1

2395 Words
ภายในห้องขังที่มืดมิดสตรีร่างงามในอาภรณ์สีชมพูปรือตาขึ้นมา นางกวาดสายตามองไปรอบๆ ที่นี่ที่ไหนกัน นางมาอยู่ที่แห่งนี้ได้อย่างไร? เสื้อผ้าก็แปลกตานี่มันเป็นเสื้อผ้าสตรียุคโบราณ หรือว่านางย้อนเวลาเข้ามาในอดีต            บ้าน่าจะเป็นไปได้อย่างไร?            เซียวหมิงจำได้ว่านางกำลังจะเดินข้ามถนนไปสมัครงานโรมแรมแห่งหนึ่งย่านกรุงปักกิ่ง หญิงสาวจบปริญญาตรีสาขาโภชนาการด้านอาหาร            ใบหน้างามหลับตาหวนคิดเรื่องที่เกิดขึ้น            ในครานั้นร่างงามกำลังจะข้ามถนนแต่ทว่าได้มีรถยนต์คันหนึ่ง ขับมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวหันไปมองรถยนต์คันนั้นพุ่งมาที่นางอย่างแรง ร่างงามกระเด็นลอยขึ้นฟ้าท่ามกลางสายตาคนมุงดูในครานั้น            หญิงสาวปรือตาขึ้น นางตายแล้วจริงๆ โชคชะตาคงได้กำหนดให้หญิงสาวมาใช้ชีวิตโลกอีกใบ เซียวหมิงกุมศีรษะ ปวดเหลือเกิน ดูเหมือนว่าร่างนี้ช่างอ่อนแอเหลือเกิน ความทรงจำเจ้าของร่างเดิมไหลผ่านสมองของเซียวหมิง            เจ้าของร่างเดิมเป็นบุตรสาวขุนนาง ท่านอัครเสนาบดีเซี่ย แล้วทำไมนางถึงถูกจับตัวมาที่แห่งนี้ล่ะ เซียวหมิงหวนคิดแต่ทว่าภาพความทรงจำกลับมืดสนิทราวกับอยู่ในหลุมอวกาศ นางมีชื่อคล้ายกันกับเซียวหมิง คือเซี่ยเซียวหมิงนั่นเอง            พอแค่นี้ก่อนนางไม่อยากจะคิดอีกแล้ว ก่อนอื่นต้องหาทางออกไปจากที่แห่งนี้เพื่อกลับจวนอัครเสนาบดีเซี่ย            นางเหลือบไปเห็นเศษไม้ที่แหลมคมร่างงามใช้เศษไม้ปาดเชือกที่มือและเท้าออก แรงจะเดินก็จะไม่มีเลย            “ข้าปวดท้อง” หญิงสาวร้องลั่นห้อง แสร้งนั่งลงตามเดิม            ประตูถูกเปิดออกบุรุษชุดดำเดินเข้ามาหา “คุณหนูใหญ่ตอนที่พวกข้าเอาข้าวมาให้ ท่านก็ปา…” ไม่ทันที่บุรุษผู้นั้นเอ่ยจบ ท่อนไม้ขนาดใหญ่ฟาดไปที่ขาเขาอย่างแรงจนชายหนุ่มล้มลงกับพื้น เซียวหมิงดึงแรงเฮือกสุดท้ายวิ่งออกมาจากห้องมืด            “จับนางเร็ว!”            เสียงตะโกนดังขึ้น เหล่าชายชุดดำต่างวิ่งตามร่างงามอย่างไม่ลดละ เซียวหมิงใช้แรงเฮือกสุดท้ายวิ่งเข้าไปในป่าไผ่ ภายใต้ความมืดมิดหญิงสาวจากโลกปัจจุบันเข้ามาในยุคโบราณ เพิ่งจะมาถึงที่ก็จะโดนฆ่าทิ้งเสียแล้ว            ชีวิตนางช่างน่าอนาถยิ่งนัก!          นางหายใจอย่างเหนื่อยหอบ!          ไม่ไหวแล้ว ร่างงามสะดุดต่อไม้ล้มลงอย่างทุลักทุเล หญิงสาวค่อยๆ คลานไปเรื่อยๆ สายตาปะทะกับเท้าบุรุษ นางมองจากล่างขึ้นบน ดวงตาคู่งามแทบถลนออกมาปลายกระบี่จ่อที่คองามระหง            “ปล่อยข้าไปเถอะ” ใครกันที่ต้องการทำร้ายเจ้าของร่างนี้            เหล่าชายชุดดำห้าคนขันออกมาอย่างแรง “ปล่อยอย่างนั้นรึ ท่านรนหาที่ตายเอง หลายวันมานี้พวกข้ารอฟังคำสั่งว่าจะเก็บท่านไว้หรือไม่ แต่ทว่าเห็นทีคงจะไม่ต้องฟังคำสั่งแล้ว”            นางจะตายอีกรอบอย่างนั้นรึ            เซียวหมิงเอ๋ย! นางหลับตาลง พร้อมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น          เอ๊ะ…ทำไมพวกมันยังไม่ลงมืออีกเล่า            ฟิ้ว!          อ๊าก! ลูกดอกปักที่แขนชายชุดดำที่จ่อกระบี่ที่คอนาง กระบี่นั้นเฉียดที่คอนางจนเป็นรอยแดงนิดหน่อย            หญิงสาวปรือตาขึ้นมาทันที ภาพที่พร่ามัวทำให้นางเห็นบุรุษชุดสีขาวต่อสู้กับชายชุดดำเพียงพริบตาเดียวเหล่าชายชุดดำล้มลงจนหมด            เขาช่างเก่งเหลือเกิน            “แม่นางเป็นอย่างไรบ้าง” บุรุษชุดขาวเอ่ยถามเซียวหมิง เขามองสตรีที่อยู่ในอ้อมแขนเขา นางคงจะเหนื่อยกระทั่งลำคอยังได้รับบาดเจ็บ ร่างหนาพาร่างงามทะยานขึ้นฟ้าท่ามกลางความมืดมิด…          ร่างงามนอนบนเตียงอย่างสบาย บุรุษชุดขาวมองใบหน้างามที่ขาวซีดราวกับแผ่นกระดาษ สองวันแล้วนางก็ยังไม่ฟื้น            หญิงสาวค่อยๆ ปรือตาขึ้นมา พบว่าบุรุษชุดขาวกำลังจะก้าวเดินจากไป “ท่าน…”            คำนี้ทำให้บุรุษชุดขาวรีบหันมาทันที            “เจ้าฟื้นแล้ว” ใบหน้าหล่อเหลายักยิ้มให้นาง            “ข้าหลับไปกี่วันเจ้าคะ” เซียวหมิงเอ่ยถามเขา            “สองวัน ข้าจะเอาข้าวต้ม กับยามาให้แม่นาง” ชายหนุ่มรีบรุดเดินออกไปทันที เซียวหมิงนึกขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้นางยังไม่ตาย แถมได้บุรุษที่หล่อเหลาช่วยชีวิตได้ ใบหน้างามแดงซ่านทันทีเมื่อหวนคิดใบหน้าหล่อคิ้วดุจกระบี่จมูกโด่งเป็นสัน            บ้าน่าเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานยังจะมาคิดอะไรบ้าๆ นางรีบสลัดความคิดออกทันที          เวลาประมาณหนึ่งก้านธูป บุรุษรูปงานในชุดขาวถือถาดอาหารกับชามยามาให้นาง เขาวางมันไว้ที่โต๊ะเล็กข้างเตียง            นางได้กลิ่นข้าวต้มถึงกับน้ำลายไหล ดูเหมือนว่าเจ้าของร่างนี้ไม่ได้รับประทานอาหารมาหลายวัน ชายหนุ่มยื่นชามข้าวต้มให้นาง            เซียวหมิงมองเขาอย่างหวั่นไหวคนบ้าอะไรหล่อยิ่งกว่าดาราชายในประเทศจีนอีก นึกว่าเซียวจ้าน ดวงตาของเขาช่างคมกริบราวกับดวงตาเหยี่ยว            กรี๊ด! เซียวหมิงใจละลายเจ้าค่ะ            “แม่นางรีบกินเถอะ จะได้ดื่มยา พักรักษาตัวอีกสามวันก็หาย” กล่าวจบชายหนุ่มหันหลังให้นาง เขากำลังจะไปข้างนอก            “ท่านจะไปไหนเจ้าคะ”            “ข้าจะไปเก็บยาสมุนไพร”            หญิงสาวกำลังจะกล่าวขอบคุณเขา