เนื่องจากเจ้าของงานวันเกิดอายุมากแล้วจึงต้องรักษาสุขภาพตัวเองเพื่อที่จะยืนหยัดอยู่ได้อีกนานเลยเลือกจัดงานวันเกิดในตอนกลางวันและบริจาคสิ่งของแก่มูลนิธิทั้งหลาย ประมาณสี่โมงเย็นแขกทั้งหมดก็ทยอยพากันกลับ
จักราเดินเข้ามาหาลูกน้องรวมถึงหญิงสาวที่ยืนรออยู่ในมุมหนึ่งของบ้าน อีกไม่นานเขาก็จะกลับแล้วเช่นกัน เพราะบ้านหลังนี้ในความรู้สึกก็เป็นเพียงแค่สถานที่แห่งหนึ่งสำหรับเขา มันไม่มีคำว่าบ้านตั้งแต่มารดาจากไปแล้ว
“เดี๋ยวอีกสักพักเราก็จะกลับกันแล้ว ฉันขอคุยอะไรกับป๊าอีกหน่อย”
“ครับเฮีย ตามสบายครับ”
ดวงตาคมหันไปมองที่จันทร์เจ้า ที่ทำหน้าเบื่อหน่ายงานนี้อย่างไม่คิดปิดบัง แถมเธอยังทำท่ายืดแขนยืดขาปวดเมื่อยที่ต้องยืนนานอีกด้วย
“เมื่อยมากก็ไปหาที่นั่งก่อนไป” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมา ทั้งคิมหันต์และสาโรจน์อมยิ้ม
“กลับไปรอที่คอนโดเลยได้หรือเปล่าคะ”
“มากไปหน่อยมั้ง”
“ง่วงนอน มีที่นอนให้หรือเปล่าล่ะ”
“เกินไป”
“นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ไม่รู้จะแบกมาด้วยทำไม”
นั่นน่ะสิ ให้อยู่ที่เพนต์เฮาส์ก็สิ้นเรื่อง จะแบกมาด้วยทำไม ภาระ!
เขาก็ตอบตัวเองไม่ได้
“ทนหน่อย จะรีบคุยรีบเสร็จ”
“เฮียใหญ่คะ”
เสียงหวานของกรองแก้วเรียกเขาจากทางด้านหลัง แล้วเธอก็เดินมาหยุดอยู่เคียงข้าง
“ครับ”
กรองแก้ววางสายตาไว้ที่ใบหน้าสวยหมดจดของผู้หญิงที่เธอสังเกตเห็นหลายครั้งว่าคู่หมั้นของเธอมองหา ภายในใจคนที่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของในตัวเขามันเต้นเร่าเมื่อมองโลกในความเป็นจริงออก แต่ก็เก็บซ่อนทุกอย่างไว้ภายในใจ ก็แค่ผู้หญิงที่เฮียใหญ่คบไว้เล่น ๆ อย่าคิดมาเทียบชั้นอะไรกับเธอ
“พอดีป๊าของแก้วอยากคุยกับเฮียค่ะ”
“อ้อ ได้ครับ”
ปัง!
ก่อนที่จักรากับกรองแก้วจะหมุนตัวเดินกลับไป แต่แล้วก็เกิดเสียงดังขึ้นมาคล้ายเสียงปืนลั่น เสียงนั้นส่งผลต่อจันทร์เจ้าเป็นอย่างมาก มันสะท้อนอยู่ภายใต้จิตสำนึกว่าเป็นเสียงของปลายกระบอกปืนที่บิดาได้ปลิดชีพตัวเอง มันทำให้เธอผวาหาที่ซุกซบ ซึ่งนั่นก็เป็นอกแกร่งที่เปรียบดั่งกำแพงอันอบอุ่นให้เธอเสมอมา
หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงขึ้น น้ำตาเอ่อท้นโดยไม่รู้ตัว ร่างบางสั่นสะท้านในยามที่เผลอโผเข้าไปกอดจักราแน่น เหมือนเด็กขี้กลัวยามต้องการที่พึ่งพิงท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่หันมามอง
จักราที่ไม่ทันตั้งตัว ชะงักไปทันที แววตาคมที่เย็นชามาตลอดพลันอ่อนแสงลงเมื่อรับรู้ถึงแรงสั่นไหวจากร่างในอ้อมกอด เขายกมือขึ้นช้า ๆ ลูบไล้แผ่นหลังเธอเบา ๆ พลางก้มลงกระซิบปลอบเสียงต่ำ
“ไม่เป็นไร แค่ลูกโป่ง ไม่ใช่ปืน”
เหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งนาทีจันทร์เจ้าก็รู้สึกตัวว่าทำอะไรลงไป พอเธอตั้งสติได้ก็รีบผละตัวออกอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาแขกหลายคนที่ต่างก็หันมามองด้วยความแปลกใจ และในวินาทีนั้น
“ขอโทษค่ะเฮีย ฉันตกใจมากไปหน่อย”
หญิงสาวสูดลมหายใจและเป่าลมออกช้า ๆ ใบหน้าซีดเผือด คิมหันต์กับสาโรจน์จึงช่วยพาตัวเธอออกไปจากตรงนั้น เขาเองก็ไม่ได้สนใจสายตาของกรองแก้วมากนักว่าจะมองอย่างไร พยักหน้าแล้วเดินไปทางบิดาของเธอที่ยืนคุยอยู่กับบิดาของเขา
เสียงน้ำจากก๊อกไหลดังแผ่วเบาผ่านมือเรียวที่ถูกันจนสะอาดแล้วจึงเอื้อมปิด หันไปดึงกระดาษทิชชูมาซับน้ำให้หมาด ก่อนมองหน้าที่ยังออกสีซีดของตัวเองในกระจก จันทร์เจ้าพยายามรวบรวมกำลังใจให้กลับมาเป็นปกติ เหมือนเสียงดังลักษณะนี้จะติดตรึงอยู่ในใจจนยากที่จะลบ แม้ไม่แสดงอาการใดออกมาหากหญิงสาวก็ต้องยืนตัวแข็งค้างไปชั่วขณะกับเหตุการณ์นี้
ฟู่... เสียงเป่าลมหายใจออกจากปากพร้อมกับโยนก้อนกระดาษชำระลงในถังขยะ แต่ยังไม่ทันได้ออกไปประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดพร้อมกับคนที่ยืนอยู่บนรองเท้าส้นสูงสีแดง กรองแก้วในชุดเดรสยาวหรูก้าวเข้ามา ใบหน้ายิ้มหวานแต่สายตากลับเย็นเยียบจนจันทร์เจ้ายืนเงียบไปชั่วขณะ
“อยู่นี่เอง” คุณหมอสาวเอ่ยเสียงเรียบ
“คุณมีธุระอะไรกับดิฉันเหรอคะ”
“เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นอะไรกับเฮียใหญ่”
จันทร์เจ้าพยักหน้า อีกฝ่ายจึงโต้กลับว่า “แล้วกล้าดียังไงถึงมาทำตัวใกล้ชิดเขาต่อสายตาคนทั้งงาน ต้องการอะไร เธอมันก็ไม่ต่างจากคนรับใช้อย่ามาบังอาจเสนอหน้าคิดจะมายืนเทียบเคียงเขา ไม่มีใครมองเธอว่าน่าสงสารหรอกนะ”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ แค่กลัว”
“กลัวเสียงลูกโป่งแตกน่ะเหรอ เหอะ อ่อนไหวทางอารมณ์จังเลยนะ ก็แค่ของเล่นระบายอารมณ์กำหนัดให้ผู้ชาย”
จันทร์เจ้าชะงักไปเล็กน้อย หัวใจถูกแทงซ้ำ แต่เธอเม้มปากแน่น ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือแต่มั่นคง
“บางที ของเล่นชิ้นนั้นก็อาจมีค่ามากกว่าของสะสมราคาแพงที่เขาไม่มีวันหวงแหนก็ได้ ที่เขายอมหมั้นกับคุณ เริ่มต้นก็เพราะความเหมาะสมในทางธุรกิจ ถามหน่อยเถอะ ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้คนอย่างเฮียใหญ่จะแลผู้หญิงอย่างคุณไหม ภายนอกก็ดูผู้ดีมีการศึกษาอยู่หรอกนะ แต่ภายในเป็นแบบไหนก็คงเก็บไว้ไม่มิด แต่งตามหน้าที่กับอยู่ตามหัวใจอันไหนมันรู้สึกดีกว่ากันล่ะ”
คราวนี้เป็นกรองแก้วที่กัดฟัน กำมือแน่น
“มากไปแล้วนะ ฉันไม่ให้เฮียใหญ่เก็บเธอไว้แน่”
“ก็ไปบอกสิ ไปบอกเลย บอกให้เขาทิ้งฉันไว ๆ”
“อย่ามาท้าทายคนอย่างฉัน”
“ทำไม จะเผยธาตุแท้ออกมาแล้วงั้นเหรอ หึ จะบอกอะไรให้นะคะคุณหมอ ต่อให้คุณจะพูดยังไงแต่จงรู้ไว้ด้วยว่า คำพูดมากมายความหมายคือ ฉันมาก่อนคุณ”
พูดจบจันทร์เจ้าก็เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ เดินไปหาคิมหันต์และสาโรจน์โดยไม่สนใจว่ายัยคุณหมอไฮโซจะทำอย่างไร หรือไปฟ้องใคร