“คุณลูกค้าจะรับอะไรดีคะ?”
“ที่นี่มีเมนูแนะนำไหมครับ? พอดีผมเพิ่งเคยมาครั้งแรก”
“ถึงว่า หน้าไม่คุ้น งั้นป้าแนะนำเมนูนี้เลยค่ะ” รายการอาหารวางลงตรงหน้าของชายหนุ่ม ทว่าเป้าหมายของเขากลับไม่ใช่มาทานอาหารเท่านั้น หากแต่เป็นอย่างอื่นที่อยู่ในร้านอาหารแห่งนี้ที่น่าสนใจกว่าอาหารหลายเท่า
ระหว่างที่นั่งรออาหารยกมาเสิร์ฟ สายตาคมก็สอดส่ายมองสำรวจไปรอบๆอาณาบริเวรของพื้นที่ร้าน
ลึกเข้าในสวนไม่ถึงห้าสิบเมตร มีบ้านหลังเล็กแทรกอยู่ท่ามกลางต้นไม้มีเงาร่างของใครบางคนเดินเข้าออกอยู่ในนั้น เพราะเป็นร้านอาหารสไตล์บ้านสวนนั้นแปลว่าบ้านกับร้านอาหารอยู่ในพื้นที่เดียวกันไม่ได้แบ่งแยก
“ป้าคะเดี๋ยววันนี้แป้งออกไปหามุกนะคะ” เสียงเล็กดังแว่วออกมาจากครัวหลังร้าน
“อีกแล้วเหรอ? กลับดึกๆดื่นๆ มันอันตรายรู้ไหม?”
“ป้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ แป้งเอาตัวรอดได้”
“ที่ป้าห่วงไม่ใช่แป้งหรอก แต่เป็นผู้ชายโชคร้ายพวกนั้นมากกว่า ฮ่า ๆ” เสียงสากของชายมีอายุพูดแทรก ตามด้วยเสียงหัวเราะลั่นของคนทั้งสาม
เสียงพูดคุยดังออกมาจากในครัว ทำให้ลูกค้าหนุ่มที่นั่งรอเผลอหลุดยิ้มเมื่อได้ยินบทสนทนานั้น นั่งสักพักอาหารก็ถูกยกออกมาวางเรียงไว้ตรงหน้า มือเล็กนิ้วมือเรียวยาว ผิวพรรณขาวเนียนละเอียด ทำให้ลูกค้าหนุ่มไม่อาจอดใจเหลือบมองใบหน้าเจ้าของมือนั้นได้
“ทานให้อร่อยนะคะ” เสียงหวานบอกกับลูกค้าที่เข้ามาทานอาหาร กางเกงขาสั้นขาดลุ่ยเสื้อยืดตัวโคร่ง ปรอยผมยาวเกล้าสูงลวกๆ แต่กลับดูเซ็กซี่ในสายตาของคนมอง
“ชุดเด็กเสิร์ฟที่นี่สวยดีนะ” น้ำเสียงเรียบเย็นกระซิบเบา สายตาเจ้าเล่ห์มองร่างเล็กไล่ระดับตั้งแต่ปลายเท้าจนไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าหวาน
ทันทีที่สิ้นเสียงกระซิบ ความเย็นก็แผ่ซ่านไปทั่วทั้งแผ่นหลังของคนตัวเล็ก ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เธอไม่มีทางลืมเสียงที่เพิ่งได้ยินเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเป็นแน่ ลมหายใจสูดลึกดึงสติของตัวเองให้กลับเข้าร่าง ก่อนจะเบนสายตาไปมองใบหน้าของลูกค้าหนุ่มที่เธอเพิ่งเสิร์ฟอาหารให้
“อย่าบอกนะคะว่าหลงเสน่ห์ฉัน จนต้องตามมาถึงที่นี่?”
“ผมแค่แวะมาทานข้าว ไม่คิดว่าคุณจะทำอยู่ที่นี่ หลงตัวเองเกินไปหรือเปล่าครับ?” เสียงนุ่มพูดพลางส่งยิ้มให้หญิงสาว
“แป้งฝุ่นค่ะ เรียกแป้งเฉยๆก็ได้ ไม่ต้องเรียกคงเรียกคุณหรอกมันดูสูงศักดิ์เกินไปค่ะ” ใบหน้าหวานยิ้มรับ
“พี่ชื่อเวหา ดูแล้วน่าจะเป็นน้องหลายปี”
“ค่ะ พี่เวหา อยากรับอะไรเพิ่มก็เรียกแป้งได้ตลอดนะคะ” พูดจบ ร่างบางก็เดินกลับหายเข้าไปในครัว ปล่อยให้ลูกค้าเพลิดเพลินกับอาหารแสนอร่อยบนโต๊ะอย่างเต็มที่
“หล่อเกินไปแล้ว อย่าเชียวนะแป้ง ห้ามหลงใบหน้าหล่อๆนั่นเด็ดขาด แต่ยิ้มหวานเป็นบ้าเลย! ยี้~ ไม่ได้ ไม่ได้ ห้าม อึ้บ! อึ้บ!” เสียงเล็กบ่นพึมพำในลำคอ สลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว จนลืมสังเกตว่ามีคนกำลังยืนมองการกระทำของเธออยู่
“เมื่อกี้น้องแป้งว่าอะไรนะคะ?” เสียงหวานกระซิบเบา ทำให้หญิงสาวสะดุ้ง หลุดออกจากความคิด รีบหันไปมองเจ้าของเสียงนั้น
“ขะ เข้ามาได้ยังไงคะ?”
“ก็น้องแป้งบอกว่าอยากได้อะไรให้เรียก?” คิ้วหนาเลิกสูง ก่อนจะยิ้มหวานให้กับคนตัวเล็กที่พิงอยู่หลังกำแพง
“ให้เรียกค่ะ ไม่ได้ให้เข้ามาในครัว ไม่เข้าใจตรงไหนคะ?”
“แป้งมีอะไร ลูกค้าจะรับอะไรเพิ่มไหม?” เสียงตะโกนแทรกมาจากในสวน ทำให้สาวน้อยทำหน้าค้อนให้กับชายตัวโต
“ไม่มีอะไรค่ะป้า แป้งจัดการได้” เสียงเล็กตะโกนตอบ พลางมองหน้าคมคายที่เอาแต่จ้องเธอตาไม่กระพริบ
“แล้วจะรับอะไรเพิ่มคะ คุณลูกค้า” คิ้วเล็กยกสูง ดวงตากลมโตจ้องหน้าชายตัวโต กอดอกรอฟังสิ่งที่เขาต้องการ อย่างเอาเรื่อง
“พี่อยากได้เพื่อนมานั่งทานด้วย น้องแป้งมานั่งเป็นเพื่อนพี่ได้ไหมคะ?” ใบหน้าคมคายยิ้มหวาน แววตาอ้อน
“แล้วปกตินั่งกินกับใครค่ะ ที่ร้านของเราขายแค่ข้าวค่ะ ไม่มีบริการนั่งกินเป็นเพื่อนลูกค้า ถ้านั่งกินคนเดียวไม่ได้วันหลังก็รู้จักพาคนมาด้วยจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนคนอื่น”
“ใจร้ายจัง?” ใบหน้าเศร้าเดินคอตกกลับมาที่โต๊ะ แต่มุมปากหนากลับยกยิ้มไม่เหมือนคนที่กำลังผิดหวัง
“ชิบหาย โอกาสฉัน แป้งเอ้ย!” เสียงในลำคอด่าทอตัวเอง ก่อนจะสูดลมหายใจ แล้วเดินตามลูกค้าหนุ่มออกมาที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับใบหน้าฉีกยิ้ม
“ก็ได้ค่ะ แป้งจะนั่งเป็นเพื่อน แต่พี่เวหาต้องหาอะไรมาแลกนะคะ”
บทสนทนาบนโต๊ะอาหาร สร้างสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองให้คุ้นเคยสนิทสนมกันมากขึ้น เสียงหัวเราะของหนุ่มสาวดังประสานเป็นพักๆ เพราะไม่มีลูกค้าคนอื่นทำให้คนทั้งสองพูดคุยเสียงดังโดยไม่ต้องเกรงใจใครที่ไหน หากแต่ทุกอากัปกิริยาของหนุ่มสาวกำลังถูกสายตาของผู้เป็นป้ากับลุงที่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว
หลายชั่วโมงผ่านไป แต่ลูกค้าหนุ่มยังนั่งอยู่ในร้านไม่ยอมลุก ทำให้ผู้เป็นป้าต้องหาข้ออ้างดึงเธอออกจากตรงนั้น
“แป้ง มาช่วยป้าหั่นฟักทีลูก” เสียงจากในครัวเรียกคนตัวเล็ก
“ป้าเรียกแล้ว แป้งไปก่อนนะคะ”
“ครับ ไว้เจอกัน”
คนตังเล็กเดินเข้ามาในครัวตามเสียงเรียก แต่เมื่อเห็นหน้าของผู้เป็นป้ากับลุง เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นแค่กลลวงเท่านั้น
“คิดจะทำอะไร? ห้ามทำอะไรแผลงๆเด็ดขาด”
คำเตือนจากป้าไม่ได้ทำให้ความคิดของฉันเปลี่ยนไป และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกเตือน แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ฉันจะยอมฟัง
หนุ่มๆ มากหน้าหลายตา ทั้งที่มหาลัยและบริเวณใกล้บ้านต่างสนใจในตัวของหลานสาวคนเดียวของบ้าน ไม่เว้นแม้แต่ลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารในร้าน แวะเวียนเปลี่ยนสลับกันเข้ามาหาเรียกได้ว่าหัวบันไดไม่เคยแห้ง แต่ทว่าเด็กสาวก็ไม่เคยเปิดใจรับและไม่ปล่อยให้บรรดาหนุ่มๆมีโอกาสปฏิเสธเธอ ด้วยความแสบปนความเจ้าเล่ห์ใช้เสน่ห์รูปกายเป็นเหยื่อแต่อาบพรมด้วยพิษร้าย ทำให้เด็กสาวน่ารักสามารถเอาตัวรอดได้เสมอ
มิหนำซ้ำหนุ่มๆพวกนั้น ยังได้รับบทเรียนจนเข็ดขยาดไม่กล้าเข้าใกล้เธอเป็นครั้งที่สอง แต่ทว่าทุกเรื่องที่เธอทำก็ล้วนส่งผลดีต่อสังคมทั้งสิ้นแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม
“มันบาปนะลูก”
“บาปตรงไหนคะ แป้งกำลังช่วยเด็กที่ถูกพ่อแม่ทิ้งมีเงินเรียนมีข้าวกิน ช่วยสัตว์พิการที่หาอาหารกินเองไม่ได้ แบบนี้เขาไม่เรียกทำบาปค่ะ เขาเรียกว่าเป็นสะพานบุญต่างหาก คนพวกนั้นล้วนมีอยู่มีกิน พวกเขาก็ควรรู้จักแบ่งปันให้คนอื่นบ้าง โลกใบนี้จะได้น่าอยู่ขึ้น”
คำพูดเอาแต่ใจของหลานสาว ทำให้ลุงกับป้าได้แต่มองหน้ากัน พูดจบเด็กสาวก็เดินหันหลังลัดเลาะไปตามคูดิน ข้ามฝั่งเข้าไปในบ้านหลังน้อยกลางสวน ปล่อยให้ป้ากับลุงมองตามหลานสาวพร้อมส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ
..หลังผมเจอกับแป้งวันนั้นเราสองคนก็ติดต่อกันตลอด ผมยอมรับว่าแป้งฝุ่นเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกดีไม่ใช่แค่อยากเอาแล้วเปลี่ยนใหม่ เธอมีบางอย่างที่พิเศษกว่านั้น
สองอาทิตย์ หลังจากที่ทั้งคู่ติดต่อกัน ความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปไวอย่างไม่น่าเชื่อและหญิงสาวก็ไม่กลับไปนั่งที่คลับนั้นอีก