แต่เอเดรียนต้องไปให้สุด “ห้ามปฏิเสธ นี่รถสำหรับทำมาหากิน ไม่ได้ฟุ่มเฟือย แล้วอีกอย่าง ลูกท่านประธานจะต้องนั่งรถที่แข็งแรง ปลอดภัย”
“แต่คุณเห็นไหมว่ามันเข้าประตูรั้วไม่ได้ ประตูรั้วมันเล็กนิดเดียว ถึงเอาเข้ามาได้มันก็คับที่คับทางไปหมด”
เอเดรียนต้องการตัวช่วยจึงเสไปถามลูก “ชอบไหมครับลูก”
“ชอบก้า” น้องไข่มุกพยักหน้าหงึกๆ
เขากดหัวลูกมาชนจมูกตัวเอง ‘ต้องแบบนี้สิลูกพ่อ’
“ลูกชอบ ผมก็พอใจแล้ว คุณช่วยขับรถให้ลูกผมนั่งหน่อยก็แล้วกัน ปัญหาอื่นๆ ผมแก้ไขให้คุณได้” เขายักคิ้ว
“ถนัดดำน้ำนะคุณ เอาเถอะ คุณห้ามพังรั้วบ้านฉันก็แล้วกัน”
“โถทูนหัว เรื่องขับเรือดำน้ำเราก็รู้ๆ กันอยู่” เขาเลื่อนมือข้างหนึ่งมาลูบก้นเธอ สายตาที่ใช้มองแทบจะข่มขืนเธออยู่แล้ว
เพชรพลอยรีบดึงมือเขาออก “เดี๋ยวฉันก็เสร็จหรอก อย่าประเจิดประเจ้อ นี่มันหน้าบ้าน”
“ผมจะไม่ให้กระทบกระเทือนรั้วบ้านคุณเลยสักนิดครับ” เขาวางมือบนหัวเธอแล้วโยกไปมา กะจะดึงมาจูบสักฟอด แต่เป็นจังหวะที่โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงเธอดังขึ้น
“มีอะไรเหรอหยก โทร.มาแต่เช้าเชียว”
เขาไม่รู้ว่าหยกคือใคร จึงเงี่ยหูคอยฟัง แต่แสร้งทำเป็นดูรถถูกเคลื่อนย้าย
“ไอ้เสี่ยนรกอีกแล้วเหรอ! อะไรนะ...เออๆ เอาไว้โทร.กลับไป อ้อ เดี๋ยวบ่ายๆ เจ้จะโอนเงินให้แกเอาไปซ่อมหลังคาบ้านนะ ส่วนค่าเทอมน้องๆ พรุ่งนี้เจ้โอนให้แก แกโอนต่อไปที ฝากดูแม่ด้วยนะหยก ดึงกลับมาให้ได้ เออๆ แกไปทำงานเถอะ เจ้ก็จะไปแล้วเหมือนกัน” เธอแอบถอนหายใจก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าตามเดิม
“แม่ก๋า ไหนโหยะ” น้องไข่มุกได้ยินแม่เอ่ยชื่อหยกที่เคยมาหาที่ร้านกาแฟจึงถามหา
“น้าหยกไปทำงานค่ะ น้องมุกคิดถึงน้าหยกเหรอ”
“หยักให้โหยะดูโยดดด” ชี้ไปที่รถคันใหม่อย่างภูมิใจ “ของมุ”
“เอาไว้แม่บอกน้าหยกให้นะ ว่าน้องมุกมีรถคันใหญ่มากๆ หลานอยากให้น้าหยกมาดู”
เธอยิ้มให้ลูก แต่เอเดรียนมองเห็นความหนักใจในดวงตาของเธอ จึงดึงหัวเธอเข้ามาหอมหนักๆ อย่างให้กำลังใจ
“วันนี้ให้ลูกขึ้นไปอยู่กับผมบนโรงแรมนะ คุณไม่ต้องห่วง”
“จะไม่กวนคุณเหรอคะ ถ้าไม่หลับก็ชวนคุยไม่หยุด ซนมากด้วยนะคะ”
“นี่ลูกผมนะครับ ผมต้องดูแลเขาได้สิ”
*********
เย็นวันเดียวกันนั้น เป็นอีกวันแล้วที่เอเดรียนขอติดรถกลับมานอนที่บ้านของเธอ แต่คราวนี้เขาขอทำหน้าที่เป็นสารถีให้เธอบ้าง ระหว่างขับรถเข้ามาในซอยเขาก็ตั้งข้อสังเกต
“เอ๊ะ มีคนย้ายเข้ามาอยู่ทาวน์โฮมซอยบ้านคุณหลายหลังแล้วนี่ครับ”
