หลังเลิกเรียน
“ลินกลับไง ฉันไปส่งไหม” เมลเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉันเอ่ยถามขึ้นเมื่อเราเดินออกมาจากห้องเรียน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันกลับเองได้” ฉันตอบกลับไปด้วยความเกรงใจ
“ได้ไง ฉันไม่ปล่อยเพื่อนกลับคนเดียวหรอกนะ นี่ก็มืดแล้วด้วย” ยัยเมลเอ่ยออกมาอย่างขึ้นเสียงเล็กน้อย ยัยนี่น่ะเป็นห่วงฉันมากฉันรู้ แต่จะให้เมลไปส่งมันก็เกรงใจจริงๆเพราะทางกลับคอนโดเมลกับหอพักของฉันมันคนละทางกันเลย
“เดี๋ยวฉันจะแวะไปที่คาเฟ่น่ะ พอดีพี่ส้มให้เข้าไป” ฉันจึงโกหกเพื่อนออกไป ไม่อย่างนั้นยัยเมลต้องรบเร้าจะไปส่งฉันให้ได้แน่ๆ
“ไปตอนนี้เนี่ยนะ” เมลทำหน้าเหมือนจะอยากจะเชื่อ
“อืม น่าจะเรื่องเงินเดือนน่ะ” ฉันจึงพูดออกไปแบบหน้าตาจริงจังมากขึ้น ยัยเมลจึงทำได้แค่พยักหน้าตอบกลับมา
“งั้นก็กลับดีๆแล้วกันนะ” เมลเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วง
“โอเค เจอกันพรุ่งนี้” ฉันตอบกลับไปก่อนจะยกมือขึ้นโบกลาเพื่อนและแยกกันออกมา ฉันเดินออกมาหน้าตึกคณะเพื่อจะไปยังป้ายรถเมล์
ปรี๊ดด ปรี๊ดด
เสียงบีบแตรดังขึ้นทำให้ฉันหันกลับไปมองตามเสียงจึงเห็นว่ามีรถจอดอยู่หน้าตึกคณะคันหนึ่ง เจ้าของรถที่เห็นว่าฉันมองไปยังรถของเขาก็เปิดประตูลงมาจากรถ
“พี่เซน” ฉันเอ่ยขึ้นในลำคอ พี่เซนเดินตรงมายังฉันที่ยืนทำหน้างงอยู่
“ยังไม่กลับเหรอคะ” ฉันถามออกไป
“จะกลับแล้วเหรอน้องลิน” พี่เซนไม่ตอบคำถามฉันแต่เอ่ยถามฉันขึ้นมาแทน
“ค่ะ” ฉันก็พยักหน้าตอบกลับไป
“ขึ้นรถสิ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เซน ลินกลับเองได้ค่ะ” ฉันตอบกลับไปอย่างเกรงใจอีกอย่างเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดที่จะให้พี่เขาไปส่งได้
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก มันมืดแล้วนะ” พี่เซนก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นใจดี
“เอ่อ…ไม่เป็นไรจริงๆค่ะพี่เซน ลินกลับได้” ฉันยังคงตอบกลับไปด้วยความเกรงใจ
“แต่นี่มืดมากแล้ว ถ้าลินจะรอรถเมล์ก็คงอีกนาน ให้พี่ไปส่งดีกว่า”
“ไม่เป็นระ…(ไร)” แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบพี่เซนก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ถ้าลินไม่ให้พี่ไปส่ง พี่ก็จะไม่ไปไหน” พูดจบเขาก็เดินไปนั่งที่โต๊ะม้าหินหน้าตึกทันที
“เฮ่อ” ฉันถอนหายใจออกมากับความดื้อดึงจะไปส่งของพี่เซน ถ้าจะให้ฉันทิ้งเขาให้นั่งอยู่แบบนี้ ฉันก็คงดูเป็นคนใจร้าย เพราะที่นี่ยิ่งมืดยุงก็ยิ่งเยอะฉันจึงจำใจเดินเข้าไปหาเขา
“ลินให้พี่เซนไปส่งก็ได้ค่ะ” ฉันจึงพูดออกไปด้วยความเกรงใจแต่ก็ทำไรไม่ได้ในเมื่อเขาตื๊อจะไปส่งให้ได้
“โอเค ไปขึ้นรถกัน” พี่เซนที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มให้ฉันและพาฉันไปที่รถของเขาก่อนจะขับออกจากมหาลัยไป
บรื๊นนน
“เราไม่เจอกันนานแค่ไหนแล้วนะ” พี่เซนพูดขึ้นเพื่อพยายามชวนฉันคุยเพราะเราต่างเงียบกันมาตลอดทาง
