เดิมพันรักวิศวะร้าย
Bad Engineer (มังกร & มะลิ)
บทนำ อ้ายมาสี่คน
ณ ไนต์คลับหรู ย่านทองหล่อ เป็นสถานที่นัดรวมตัวของสี่หนุ่มหล่อร้าย พวกเขาเป็นนักศึกษามหาวิทยาเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ดีกรีของพวกเขานั้นไม่ธรรมดา ทั้งเบ้าหน้าฟ้าประทาน ไหนจะรูปร่างสมส่วนอย่างกับนายแบบ อีกทั้งความรวยที่มีติดตัวมาตั้งแต่ปฏิสนธิ แค่นี้ก็ทำให้คิวของสาว ๆ ที่วาดฝันจะได้ขึ้นเตียงกับพวกเขาสักครั้ง ก็ยาวจนมองไม่เห็นหางแถวแล้ว
ขนาดที่ว่าชื่อเสีย..เอ่อ..ชื่อเสียงจะถูกล่ำลือกันว่าพวกเขามันเพลย์บอย ถนัดฟัน ถนัดทิ้ง แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะกลายเป็นความท้าทายที่หญิงสาวบางรายอยากลองวัดดวงสักครั้ง เผื่อฟลุ๊คได้ควงพวกเขายาวจนจบเทอม
“ไงมึง..หน้าแนบอกไม่ยกเลยนะมึง”
เสียงคุ้นหูดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของ มังกร มังกร..ผู้ชายที่ดูผิวเผินแล้ว เหมือนจะมีพิษมีภัยน้อยที่สุดในกลุ่ม ไหนจะท่าทีที่แสนละมุน ยิ้มโลกละลาย และความพูดน้อยมาดนิ่งของเขา ที่ทำเอาสาว ๆ ใจละลายนั้น ใครจะไปคิดว่า
‘เห็นพี่นิ่ง ๆ พี่ฟันแล้วทิ้งทุกคนนะครับ’
“กูแค่ดู ไม่ได้ดูดแบบมึง”
มังกรยกหน้าขึ้นมาจากเนินขาว ก่อนจะสวนกลับไปอย่างรำคาญ
“เหรอครับคุณเพื่อน มึงนี่นะไม่เข็ด เมื่อวานก็บอกแค่ดูไม่เอา เช้ามาข่าวกระฉ่อน เขาเอาไปพูดทั่วทั้งม.”
ลีโอ สวนกลับทันที หลังทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม
“ปากมึงเนี่ย น่าเอาอะไรยัดปากเนาะ ตีนกูมั้ย ว่างอยู่พอดี!”
เมื่อถูกจี้ใจดำ ก็ทำให้มังกรรู้สึกเซ็ง เพราะเรื่องเมื่อวานทำเขาหงุดหงิดไม่น้อย เมื่อรุ่นน้องในคณะคนหนึ่ง ที่เกือบจะได้เคลมกัน ทว่าหล่อนกลับเอาไปป่าวประกาศว่ามีอะไรเกินเลยกับเขาแล้ว นั่นทำให้วันนี้เขาตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนทั่วทั้งมหาวิทยาลัย
“เจอหน้ากันก็กัดกันอย่างกับหมา ไม่เบื่อกันบ้างหรือไง”
เสียงนุ่มแต่รู้สึกได้ถึงความเย็นชา ดังขึ้นก่อนที่ลีโอจะได้สวนมังกรกลับไป และนั่นทำให้ทุกคนในโต๊ะหันมามองที่เขา ไทเกอร์ หรือพี่เสือของสาว ๆ
‘เสือตัวนี้เขาถนัดกินเงียบ’
“ใครว่ากัดกัน แบบนี้เขาเรียกว่าควายขวิดกันมากกว่า”
ทั้งสามถอนหายใจทิ้งทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องหันกลับไปมองก็รู้ได้ว่านั่นคือ ลีออน แฝดผู้น้องของลีโอนั่นเอง ซึ่งถ้าไม่ได้สนิทกันคนนอกมักจะจำสับสนเสมอ ด้วยความที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว และนิยามของคู่นี้ก็คือ...แฝดนรก!
‘เจอยมบาล ยังสบายใจกว่าที่ได้เจอพวกมัน’
“พวกมึง ไม่มีที่ให้ไปแล้วหรือยังไงวะ มีสักวันมั้ยที่พวกมึงจะไม่มารวมตัวกันที่นี่”
มังกรดันตัวหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักของตนออก ก่อนจะหันมาสนใจเพื่อนสนิททั้งสาม ในมือของเขายังคงถือแก้วทรงเหลี่ยมที่ตอนนี้น้ำสีอำพันมันลดลงไปเกินครึ่ง
“ก็นี่มันคลับของกู มึงไม่ให้กูมาที่นี่ แล้วมึงจะให้กูไปไหน หรือจะให้พวกกูไปตั้งวงแดกเหล้ากันที่สนามแข่งรถของมึง ฮึ”
เสือพูดขึ้นก่อนจะกระดกเหล้าในมือลงคอไป
“เชี่ย โคตรแจ่ม”
ลีโออุทานขึ้นเสียงดัง ขณะที่มือไถสมาร์ตโฟนอยู่
“อะไรของมึง นึกจะพูดก็โพล่งขึ้นมา”
มังกรขมวดคิ้วแน่น
“ก็นี่ไง น้องแว่นคนสวย”
เมื่อเห็นใบหน้าหงิกงอของเพื่อน ลีโอจึงยื่นโทรศัพท์มือถือให้มังกร
ชายหนุ่มรับเอามาอย่างรำคาญ
ใบหน้าหวาน ผิวขาวเนียนละเอียด เรือนผมสีน้ำตาลที่ยาวเลยบ่าลงมา หุ่นอรชรอ้อนแอ้นในชุดนักศึกษา และถึงแม้จะมีกรอบแว่นอยู่บนดวงตาสุกสกาว ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของเธอลดน้อยลงเลย ทว่าทุกคนต้องขมวดคิ้วแน่นขณะเพ่งจอสี่เหลี่ยมนั่น
ด้วยว่าหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้ ไหนเลยพวกเขาจึงไม่คุ้นหน้าคุ้นตามาก่อน
“ไปเอามาจากไหน”
มังกรถามขึ้นขณะที่มือยังกำมือถือของลีโอแน่น และท่าทีของเขา ก็ทำให้เพื่อนอย่างลีโอรีบเอียงหน้าไปสบตายักคิ้วกับลีออน ทั้งคู่ยกยิ้มมุมปากอย่างมีแผนในใจก่อนที่ลีโอจะโพล่งออกมา
“น้องแว่นเนี่ย เป็นน้องเฟรชชี่ปีหนึ่ง คณะเศรษฐศาสตร์ พวกกูขอท้าพนันมึง ถ้ามึงจีบน้องเขาติด พวกกูให้มึงแดกเหล้าที่นี่ฟรีเดือนหนึ่งเลย”
“เฮ้ย! พวกมึงพนันกันแล้วเกี่ยวอะไรกับกู”
เสือรีบพูดขึ้นทันที เมื่อการพนันของเพื่อน ๆ แต่คล้ายกับว่าเขาจะดูขาดทุนหนักกว่าใคร
“เออ มึงก็ช่วย ๆ หน่อยนะ เพื่อนกันทั้งนั้น”
“แล้วถ้ากูจีบไม่ติดล่ะวะ”
มังกรถามขึ้นอย่างระแวงเมื่อเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของสองแฝด
“เป็นเบ้ให้พวกกูเดือนนึง ถ้ามึงแพ้”
“.........”
มังกรนิ่งไปกับสิ่งเดิมพันของลีโอ เขาชำเลืองสายตามองสามหนุ่มตรงหน้าสลับไปมาอย่างไม่ไว้วางใจ
“กู รับ คำ ท้า! พวกมึง มึง มึง เตรียมแพ้ได้เลย”
มังกรผู้ไม่เคยยอมแพ้กับอะไรทั้งสิ้น เมื่อถูกท้าทายเช่นนั้น เขาจึงรับท้าดวลออกไป โดยที่ไม่ได้คิดอะไรมากนัก
“แล้วกูจะรอดู”
เสือที่ในทีแรกไม่อยากจะร่วมวงด้วย เมื่อเห็นท่าทีอวดดีของเพื่อนรัก ก็รู้สึกหมั่นไส้จนอยากเอาชนะด้วย
“ลีออน เป็นเชี่ยไร นั่งเงียบเชียว”
มังกรมองลีออนอย่างไม่ชอบใจนัก เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มจดจ้องอะไรอยู่
“กูขอนะ”
มังกรได้แต่อ้าปากค้าง ไม่ทันได้ปฏิเสธ ลีออนก็ลุกพรวดมาดึงสาวข้างกายของเขาที่หมายมั่นว่าจะไปสานสัมพันธ์ต่อหลังจากดื่มเสร็จ ไปต่อหน้าต่อตา
“ไอ้เชี่ยลีออน อะไรของมึงวะเนี่ย”
................
วันต่อมา...
ในบ่ายของวันนั้น มังกรกับเสือก็ไปโผล่ที่หน้าตึกของคณะเศรษฐศาสตร์ ด้วยมังกรถูกไทเกอร์ลากมาเป็นเพื่อนหาสาวที่คณะนี้
ขณะที่กำลังยืนรอเพื่อนจีบสาวอยู่นั้น ดวงตาคู่คมของมังกรก็หยุดมองที่กลุ่มนักศึกษาปีหนึ่ง สาวแว่นหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่นั่งเด่นกว่าใคร ทำให้ชายหนุ่มไม่สามารถละสายตาจากเธอได้เลย
“ไงมึง จ้องตาไม่กะพริบเลย”
เสือเอ่ยแซวขึ้น ขณะเดินออกมาจากตึกพร้อมกับดาวคณะเศรษฐศาสตร์คนใหม่
“อะไรของมึง”
“ก็น้องแว่นไง”
“น้องแว่น แว่นไหน?”
สมองของมังกร กลายเป็นสมองของปลาทองชั่วขณะ
“ก็น้องคนที่มึงรับคำท้าลีโอไว้ไง”
“อ๋อยัยแว่น”
เมื่อเข้าใจทุกอย่าง มังกรก็หันกลับไปมองยังกลุ่มน้องนักศึกษากลุ่มเดิมอีกครั้ง
ใบหน้าสวยหวานเด่นทะลุกรอบแว่น ทำให้มังกรอดจินตนาการไม่ได้ ว่าถ้าหากเขาได้ถอดแว่นนั่น มันจะดีแค่ไหนกันเชียว
“ไปได้ยังครับคุณมังกร มองอยู่นั่นแหละ”
“แค่มองก็ผิด”
มังกรถอนหายใจอย่างรำคาญคนรู้ทัน เขาหันไปมองใบหน้าหวานซึ้งอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาเดินตามหลังเสือกลับไปขึ้นรถ
มัลลิกาหรือ...มะลิ
เจ้ามะลิดอกหอม ที่มังกรรับคำท้าจะเด็ดดม
หญิงสาวเจ้าของใบหน้าหวาน ความสวยของเธอโดดเด่นจนสะดุดตาใครต่อใครหลายคน แม้ว่าจะพยายามทำตัวไม่โดดเด่น ไม่แต่งหน้า ใส่แว่นหนาอำพรางตัวตนเอาไว้ แต่ผิวพรรณที่ขาวละเอียดดุจไข่มุก ไหนจะส่วนสูงที่มากถึง 172 เซนติเมตร ทรวดทรงองเอวที่ทำให้เธอเป็นดาวคณะได้สบาย อย่างไรเสียมะลิก็เป็นที่สังเกตเห็นได้ง่ายอยู่ดี
มะลิได้เข้ามาเรียนที่นี่ ที่ที่ค่าเทอมแพงหูฉีก เพราะการสอบชิงทุน ฉะนั้นเธอจึงตั้งใจไว้ว่า จะเรียนให้จบในระยะเวลาที่กำหนดให้ได้ หญิงสาวเข้ามาเรียนที่นี่พร้อมเพื่อนสนิทสมัยมัธยม และถึงแม้ว่านิสัยจะแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ทว่าทั้งสามก็เป็นเพื่อนรักที่พร้อมจะช่วยเหลือกันเสมอ
“เดี๋ยวนี้ดังใหญ่แล้วนะมะลิ”
เสียงแหลม ๆ จนแสบแก้วหูของ ใบเตย ดังขึ้นขณะไถโทรศัพท์ดูเพจของมหาวิทยาลัย ที่ในจำนวนหลาย ๆ รูป ทำให้มะลิถูกพูดถึงว่าหญิงสาวสวยกว่าดาวของมหาลัยปีนี้เสียอีก
“ดังอะไรล่ะ ถ้าป๊ารู้ ต้องโดนด่าหูชาแน่เลย”
หน้าสวยงองุ้มเล็กน้อย เบะปากคว่ำเมื่อนึกถึงหน้าผู้เป็นพ่อ พ่อผู้ไม่เคยอยากให้เธอเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งนี้เลย
“แกไม่ได้ทำอะไรผิด ป๊าแกจะด่าได้ยังไง แกไม่ได้เป็นดาวนะเว้ย”
“เออ..ก็จริง”
“คุยกับไอ้เตย มีแต่เรื่องหนักใจ อย่าไปฟังมันมากนักมะลิ”
เสียงขัดคอของ จอมทัพ ที่ดังขึ้นนั่นทำให้ใบเตยหันกลับไปมองชายหนุ่มตาขวาง
“พอเลย ทะเลาะกันทั้งวันเลย เราไปโรงอาหารกันดีกว่า ฉันหิวแล้ว”
มะลิที่รู้อนาคตดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น รีบร้องห้าม ก่อนจะคว้าแขนของเพื่อนรักทั้งสอง โดยที่ตนเองยืนคั่นกลางไว้แล้วลากเดินกันไปทางโรงอาหาร โดยมีเสียงแขวะกันของคนทั้งคู่ดังสลับเงียบไปตลอดทาง
“เฮ้อออ”