“จริงด้วยสิคะ บ้านนี้มีเด็กด้วยค่ะ นั่นไง” เธอชี้ไปที่เด็กหญิงวัยประมาณห้าขวบที่นั่งเล่นกับแมวอยู่ในโรงจอดรถ
“บ้านนั้นก็มีเด็กครับ โตกว่าลูกเราหน่อยนึง ดีเลย น้องมุกจะได้มีเพื่อนเล่น” เขาชี้ไปยังทาวน์โฮมอีกหลัง ยิ้มให้กับชายวัยกลางคนชาวต่างชาติที่กำลังพาลูกชายออกมาเดินเล่น
“สงสัยฉันไม่ทันสังเกตว่ามีคนย้ายเข้ามาแล้ว งั้นเดี๋ยวเราออกมาทักทายเพื่อนบ้านกันดีกว่า” เพชรพลอยพูดอย่างตื่นเต้น รู้สึกอุ่นใจขึ้น เพราะจริงๆ แล้วเธอรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยที่ซอยนี้ไม่ค่อยมีใครมาอาศัย
“แม่ก๋า มุหยักขี่จักรยาน” ลูกสาวบนคาร์ซี้ตชี้ด้านหลังไปยังเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่พ่อแม่พาออกมาป้อนข้าวและขี่จักรยานสามล้อไปด้วย
“ฉันว่าอีกหน่อยลูกต้องติดเพื่อนแน่ๆ เลย ตกเย็นคงจะเร่งให้ฉันกลับบ้านเร็วๆ” เพชรพลอยยิ้มเต็มหน้า แล้วก็ต้องหุบฉับเมื่อรถแล่นมาจอดหน้าบ้านหลังที่อยู่ติดกับบ้านเธอ
“โรงจอดรถครับ” เขายิ้ม “คุณจะใช้ที่นี่ทำครัวเบเกอรี่ก็ได้นะครับ ผมเช่าหลังนี้ไว้แล้ว และขออนุญาตเจ้าของเก่าทำรั้วใหม่จะได้เอารถเข้าไปจอดได้”
“ฉันอยากจะทุบๆๆๆ คุณ” เธอไม่ใช่แค่อยาก แต่ทุบเลย “ไอ้การมีเงินนี่มันทำอะไรๆ ให้เสร็จภายในหนึ่งวันได้ง่ายจริงจิ้ง ฉันไม่รับได้ไหม”
“ผมไม่ได้ทำให้คุณ แต่ผมทำให้ลูก...”
“ท่านประธาน” เธอชิงพูดก่อน “เลิกอ้างลูกเสียที มุกแป้กแล้ว”
“มุเป็นยูกทั่นปะธาน”
เสียงเล็กๆ ใสๆ ที่พูดขึ้นมาจากด้านหลังทำให้พ่อกับแม่ถึงกับหัวเราะพร้อมกัน และนั่นพลอยทำให้เด็กน้อยหัวเราะตามไปด้วย ซ้ำยังพูดไม่หยุด ภูมิใจที่คำพูดของตนเองทำให้พ่อกับแม่ถูกใจ
“มุเป็นยูกทั่นปะธาน”
*********
“ไลลาเดินทางไปไทยก่อนที่มันจะไปเปิดตัวโรงแรมหนึ่งเดือน เหมือนจะท้องด้วยครับ” เจฟฟ์บอกกับโดมินิค
“ไลลาไม่ใช่จุดอ่อนของมัน” โดมินิคมองตรงไปนอกหน้าต่าง ฝั่งตรงข้ามกับตึกของเขาคือลักซ์ชัวรี่กาสิโน อาณาจักรของเอเดรียนที่กำลังคึกคัก
“แล้วทำไมมันถึงยังไม่กลับมาซะที หรือว่าที่นั่นมีอะไรดี” เจฟฟ์ตั้งข้อสังเกต
“ฉันรู้แล้ว และฉันก็เริ่มไปบ้างแล้ว” โดมินิคกอดอก หันมาทางมือขวาของเขา “ฉันจะเล่นเกมกับเอเดรียน ไอ้คนที่หัวใจเย็นชาหยาบกระด้างอย่างมัน ถ้าลองได้รักใครสักคน มันให้ไปหมดทั้งใจแน่ๆ ฉันจะค่อยๆ บีบหัวใจของมัน ให้มันตรอมใจตายอย่างช้าๆ” โดมินิคเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ทำท่าเหมือนในมือตัวเองมีหัวใจของเอเดรียนจริงๆ
“จิ้งจอกลาสเวกัสคงเหลือแต่ตำนาน” เจฟฟ์พูดเอาใจชายหนุ่มรุ่นลูก