“สามปีได้แล้วมั้งคะ” ฉันก็ตอบกลับไป
“น้องลินสวยขึ้นเยอะเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ พี่เซนก็หล่อขึ้นเหมือนกันนะคะ” ฉันยิ้มตอบเขาตามมารยาท พี่เซนก็หล่อขึ้นจริงๆนั่นแหละเพียงแต่ว่าฉันไม่ได้สนใจเขาเหมือนใครบางคนเท่านั้นเอง
“น้องลินเรียนคณะเดียวกับไอ้กราฟฟิคเหรอ” เขายังคงเอ่ยถามต่อ
“ใช่ค่ะ” ฉันก็ตอบกลับไปตามปกติ แต่จู่ๆ ใบหน้าที่แสนจะเย็นชาของใครบางคนก็ลอยเขามาในหัวของฉันทำให้ฉันเผลอคิดถึงเรื่องราวในอดีต
“น้องลิน น้องลินดาครับ” พี่เซนเอ่ยเรียกฉันเสียงดังทำให้ฉันได้สติขึ้นมา
“คะ” ฉันตอบกลับไปด้วยความตกใจ
“ใจลอยไปไหนเนี่ย พี่เรียกเราตั้งนาน”
“เอ่อ…ลินคิดเรื่องเรียนอยู่น่ะค่ะ” ฉันก็ตอบปัดๆไป
“เหรอครับ”
“ว่าแต่ลินได้ยินพวกเพื่อนคุยกันว่าพี่เซนไปเรียนต่อเมืองนอกไม่ใช่เหรอคะ” ฉันก็ถามเขาพยายามจะชวนคุย เพราะมีแต่พี่เซนที่ชวนฉันคุยมาตลอด
“ใช่ครับ” พี่เซนพยักหน้าตอบ
“ตอนนี้ปิดเทอมเหรอคะ” ฉันถามไป เขาก็ส่ายหน้ากลับมา
“พอดีพี่รู้สึกไม่ชอบสังคมที่นู่นก็เลยโอนหน่วยกิตกลับมาเรียนที่นี่แล้วครับ”
“อ่อค่ะ” ฉันก็พยักหน้าตอบ
“พอกลับมาแล้วได้เจอน้องลิน รู้สึกคิดถูกแหะที่เลือกจะกลับมาเรียนที่นี่” พี่เซนหันมายิ้มบอกฉัน ทำให้ฉันยิ้มแหย่ๆตอบกลับไปก่อนที่เราจะเงียบกันไปอีกครั้ง จนพี่เซนขับรถมาถึงหน้าหอพักของฉัน
“ขอบคุณนะคะพี่เซนที่มาส่ง” ฉันหันไปเอ่ยบอกเขาก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูจะก้าวลงจากรถ
“เดี๋ยวครับน้องลิน” แต่จู่ๆ พี่เซนก็เอื้อมมือมาจับข้อมือของฉันไว้ ทำให้ฉันตกใจรีบดึงมือกลับทันที
“เอ่อขอโทษครับ” พี่เซนเอ่ยออกมาอย่างสุภาพ ก่อนจะเงียบไป
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฉันจึงเป็นฝ่ายเอ่ยถามเขาแทน
“ตอนนั้นวันงานปัจฉิมที่พี่เคยขอเราคบ” พี่เซนพูดขึ้นถึงเรื่องนั้น มันก็ทำให้ฉันเงียบไปทันที
“พี่ขอโทษนะครับที่สารภาพไปแบบน้องลินไม่ได้ตั้งตัวเลย”
“ตอนนั้นพี่คงทำให้น้องลินตกใจมากและทำตัวไม่ถูก”
“เอ่อ…” ฉันก็ทำท่าทางอึกอักเพราะยอมรับตามตรงว่าฉันก็ตกใจมากจริงๆ
“วันนั้นพี่คงกดดันน้องลินเกินไป” พี่เซนพูดขึ้นอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรเลยค่ะพี่เซน ลินเข้าใจ” ฉันก็พูดปลอบเขากลับไปเพราะฉันเข้าใจความรู้สึกของพี่เซนจริงๆ ก็วันนั้นฉันก็เป็นแบบเขาเลยนี่น่า
“ขอบคุณนะครับน้องลินที่เข้าใจพี่” พี่เซนก็พูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มๆ ฉันจึงยิ้มตอบเขากลับไป ตั้งแต่ที่ฉันรู้จักพี่เซนเขาเป็นคนสุภาพ อบอุ่นใจดี และตอนนี้เขาก็ยังเป็นแบบเดิม แต่แปลกที่ฉันไม่เคยคิดอะไรกลับเขาเกินพี่ชายเลย…
“ขับรถกลับดีๆนะคะ” ฉันพูดออกไปก่อนจะรีบลงจากรถทันทีและเขาก็ขับรถออกไป
อีกด้าน
@mixnightbar
“ไอ้กราฟคิดว่าจะไม่มาซะแล้ว” วอร์มเพื่อนในกลุ่มสมัยมัธยมเอ่ยทักกราฟฟิคที่เดินหน้านิ่งเข้ามานั่งตามสไตล์ของเขา
“ไอ้เซนยังไม่มา?” กราฟฟิคไม่ได้ตอบคำถามเพื่อน แต่เลือกที่จะถามเพื่อนกลับ ก่อนจะกระดกเหล้าดื่มไปพลางๆ
“ยังไม่เห็นหัวมันเลย” ยูพูดขึ้นอย่างประชดประชันเพื่อนตัวเองเพราะตั้งแต่เขามาก็ยังไม่เห็นเพื่อนที่กราฟฟิคถามถึง พวกเขาจึงนั่งกินเหล้าพูดคุยกันไปตามประสาเพื่อนที่ไม่ค่อยได้เจอกันจนเวลาผ่านไปสักพัก
“นั่นไงมันมาแล้ว” วอร์มเอ่ยขึ้นพยักหน้าไปทางบุคคลที่เดินเข้ามาใหม่ ซึ่งเซนที่พึ่งเดินเข้ามาก็ทำหน้างงที่เพื่อนหันไปมองทางตัวเองเป็นทางเดียว
“มองไรกันวะ” เซนเอ่ยถามขึ้นก่อนจะเดินมานั่งลงข้างกราฟฟิค
“กว่าจะโผล่หัวมาไอ้เวร เป็นคนนัดเองแท้ๆ” ยูพูดขึ้นทันที เซนก็ยักไหล่ตอบกลับไปก่อนจะยกมือเรียกเด็กมาชงเหล้า
“มึงไปไหนมาวะ ถึงมาช้าจัง”
“พวกกูนั่งแดกรอมึงจนจะหมดขวดละ” ทั้งวอร์มและยูต่างพากันถามเซนอย่างอยากรู้คำตอบต่างจากเพื่อนอีกคนที่เอาแต่นั่งสูบบุหรี่ไปกระดกเหล้าไปไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
“กูไปส่งน้องลินดามา” เซนก็ตอบคำถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงปกติแต่เขากับยิ้มออกมาอย่างไม่ปกปิด
“ลินดาไหนวะ” ยูพูดขึ้นอย่างสงสัย
“น้องลินดา ม.5/1 ที่มึงเคยชอบแล้วไปขอคบเมื่อวันปัจฉิมอ่ะนะ” แต่วอร์มที่จำได้ก็พูดขึ้นคายข้อสงสัยให้เพื่อนที่นั่งงง
“อ่อกูจำได้ล่ะ คือน้องคนที่เขาปฏิเสธมึงขอเป็นแค่พี่น้องใช่ปะ” ยูที่จำได้ก็เอ่ยแซวหยอกล้อเพื่อนตัวเองทันที
“อืม” เซนก็พยักหน้าตอบ ไม่ได้โกรธอะไรเพื่อนที่ล้อเรื่องในอดีตของเขา
“เดี๋ยวนะ! แล้วมึงไปส่งน้องได้ไง” วอร์มเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้
“พอดีกูไปหาไอ้กราฟที่คณะแล้วบังเอิญเจอน้อง พอรู้ว่าน้องเรียนเลิกมืด กูก็เลยอยู่รอไปส่ง” เซนอธิบายให้เพื่อนฟัง
“แล้วทำไมมึงต้องรอด้วยวะ” ยูยังคงถามต่ออย่างไม่เข้าใจ
“อย่าบอกนะว่ามึงยังไม่เลิกชอบน้องอะ” วอร์มเอ่ยถามขึ้นทันทีด้วยความสงสัย แต่เซนก็ไม่ตอบยักไหล่เป็นคำตอบแทน ทำให้ทั้งวอร์มและยูหันมองหน้ากัน
“เชี้ย น้องปฏิเสธมึงต่อหน้าคนเยอะแยะขนาดนั้นมึงยังชอบอยู่อีกเหรอวะ” ยูถามขึ้น
“ตอนนั้นกูอาจจะเร่งรัดน้องเกินไป อยู่ๆเดินไปบอกชอบแล้วขอคบเลย น้องก็คงตกใจและเราก็ยังไม่ได้ทำความรู้จักอะไรกันมากมาย”
“แล้วยังไง”
“กูจะลองจีบน้องใหม่” เซนพูดขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง ทำให้เพื่อนทั้งสองหันมองหน้ากันอีกครั้งด้วยความแปลกใจ ผิดกับกราฟฟิคที่เอาแต่นั่งเงียบกระดกเหล้าเข้าปากจ้องมองหน้าเซนนิ่ง
“มึงเอาจริงดิ”
“อืม” เซนตอบด้วยความจริงจัง เพื่อนทั้งสองก็พยักหน้ารับรู้ก่อนที่เขาจะคุยเรื่องอื่นกันไป
“ทำไมถึงกลับมา” เป็นคำพูดแรกที่ออกมาจากปากหนาของกราฟฟิคตั้งแต่เซนเข้ามานั่ง
“เบื่อ กูอยากกลับมาเรียนที่นี่มากกว่า” เซนตอบกลับมาหน้าเซ็งๆ
“เออกลับมาก็ดีเราจะได้รวมกันครบๆ” วอร์มพูดขึ้นก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมา
“ฉลองให้การกลับมาของไอ้เซนหน่อยเว้ย” ยูพูดจบ ทุกคนก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาชนกันและกระดกดื่มกันไปตามประสา…