แต่ทว่าร่างหนาได้เดินออกไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้างามฉุดคิดว่าเขาไปเก็บสมุนไพรทั้งยังชอบสวมอาภรณ์สีขาว หรือว่าเขาจะเป็นหมอ            หลังจากที่นางรับประทานข้าวต้มและกินยาเป็นที่เรียบร้อย หญิงสาวรู้สึกว่ายาที่ดื่มเข้าไปมีผลอย่างรวดเร็วทำให้นางหายป่วยรู้สึกสดชื่น ตอนนี้นางมีแรงเดินชมรอบๆเรือนแห่งนี้ หน้าจวนปลูกดอกไม้และมีต้นไม้ใหญ่อยู่ข้างหน้า            บรรยากาศช่างสดชื่นยิ่งนักสายตามองไปที่รอบๆ เรือนเต็มไปด้วยป่าไผ่ ล้อมรอบไปด้วยภูเขาเขียวขจี เซียวหมิงไม่คิดเลยว่าจะเป็นเรื่องจริงที่ตัวนางได้ย้อนเวลามาจริงๆ            นางเดินไปข้างหลังเรือนดูเหมือนว่าเขาจะตากพวกใบไม้แห้งกับพวกกลีบบุปผาต่างๆ ไว้ให้มันแห้งสงสัยจะเป็นยาไว้รักษาคนกระมัง            “แม่นาง”            หญิงสาวหันไปข้างหลัง พบว่าบุรุษชุดขาวนั่นเอง ดูเหมือนว่าเขาคงจะเหนื่อยมากกระมังใบหน้าผุดไปด้วยเหงื่อ ข้างหลังยังแบกตะกร้าซึ่งเต็มไปด้วยสมุนไพรอีกต่างหาก            “ท่านกลับมาแล้ว”            เขามองใบหน้างามบัดนี้มีเลือดฝาดขึ้นมาเล็กน้อย “เข้าไปในเรือนกันเถิด” หญิงสาวรีบเดินตามหลังร่างหนา…            เซียวหมิงรีบรินน้ำชาให้ท่านหมอทันที นางดูซีรีย์คนจีนโบราณชอบดื่มน้ำชาเวลานั่งที่โต๊ะมักจะให้สาวใช้รินน้ำชา            “แม่นางควรจะพักผ่อนให้มากไม่ควรออกมาเดินเล่นเยี่ยงนี้”            หญิงสาวหลุบตาลงต่ำ            “ขอบคุณท่านที่เป็นห่วงเจ้าค่ะ”            “แม่นางแซ่อะไร” บุรุษชุดขาวเอ่ยถามนาง            “เรียกข้าว่าเซี่ยเซียวหมิงก็ได้เจ้าค่ะ แล้วท่านแซ่อะไร”            “ข้าเจียงลู่ เป็นหมอ”            “ขอบคุณท่านเจียงยิ่งนักที่ช่วยเซียวหมิงไว้เจ้าค่ะ”            “ว่าแต่แม่นางเซี่ยเหตุใดจึงโดนคนพวกนั้นไล่ฆ่าได้”            หญิงสาวทำใบหน้าฉงน นางเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันดูเหมือนความทรงจำเจ้าของร่างนี้จะขาดหายไป            “ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ ที่จริงข้าเป็นบุตรสาวขุนนาง พวกนั่นอาจจะจับตัวเรียกค่าไถ่ก็ได้เจ้าค่ะ” นางเดามั่วไปก่อน            “เอาล่ะ เมื่อแม่นางเซี่ยหายแล้วค่อยกลับไปในเมืองข้าจะให้คนไปส่งเจ้า”          เซียวหมิงยิ้มหวานให้เขา “รบกวนท่านหมอแล้ว”          สามวันผ่านไปดูเหมือนว่าร่างกายของเซียวหมิงจะดีขึ้นกว่าเดิม นางไม่รู้สึกอ่อนแอเหมือนตอนแรกเลย ดื่มยาท่านหมอเจียงทุกวันร่างกายนางสดชื่นขึ้นทันตา สามวันที่อยู่เรือนหมอนางมีแต่กินกับนอน วันนี้แล้วที่เขาจะให้คนรับใช้ไปส่งนางในเมือง            นางเหมือนไม่อยากจะไปจากเขาเลย            หลังจากรับประทานอาหารเช้าอิ่มแล้ว            