“จ้ะพ่อ”
คล้อยหลังผู้เป็นพ่อ แก้วตายิ้มแฉ่งให้เพื่อนหลังพาขึ้นเรือนซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ถุงขนมที่พ่อบอกวางอยู่บนระเบียง เธอจึงหยิบขนมปลาสีเหลืองมาแบ่งครึ่งให้เพื่อนใหม่ด้วย
“เห็นไหม พ่อเราไม่ดุ ใจดีม้ากมากด้วยนะ”
“อื้อ งั้นเราจะให้แก้วเรียกแม่เราว่าแม่ด้วยนะ แม่เดือนของเราใจดีมากเหมือนกัน”
“ได้เลย นี่มีขนมโก๋ปลาด้วย นายเคยกินไหม”
“ไม่เคย”
แก้วตาหยิบขนมโก๋รูปปลาสีขาวออกมาแบ่งครึ่งให้เพื่อนอย่างมีน้ำใจ
“อร่อยมากเลยล่ะ”
ซีกัดไปคำหนึ่ง ตัวขนมติดคอนิดหน่อยแต่รสชาติอร่อยถูกใจ
“อร่อยจริงด้วย งั้นวันหลังแก้วไปดูทีวีบ้านเรานะ บ้านเรามีทีวีด้วย แม่เดือนซื้อให้”
“โห จริงอะ เราอยากดูทีวีมากแต่หมู่บ้านเรามีแค่บ้านไอ้เอกกับร้านยายสุก เราไม่ชอบเอก เอกชอบแกล้งเพื่อนเลยไม่ไปขอดู”
“ต่อไปนี้ก็ไปดูบ้านเราได้ แต่ว่าเราต้องทำการบ้านก่อน ถ้าไม่ทำการบ้านแม่ไม่ให้ดู”
ซีเล่าว่าพรุ่งนี้มีการ์ตูนป๊อปอาย แก้วตาซักใหญ่ว่าเป็นไง พอได้ฟังยิ่งอยากดู ซีเล่าเรื่องการ์ตูนนั้นให้ฟังไปพลางหยิบสมุดออกมาเขียนการบ้าน ซึ่งคุณครูสั่งให้เขียนกอไก่ไปส่งหนึ่งหน้ากระดาษ
ระหว่างนั้น โกศลที่เดินไปบ้านป้าแต๋วก็กลับมาพร้อมกับเดือนประดับ
“ขอบคุณพี่มากเลยจ้ะที่เดินไปบอก เดือนกำลังชะเง้อหาอยู่ กลัวซีจะหลงทาง”
“ไม่เป็นไรหรอก เราคนหมู่บ้านเดียวกัน ว่าแต่เดือนจะพาลูกมาอยู่ที่นี่เลยเหรอ”
เขาเองก็รู้จักหญิงสาวรุ่นน้องคนนี้
“จ้ะพี่ ฉันรับเสื้อโหลมาเย็บอยู่บ้านน่ะ นี่ว่าถ้ามีเก็บเงินได้สักหน่อยจะเปิดร้านตัดเสื้อ”
“แบบนั้นก็ดีเลยเดือน ป้าแต๋วกับลุงกล้าจะได้มีเพื่อน”
โกศลเชื้อเชิญให้เธอขึ้นบนเรือน เด็กน้อยทั้งสองเห็นก็รีบยกมือไหว้
“แม่ครับ”
“สวัสดีค่ะ แม่เดือน หนูชื่อแก้วตาค่ะ เรียกแก้วเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ”
“แก้วลูก...ทำไมเรียกน้าเดือนว่าแม่ล่ะลูก”
โกศลรีบจะอธิบายกับลูกสาว แต่ถูกเดือนประดับห้ามไว้ ขณะเด็กน้อยพากันทำหน้างง
“ไม่เป็นหรอกพี่ ให้หนูแก้วเรียกฉันว่าแม่เดือนได้ ฉันไม่ถือ หนูแก้วตาน่ารักน่าเอ็นดูเชียว”
เดือนประดับดึงเด็กหญิงตัวเล็กไปกอดด้วยความเอ็นดูจากใจจริงเพราะความที่เป็นคนชอบเด็กอยู่แล้ว
“ผมก็เรียกพ่อแก้วว่าพ่อได้ใช่ไหมครับแม่”
ผู้ใหญ่ทั้งสองมองหน้ากัน รู้สึกมีก้อนแข็งจุกในอก เข้าใจดีถึงความโหยหาในบางอย่างของลูก ๆ
โกศลคลี่ยิ้ม ลูบหัวเด็กชายเบา ๆ
“ได้สิ ต่อไปซีเรียกพ่อว่าพ่อโกได้เลย”
“รอด้วยแก้ว”
