เรือนทรงไทยแฝด

1227 Words
บ้านพุดซ้อนกับบ้านพุตตาลอยู่ใกล้กันมองเห็นด้วยสายตา นี่คือความผูกพัน รินรวีเห็นมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนหล่อนจะเกิดด้วยซ้ำ ความผูกพันทั้งสองครอบครัว ในละแวกนี้ รู้แต่ว่ามารดาของรินรวีทั้งคุณปู่และคุณย่า จะแวะมาเยี่ยมเยียนที่บ้านหลังใหญ่หลังนี้เป็นประจำ คุณย่าบอกว่า บ้านหลังนี้มีบุญคุณกับตระกูล รินรวีเชื่อผู้ใหญ่ อายุตั้งแต่เก้าขวบ จนปัจจุบัน รินรวีโตเป็นสาว อายุสิบเก้าปี เคยวิ่งเล่นสนามหญ้าลานหน้าบ้านทรงไทยขนาดใหญ่ บิดาของหล่อนเป็นลูกบุญธรรมของคุณตาภานพและคุณยายทับทิม แต่นี่เป็นความตกใจกับหล่อน แต่งงานซึ่งไม่เคยอยู่ในหัวของรินรวีด้วยซ้ำ หล่อนยังเด็กเหลือเกิน ยังๆไม่รู้จักคำว่าแต่งงานแต่ผู้ใหญ่ต้องการเหตุผลหมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่อยู่ในท้อง รินรวีไม่สามารถเลือกอิสระให้กับชีวิตของหล่อนหรือ ธนิก หล่อนจำเป็นจะต้องบอกเขาด้วยน้ำตา หล่อนคบหาธนิกมานานแล้ว เรียกว่า คนรักก็ได้ ธนิกมีพ่อเป็นสจ๊วต หล่อนเรียกพ่อของเขาว่า คุณอาธนันต์ หากว่าอีกหนึ่งสัปดาห์คือกำหนดงานแต่งรวดเร็วจนแทบไม่ได้ตั้งตัว รินรวีจบการศึกษาแค่ชั้นพาณิชย์ ในวิทยาลัยใกล้บ้านพัก และไม่ได้เรียนต่อสูงกว่านั้น ทั้งๆที่ใจปรารถนา เป็นเพราะคำพูดของคุณมาตาวี ผู้เป็นป้า และคุณอาร้อยแก้ว ใครคนหนึ่งก้าวเข้ามาด้านหลังของหล่อน เขาสูง ใบหน้าคมคายจัดว่าหล่อเหลา แต่รินรวีไม่ได้สนใจอะไรมากกว่านั้น หล่อนได้รับอนุญาตให้มาที่นี่ เป็นความผูกพัน “นี่เธอ” เสียงทุ้มนั้นเหมือนทั้งไร้มารยาทและไม่พอใจต่อหล่อน รินรวีคอแข็งขึ้นมาทันทีแค่ในน้ำเสียงหล่อนไม่พึงพอใจแล้ว เหมือนคนไร้การอบรมอีกทั้งเสียงเหมือนข่มวางอำนาจ ใบหน้าสวยๆค่อยคลี่ใบหน้าหันมา “มีอะไรหรือคะแล้วคุณเป็นใครกันคะ” หล่อนไม่เคยเจอหน้าของเขามาก่อนแน่ เพราะไม่คุ้นเลย รินรวีเลยต้องถามแบบนั้น “แล้วเธอล่ะชื่อ” แต่เขากลับย้อนมาถามอีก รินรวีหยันในสีหน้าไม่ชอบการวางอำนาจและบังคับ และคนอย่างหล่อนไม่ยอมใครง่าย “แล้วคุณล่ะชื่อ” ““ฮึ นี่ฉันจะชื่ออะไรก็ไม่สำคัญหรอก เธอไม่ควรจะรู้” “งั้นคุณก็ไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อฉันเหมือนกัน” เพราะว่าทางฝ่ายของรินรวีไม่ยอมแพ้ “ยัยนี่ชักจะมากเรื่อง” เขาสบถอย่างหัวเสีย ช่างแผกไปจากใบหน้าที่คมคายดูท่าจะอ่อนโยน แต่ความเป็นจริงแล้วก็หาไม่ เพราะเขากระด้างหยาบและเถื่อน “นี่ ยายแปลกหน้า มาทำอะไรที่บ้านหลังนี้” เขาออกเสียงข่มอย่างไม่พอใจ และไม่ให้เกียรติ “นี่ นายคนแปลกหน้า มาทำอะไรที่บ้านหลังนี้” หล่อนออกเสียงเข้มและดวงตาวาววับอย่างไม่ยอมลงให้ และไม่เชื่อตามที่เขากล่าว อาการโกรธพาลไกลกว่านั้นมือแข็งแรงของร่างสูงกับริมฝีปากที่เหยียดไม่รอช้า รีบกรากเข้าไปพร้อมที่ตั้งใจจะกระชากให้สุดแรง หากมือเรียวของหล่อนจึงสะบัดไปตามแรงเหวี่ยง ทั้งต้นแขนและเจ็บปวด ก่อนที่จะมากกว่านั้นกลับมีเสียงหนึ่งห้ามไว้ “นี่หยุด หยุดก่อน ตาปรัณต์ นั่นทำอะไร หนูรวี” คุณปารตีน้าสาวอุทานเรียกไว้ก่อน ที่ร่างสูงจะชะงักหยุดกิริยาก้าวร้าวนั่น และโกรธจนตัวสั่น อีกทั้งเขากำลังจะใช้ความรุนแรงมากกว่านี้ “หมั้นกันตั้งแต่อยู่ในท้องจะแต่งงานกันอีกสัปดาห์หน้าแล้ว ยังจะมาทะเลาะกันอีก นี่ สงสัยหม้อข้าวไม่ทันจะดำ ปู่กับย่าอดอุ้มหลานแน่” ทั้งรินรวีก็ตกใจเช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ชื่อปรัณต์ ซึ่ีงเขานั้นตะลึงตาค้างทันที พร้อมกับทำตาเหลือกใส่ นึกทบทวนที่ผู้หญิงเด็กสาวตรงหน้า ซึ่งมีท่าทางแข็งกร้าวไม่อ่อนหวานสักนิด ฮึ ถ้าจะเข้ามาในชีวิตของเขา และเป็นเจ้าสาว คำนี้ เช่นเดียวกับรินรวีที่เพิ่งทราบจากปากของคุณปารตีว่าเขาเป็นใคร หล่อนหยุดปากตัวเองไว้ แล้วกลายเป็นนิ่ง ก่อนจะสะบัดใบหน้าหันหลังแล้วเดินหนีไป เพื่อขึ้นไปยังเรือนไทย “หึย ยัยนี่เหรอ ที่ผมจะเลิกแขวนชีวิตโสดตลอดกาล ก็เพราะคำสั่งของคุณปู่กับคุณย่า” เขาเอ่ยกับคุณปารตีที่เอาแต่อมยิ้มพร้อมกับนิ่งเงียบ “และนี่มันไม่ยุติธรรมเลย คลุมถุงชนชัด แต่ผมมีคนรักแล้วนะ แก้วเป็นคนรักของผม ผมจะไม่มีวันแต่งงานกับยายม้าดีดกะโหลกคนนี้แน่” ปรัณต์ประกาศพูดไว้กับน้าสาว รินรวีเพิ่งรู้ว่าเขาเป็นใคร นี่หล่อนจะต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ดูกักฬระและเถื่อนยังงั้นหรือ เขาประกาศบอกแล้วว่าเขามีคนรัก และหล่อนล่ะที่คบหารู้จักกันน่าจะเรียกได้ว่า คนรักเช่นกัน เพราะหล่อนผูกพันใจมีความรักให้เขาไม่น้อย รินรวียังไม่กล้าตัดสินใจแหกคอก แหกความรู้สึกของคุณป้าและคุณอาเลย หล่อนรู้ว่ากรอบจารีตคืออะไรและความถูกต้อง ผู้ชายคนนี้ทำให้หล่อนหัวเสียได้ดีเหมือนกัน กับความรู้สึกนั้นหรือ บอกไม่ถูก แต่ว่าหล่อนไม่ปรารถนาให้การแต่งงานเกิดขึ้น หากต้องทำตามผู้ใหญ่ ทำไม ชีวิตของหล่อน ต้องทำตามผู้ใหญ่ทุกอย่างที่ขีดวางเหมือนเป็นคำสั่ง กำหนดของพวกท่านเริ่มขึ้นตั้งแต่หล่อนไม่ได้เกิดมาลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ นี่มัดมีชกตั้งแต่คราวนั้นเลยเหรอ และอีกอย่างชายหนุ่มว่าที่เจ้าบ่าว เขาก็ไม่ได้ปรารถนาให้งานแต่งเกิดขึ้นเช่นกัน แล้วจะทำอย่างไร แน่ที่สุด มันเป็นการฝืนอารมณ์ทั้งสองฝ่าย ข้อนี้ หล่อนอยากจะคิดว่า ผู้ใหญ่คิดอะไรกันอยู่ รินรวีเป็นคนมีเนื้อหัวใจที่อ่อนและเปราะบาง รินรวีกลับเข้ามาในบ้านเจอคุณทัศนาวรรณ เอ่ยถาม “เห็นว่าเข้าไปเล่นในบ้านโน้นอีกแล้วหรือ” รินรวีที่ก้มหน้างุดเดินกลับมาไม่ยอมบอกสาเหตุที่แท้จริง ที่ได้พบเจอมา ระหว่างสองบ้านหลังใหญ่ ที่เป็นที่คุ้นเคยกับผู้คนในตระกูลมานานพอสมควร ไม่เคยคิดสักนิดว่า จะได้พบเจอผู้ชายปากร้ายที่เขาหายไปนานเป็นเพราะเรียนหนังสือนี่เอง ความเป็นจริง เขาเป็นคู่หมายที่ครอบครัวพากันหมั้นเอาไว้ตั้งแต่ หล่อนอยู่ในท้องด้วยซ้ำ “ แล้วเป็นอะไรล่ะ ทำหน้าไม่สบายเลย” ขึ้นเรือนไปเงียบๆไม่ยอมตอบมารดามากกว่านั้น คุณทัศนาวรรณขมวดคิ้ว ปกติลูกสาวจะไม่เป็นแบบนี้ ไปไหนมา คุณทัศนาวรรณถามลูกสาวอีกครั้ง “ไปบ้านโน้นค่ะแม่” เรือนพุดซ้อนกับพุดตาน “แล้วทำไม หน้าหงิกกลับมาล่ะ” “เจอผู้ชายมารยาทไม่ดีค่ะ เลยมีเรื่องเถียงด่ากัน” เรื่องไม่ยอมลงให้ใครง่ายๆคุณทัศนาวรรณรู้จักลูกสาวคนเดียวดี “ทำไม หนูไม่ยอมใจเย็นลงกว่านี้ล่ะ รวี” “ผู้ชายคนนั้นต่างหากค่ะแม่ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย ตัวเองเป็นผู้ชายแท้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD