย
“กูว่าแล้ว ไหนมึงบอกไม่จริงจัง”
“ช่วงนี้ก็เมื่อยมือไปก่อนนะเพื่อน ฮ่า ๆ”
‘กริช’ ตบไหล่เบาๆเป็นการปลอบ ในขณะที่คนอื่นๆยังหัวเราะชอบใจ โดยเฉพาะ ‘ต้นกล้า’ ที่ดูจะหัวเราะเสียงดังกว่าคนอื่นๆ เพราะเคยอยู่ในสภาวะความรู้สึกอับอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีมาก่อน
“น้องแป้ง เป็นผู้หญิงคนแรกนะครับ ที่ทำให้ไอ้เวหายอมได้ขนาดนี้”
“พี่ไมค์พูดเอาใจแป้งหรือเปล่าคะ?” เสียงหวานของคนตัวเล็กถามตกลับ พร้อมกับเหลือบไปมองชายตัวโตที่เอาแน่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ
“น้องแป้ง พี่มีเรื่องอยากถาม วันนั้นเอาอะไรให้พี่กินครับ?” ต้นกล้า ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง มองผู้หญิงตัวเล็กอย่างสงสัย ในขณะที่ทุกคนในห้องก็รอฟังคำตอบจากปากของเธอไม่ต่างจากคนตั้งคำถาม
“ก็แค่.. ยา สลบหมา ทำไมเหรอคะ?” คำตอบเรียบง่ายแต่ทำให้ทุกคนอึ้ง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะลั่นของคนที่อยู่ในห้อง ไม่เว้นแม้แต่ต้นกล้าที่เป็นคนโดนมากับตัว
ผมกับแป้งฝุ่นตกลงคบกันภายใต้เงื่อนไขที่เธอตั้งไว้ ความสัมพันธ์ระหว่างเราราบลื่นดี ไม่มีอะไรติดขัด ผมไปรับ-ไปส่งเธอทุกวัน ป้ากับลุงก็รับรู้และให้การต้อนรับผมด้วยความอบอุ่นเหมือนเป็นคนในครอบครัว
“วันนี้ดึกแล้ว ป้าว่าค้างที่นี่ก็ได้นะลูก”
คำชวนจากปากหญิงมีอายุ ทำให้ชายตัวโตหูผึ่ง รีบพยักหน้ารับโดยไม่คิดปฏิเสธ แต่แล้วความหวังก็พลันดับวูบเมื่อสายตาของเด็กสาวที่ยืนอยู่มุมห้อง มองมาที่เขา
“มะ ไม่เป็นไรครับป้า ผมต้องกลับไปเคลียร์งานต่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมค่อยมารับน้องแป้งอีกที” เสียงปฏิเสธในลำคอ ก้มหน้าตอบอย่างไม่เต็มใจ ทำให้ผู้เป็นลุงเหลือบไปมองหลานสาว แล้วอมยิ้ม
“พักที่นี่แหละ กว่าจะขับไปขับกลับไม่ได้นอนกันพอดี อย่าไปสนใจไอ้แป้งมันเยอะ”
“ลุงคะ แป้งเป็นหลานลุงนะ ทำไมเข้าข้างคนอื่นแบบนั้นล่ะ?” คนตัวเล็กทำหน้ามุ่ย มองคนที่กำลังยิ้มแป้นด้วยความหมั่นใส้
“เรามีห้องว่างตั้งเยอะ จะหวงไว้ทำไม เก็บจานเสร็จก็ไปจัดห้องให้พี่เขาซะ หาเสื้อผ้าให้ด้วย”
“ใครอยากให้นอนก็จัดเองสิคะ ไม่เกี่ยวกับแป้ง” พูดจบคนตัวเล็กก็เดินกลับเข้าไปในครัว ตามด้วยเสียงจานชามที่กระทบกันดัง
ซ่า~
กึก!
จานชามหลายใบวางลงข้างๆ คนตัวเล็กที่กำลังนั่งล้างจานบนลานหินหลังร้าน ไม่มีเสียงพูดหรือคำได้ของคนที่นำจานมาส่ง จนเธอต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง
“ไม่ต้องเก็บก็ได้ค่ะ เดี๋ยวแป้งเข้าไปเก็บเอง”
“ไม่เป็นไรครับ” พูดจบ ชายตัวโตก็หันหลังเดินกลับเข้ามาข้างใน ผิดจากวิสัยที่เคยเป็น
“เป็นอะไรของเขา?”
ผมกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะกับคุณลุงคุณป้า พวกเขายังถามคำถามเดิมซ้ำๆ เรื่องการงาน อายุ พี่น้อง หรือแม้แต่เรื่องครอบครัว และไม่พ้นถามความรู้สึกที่ผมมีต่อหลานสาวของพวกท่าน
ณ ตอนนี้ผมยอมรับว่ารู้สึกดี มันเป็นสถานะที่ผมเองไม่เคยมีมาก่อน แต่สัญชาตญาณส่วนลึก มันกลับบอกว่าเธอมีบางอย่างที่กำลังปิดบังผมอยู่
“ดึกแล้ว งั้นป้ากับลุงขอไปนอนก่อนนะ ถ้าง่วงก็ไปนอนที่บ้านหลังเล็กรอไอ้แป้งก่อน อย่าไปถือสาคำพูดมันล่ะหลานป้าก็เป็นแบบนี้แหละ”
“ครับ ผมเข้าใจ”
สองสามีภรรยาเดินกลับไปที่บ้านพักอีกหลังที่อยู่ข้างๆร้านอาหาร ส่วนบ้านที่หญิงสาวอาศัย อยู่ลึกเข้าไปด้านหลังของร้าน
ไม่นานหลังเก็บทุกอย่างในครัวเสร็จ คนตัวเล็กก็เดินออกมาที่โต๊ะทานอาหาร แต่ทว่าก็ไม่มีใครนั่งอยู่แล้ว
“หายไปไหนกันหมด?” เสียงเล็กพูดกับตัวเอง มองไปรอบๆพื้นที่ของเรือนไม้หลังใหญ่ แต่ก็ไร้เงาของคนที่เธอมองหา
เงาดำตะคุ่ม ไกลจากแสงไฟส่องเห็น ทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร
“มาทำอะไรตรงนี้คะ” เสียงหวานถามเจ้าของเงาใหญ่ที่กำลังยืนข้างรถคันหรู
“ก็กลับบ้านไงครับ” น้ำเสียงเรียบตอบสั้น ทำให้คนฟังสังเกตเห็นความผิดปกติ
“เป็นอะไรคะ? โกรธเหรอคะ? ที่ไม่ให้นอนที่นี่”
“เปล่า!” คำตอบห้วน ๆ พร้อมน้ำเสียงเย็นชา ทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่ามันไม่เป็นตามที่เขาพูด
ชายตัวโตเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ แต่ยังไม่ทันสตาร์ทเครื่องยนต์ ร่างบางก็แทรกตัวก้มเข้าไปหอมแก้มของคนในรถ ก่อนจะรีบดึงตัวกลับขึ้นไปยืนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“หายโกรธยังคะ?”
ใบหน้าคมเข้มยังเรียบนิ่งไม่ตอบ เขาไม่ได้แสดงอาการดีใจหรือมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการกระทำของเธอเลยสักนิด
“ยังเหรอคะ? แล้วจะให้ทำยังไงล่ะแป้งง้อคนไม่เป็นด้วยสิ” คนตัวเล็กยืนกอดอก มองชายตัวโตที่นั่งอยู่ในรถอย่างหมดปัญญา
“หอมอีกทีสิ พี่อาจจะหายก็ได้” เสียงเรียบบอกคนตัวเล็ก โดยไม่หันไปมองเธอ
เห้อ~~
หญิงสาวนิ่งเงียบ ถอนหายใจดัง ก่อนจะโน้มตัวก้มลงไปหวังหอมแก้มชายตัวโตเป็นครั้งที่สอง แต่ทว่าครั้งนี้เขากลับหันหน้าเข้าหาใบหน้าเล็ก ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันเข้าเต็มๆ
“เอ๊ะ!! 0.0”
อึ๊บ!!
คนตัวเล็กพยายามดึงตัวกลับออกมา แต่มีหรือที่เขาจะยอมปล่อยให้เธอออกไปง่ายๆ ร่างของหญิงสาวถูกดึงเข้าไปนั่งบนตักพร้อมโอบเอวบางกอดรัดแน่น
“พี่เวหา!” เสียงเล็กเรียกดัง มองหน้าเจ้าของตักหนา ด้วยความไม่พอใจ
“ถือว่าหายกันนะครับ” ใบหน้าคมคายยิ้มหวาน ดวงตาคมเข้มมองหญิงสาวตัวเล็ก สายตามีเสน่ห์ของเขากำลังทำให้หัวใจของสาวน้อยเต้นแรง
“น้องแป้งใจร้ายกับพี่มากเลยนะครับรู้ไหม? เป็นแฟนกันมาตั้งหลายเดือน ตั้งเงื่อนไขกับพี่ตั้งหลายข้อแต่พี่ก็ยอมทำตามทุกอย่าง ไม่เคยทำอะไรผิดเลยทั้งต่อหน้าแล้วก็ลับหลัง แต่วันนี้คุณป้ากับคุณลุงเป็นคนชวนเองพี่ไม่ได้เป็นคนขอ แต่น้องแป้งก็โยนความผิดมาเป็นของพี่แล้ว”
“แต่ตอนนี้พี่กำลังทำผิด?”
“ครับ ครั้งแรกที่แป้งหอมพี่ แล้วนี่ก็เป็นจูบแรกหลังจากที่เราคบกัน แป้งจะโกรธพี่ได้ลงคอจริงๆเหรอ? วันนี้ก็ดึกมากแล้วกว่าจะถึงก็คงได้แค่อาบน้ำแล้ววนรถกลับมาใหม่ ” แววตาเศร้ามองหญิงสาวตัวเล็กบนตัก แม้เธอจะรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ แต่ทว่าหัวใจของเธอก็ไม่ได้ต่างจากหญิงสาวทั่วๆไปเช่นกัน
“ก็ไม่ได้จะไล่กลับสักหน่อย ที่มา ก็จะมาตามให้เข้าไปนอนค่ะ”
“จริงเหรอครับ? แป้งพูดจริงใช่ไหม? พี่นอนที่นี่ได้จริงๆเหรอ?” ดวงตาเบิกกว้าง หน้าตาตื่น ท่าทางดีอกดีใจออกนอกหน้าเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน
“ปล่อยได้แล้วคะ แป้งจะไปเตรียมที่นอนให้”
“ขอบคุณครับ แฟนพี่น่ารักที่สุด”
จุ๊ฟๆ!!
พูดจบชายตัวโตก็พรมจูบลงบนใบหน้าเล็กแบบนับครั้งไม่ถ้วน
“พี่เวหาหยุดนะ อร้าย! หยุด!” เสียงเล็กร้องโวยวาย ดันใบหน้าคมคายออกจากแก้ม
“น้ำลายเต็มไปหมดแล้ว หยุด ถ้าไม่หยุดแป้งจะไล่กลับจริงๆนะคะ” สิ้นคำขู่ ชายตัวโตถึงกับหยุดชะงัก คลายอ้อมแขนออกจาร่างคนตัวเล็กปล่อยให้เธอเป็นอิสระอย่างว่าง่าย มีเพียงรอยยิ้มกว้างกับสายตาเจ้าเล่ห์เท่านั้นที่ยังมองตามหญิงสาวไม่ยอมปล่อย