“เร็ว ๆ สิซี เราอยากถึงบ้านไวไวจะได้ลองชุดใหม่ที่แม่เดือนตัดให้” เราว่าจะเอาไปใส่วันสอบลีลาสอะ”
เด็กหญิงตัวผอมสูงที่กำลังเดินแกมวิ่งนำหน้าตรงไปทางบ้านเขา ผมยาวที่มัดไว้เป็นหางม้าปลิวไหว ๆ ก่อนเธอจะหันมามองเขาพลางเดินถอยหลัง พูดย้ำคำเดิม
“เราว่าจะเอาไปใส่วันสอบลีลาสด้วยแหละ”
ซีมองเห็นรถจักรยานที่ปั่นมาจากอีกด้าน ด้วยกลัวว่าเด็กสาวจะได้รับอันตรายจึงพุ่งตัวไปหาแก้วตา กระชากตัวกลับมาได้เฉียดฉิวก่อนรถจักรยานจะหยุดลงตรงหน้าพวกเขา
“อะไรไอ้เอก” แก้วตาตวาดถามคนขี้แกล้งด้วยความตกใจ ตอนนี้โตกันจนเรียนจะจบมอสามแล้วยังชอบแกล้งคนอื่นไม่เลิก เธอไม่ชอบเลย
เอกยิ้มยียวนให้สาวก่อนตวัดไปมองลูกพี่ลูกน้องที่จับแขนแก้วตาไม่ปล่อยด้วยแววตาไม่พอใจ
“เราปั่นไปส่งไหมเธอ บ้านเธอเดินอีกไกลนะ”
“ไม่เอาอะ เราจะไปหาแม่เดือน”
“ไปทำไม”
“เอ๊ะ เกี่ยวไรกะนายด้วย มันเรื่องของเราไหม ปะซี เราไปเหอะ ไม่ต้องสนใจหมอนี่หรอก”
แก้วตาคว้ามือเพื่อนรักเดินหนีไปทันที โดยไม่ได้สังเกตว่าเด็กหนุ่มทั้งสองมองกันตาขวางอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ไม่รู้ไอ้เอกมันเป็นบ้าอะไร ชอบมาแกล้งพวกเราเช้าเย็นเลย”
“จะไปเอาอะไรกะคนบ้าล่ะ”
ซีเหลือบมองไปข้างหลังยังเห็นว่าลูกพี่ลูกน้องของตนยังมองมาไม่วางตา เขากระชับมือจับมือเล็กดึงให้คนตัวผอมมาเดินด้านในแทนการเดินติดถนน
ตอนเช้าเอกมักจะปั่นจักรยานคู่ใจมาชวนแก้วตานั่งไปโรงเรียนด้วย โรงเรียนมัธยมแห่งนี้เพิ่งเปิดได้สี่ปีตั้งอยู่ห่างจากบ้านไปประมาณหนึ่งกิโลเมตรเศษ พวกเราชอบเดินไปโรงเรียนมากกว่า แก้วตาให้เหตุผลว่าจะได้ออกกำลังกายเช้าและเย็นไปด้วย
เขารู้ว่าทำไมไอ้เอกมันทำตัวแปลก ๆ มันเริ่มสนใจแก้วตา สนใจแบบอยากเป็นแฟน เขาเป็นผู้ชายทำไมจะดูไม่ออก แต่ให้มันฝันกลางวันเถอะ คนนิสัยไม่ดีขี้แกล้งอย่างมัน เขาไม่ยอมให้แก้วตาชอบมันเป็นอันขาด ทั้งมันยังชอบจีบสาวไปทั่วด้วย
ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ถึงบ้าน บ้านของซีเป็นบ้านสองชั้น ชั้นบนเป็นไม้และชั้นล่างเป็นปูน แม่ของเขาใช้ชั้นล่างเปิดร้านตัดเสื้อ แรก ๆ ก็ไม่ค่อยมีลูกค้านัก แต่แม่มีโอกาสตัดเสื้อให้ครูใหญ่ที่โรงเรียนประถมชุดหนึ่ง จากนั้นไม่นานก็มีบรรดาคุณครูพากันมาสั่งตัด รวมไปถึงครูจากโรงเรียนมัธยม พอคนที่ทำงานในตัวอำเภอเห็นชุดเห็นฝีมือก็พากันมาสั่งตัดด้วย ทำให้แม่เขามีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในบ้านได้เป็นอย่างดี
“มากันแล้วเหรอ”