เจียงลู่มองดรุณีน้อยที่เขาช่วยเหลือนางเมื่อหลายวันก่อนดูเหมือนนางจะมีแรงกว่าเดิม เขารู้สึกเอ็นดูนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่งอย่างบอกไม่ถูก            “แม่นางเซี่ยเดินทางปลอดภัย”            เซียวหมิงมองหมอเจียงสายตาละห้อย นางไม่อยากจะจากไปเลย            “ท่านเจียงข้าลาล่ะเจ้าค่ะ”            “เสี่ยวอี้ดูแลแม่นางเซี่ยให้ดี”            “ขอรับท่านหมอ” เสี่ยวอี้คือบ่าวชายที่หมอเจียงไว้ใจ            “ถ้ามีโอกาสข้าจะกลับมาตอบแทนบุญคุณท่านเจ้าค่ะ”            “ข้าคิดว่าพวกเราคงได้เจอกันอีก” เจียงลู่มีรางสังหรณ์อย่างนั้น            รถม้าธรรมดาพาเซียวหมิงมาที่เมืองหยางอัน เมื่อถึงหน้าประตูเมืองหญิงสาวลงจากรถม้าพร้อมกล่าวขอบคุณเสี่ยวอี้            เซียวหมิงปรายตามองประตูเมืองที่สูงใหญ่ทั้งยังมีนายทหารเฝ้าประตู มันช่างเหลือเชื่อจริงๆ ตายแล้วเกิดใหม่ในโลกอดีต ผู้คนเดินขวักไขว่เข้าประตูเมือง เห็นทีคราวนี้นางคงได้ชมความงามของอดีตให้เต็มตาแล้วค่อยถามคนแถวนั้นว่าจวนอัครเสนาบดีไปทางไหน            สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านคาขายขนมต่างๆ มีทั้งถังหูลู่ ตุ๊กตาปั้นดินเผา เครื่องประดับต่างๆ หญิงสาวเดินดูร้านค้าแต่ละแผง วิถีชีวิตของคนโบราณช่างดียิ่งนัก ไม่มีรถยนต์ ไม่มีบ้านหรูๆ โทรศัพท์มือถือก็อยู่ได้            หญิงสาวไปสะดุดตาตรงที่ชาวบ้านมุงดูอะไรกัน นางใคร่อยากจะรู้ไปร่วมดูดีกว่า ภาพที่เห็นคือบุรุษชุดฟ้าหน้าตาหล่อเหลา โดนสตรีชุดขาวสะบัดมือใส่หน้าจนแดงเถือก            “คุณชายตู้ ท่านมีอะไรกับข้าแล้วนะ” สตรีนางนั้นพูดออกมาอย่างไม่อายปาก            ตู้อี้เหอมองหญิงคณิกานางนี้อย่างตะลึง “เจ้าเป็นสตรีของหอนางโลมจะให้ข้ารับผิดชอบได้อย่างไร ข้าก็จ่ายเงินไปแล้ว”            เซียวหมิงไม่คิดว่าสองคนจะบ้าดีเดือดขนาดนี้กินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้ง ชาวบ้านต่างมุงดูด้วยความสมเพชก่อนจะแยกย้าย            สตรีนางนั้นถึงกับร้องไห้ออกมา “ท่านบอกว่าจะไถ่ตัวข้าออกจากหอนางโลม”            ตู้อี้เหอเข้าใจแล้วที่นางไม่จบเพราะอยากจะให้เขาไถ่ตัวออกมานั่นเอง            ชายหนุ่มยกพัดหยกมันแกะขึ้นมาพัดอย่างไม่สบอารมณ์            เซียวหมิงนึกสงสารหญิงสาวผู้นั้นทันที นางคงจะเบื่อชีวิตหอนางโลมสินะ            “เจ้าไปได้แล้วไม่ต้องมากวนข้า”            สตรีชุดขาวกอดขาเขาไม่ปล่อย “ช่วยข้าด้วยเถอะเจ้าค่ะ”            เซียวหมิงอดที่จะสอดปาดขึ้นไม่ได้ “ท่านก็ดูดีอยู่หรอกนะ แต่ทำไมไม่ช่วยนางเล่า” น้ำเสียงนี้ทำให้ตู้อี้เหอเหลือบมองต้นต่อ            สตรีชุดชมพูย่างเท้าเข้ามา ตู้อี้เหอเหลือบมองเซียวหมิงอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเอ่ยขึ้น “แล้วเกี่ยวอันใดกับเจ้าด้วย”            “ในเมื่อนางขอร้องท่าน ท่านก็น่าจะมีน้ำใจช่วยนางเสียหน่อย”            สตรีชุดขาวมองหน้าเซียวหมิง “แม่นางพูดถูก”          เซียวหมิงยิ้มหวานออกมา “เป็นบุรุษควรจะรับผิดชอบสตรี”            “เจ้าสตรีปากร้าย” ตู้อี้เหอไม่เคยมีใครกล้าว่าเขามาก่อน            “ก็ได้ข้าจะไถ่ตัวนาง” ในที่สุดตู้อี้เหอก็หมดความอดทน            สตรีชุดขาวดีใจ “ขอบคุณคุณชาย”            นางไม่ลืมหันมาหาเซียวหมิงพบว่านางเดินไปไกลแล้ว            ด้านเซียวหมิงดีใจเล็กน้อยที่ได้ช่วยคนการเป็นหญิงคณิกาคงจะทรมานน่าดู ไม่แตกต่างจากโสเภณีในโลกปัจจุบันไม่ว่าทุกยุคทุกสมัยก็ต้องมีเรื่องอย่างว่า          หญิงสาวเหลือบมองหมั่นโถว่ในเข่ง นางต้องลองเสียแล้ว นางได้หมั่นโถว่หนึ่งลูกกินไปเดินไปช่างมีความสุขจริงๆ สายตามองดูแผงร้านค้าโบราณ            “หลีกไป หลบไป”            บุรุษควบม้าตามท้องถนนบอกชาวบ้านให้หลบไป            เซียวหมิงไม่รู้ว่าภัยจะมาถึงตัว นางมัวแต่มองสิ่งของไม่ได้สนใจอย่างอื่น            “กรี๊ด!” หญิงสาวถึงกลับล้มลงพื้น นางเดินอยู่ดีๆ กลับมีม้าที่ไหนไม่รู้มาที่ท้องถนนทั้งที่คนเดินเยอะแยะ บุรุษผู้นั้นกลับไม่สนใจ            “ข้าบอกให้หลบไปไม่เชื่อ ช่างโง่เขลายิ่งนัก”            เซียวหมิงมองบุรุษรูปงามที่ด่าแล้วควบม้าออกไป            “เจ้า…” เจ็บชะมัดเลย            ชาวบ้านต่างเห็นใจนาง            “คุณหนู”            เซียวหมิงกำลังลุกขึ้น นางมองสตรีชุดฟ้าหน้าตาน่าเอ็นดูอายุราวสิบสี่ปี เรียกนางว่าคุณหนู เซียวหมิงหลับตาลง            “คุณหนูหายไปไหนมาเจ้าคะ บ่าวตามหาตั้งหลายวัน” สาวใช้นางนั้นเอ่ยทั้งน้ำตา เซียวหมิงหวนคิดว่าสาวใช้นางนี้คือคนที่โดยรับใช้ เซี่ยเซียวหมิงนั่นเอง            “เสี่ยวฟางพาข้ากลับจวนก่อนแล้ว ข้าจะเล่าให้ฟัง”            เสี่ยวฟางดีใจเป็นอย่างมากที่คุณหนูของนาง กลับมาอย่างปลอดภัย ย้อนไปเมื่อหลายวันก่อนเสี่ยวฟางกับเซี่ยเซียวหมิงออกมาเดินเล่นที่ตลาดแต่ทว่าทั้งสองคลาดกัน เมื่อกลับไปถึงจวนอัครเสนาบดีเซี่ย เสี่ยวฟางรีบรายงานเรื่องที่คุณหนูหายไปทันทีทำให้ทุกคนต่างร้อนใจ…          เพลาพลบค่ำหญิงสาวก็มาถึงจวนอัครเสนาบดี เสี่ยวฟางปรนนิบัติอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจ้านายเสร็จ สาวใช้จากเรือนใหญ่ก็ตามเซียวหมิงไปพบท่านอัครเสนาบดีเซี่ย  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD