ทางออก

1289 Words
เมื่อเกลี้ยกล่อมหลานไม่สำเร็จ ชายสูงวัยก็ตัดสินใจโทรไปปรึกษากับเพื่อนสนิทหรือเจ้าสัวที่เป็นพ่อของลูกสะใภ้ชาวจีนเพื่อหารือกันในเรื่องที่สำคัญนี้ ‘ฮัลโหล’ ปลายสายตอบกลับมา “นอนหรือยัง ต้องขอโทษด้วยที่โทรมากวนเอาเวลานี้” ‘ไม่เป็นไรคุยได้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า’ ฟาอิดถอนหายใจ… ‘ถอนหายใจแบบนี้ เป็นเรื่องไคหรืออาเหม่ยล่ะ’ อาเหม่ยลี่ หรือจางเหม่ยลี่เป็นลูกสะใภ้ของเขา ซึ่งเธอเป็นลูกสะใภ้ที่ดี ไม่ค่อยทำเรื่องให้เขาต้องปวดหัว “หลานชายตัวดีของคุณน่ะสิ” ‘อั๊วก็ว่าต้องเป็นอย่างนั้น’ ปลายสายทำเสียงไม่จริงจัง ‘คงจะได้เลือดอาหรับเยอะล่ะมั้ง เลือดจีนไม่มีหรอกนะ ที่มาสร้างเรื่องปวดหัวให้บรรพบุรุษ’ ปู่ฟาอิดกลอกตามองโคมไฟระย้า…. ‘ถ้าให้ผมเดา คงจะทะเลาะกับฮาซิฟเรื่องแต่งงานอีกล่ะสิท่า’ “อืม อาเหม่ยคงเล่าให้ฟังแล้วสิ” ‘ใครมาเล่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่อยากจะบอกว่าเรื่องมีลูกน่ะไม่ใช่เรื่องยากหรอกนะ ทุกวันนี้ทางการแพทย์เขาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ถ้าเจ้าไคไม่อยากมีเมีย ก็ให้เขาผสมเทียมเอาสิท่านเชค’ “ไม่ได้ มันผิดหลักศาสนาเราทำแบบนั้นไม่ได้” ปู่ฟาอิดปฏิเสธเสียงแข็ง เขาเป็นคนที่ยึดมั่นกับสิ่งที่บรรพบุรุษสืบทอดต่อกันมาอย่างเคร่งครัดจนได้เป็นถึงเชค ‘แล้วอุ้มบุญทำได้หรือเปล่าล่ะท่าน’ เจ้าสัวจางหมินเริ่มกังวลตามเพราะแต่ละศาสนาจะมีความละเอียดอ่อนต่างกัน “อุ้มบุญก็ไม่ได้” ‘นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้งั้นท่านก็ต้องเกลี้ยกล่อมไคให้เขายอมแล้วล่ะ’ เจ้าสัวจางหมินถึงกับจนปัญญา ปู่ฟาอิดวางสายจากเจ้าสัวหลังจากที่ไม่ได้คำตอบที่พึงพอใจเอาเสียเลย ปู่ฟาอิดนั่งคิดหาวิธีอยู่ภายในห้องนอนเงียบ ๆ ที่จะทำยังไงให้หลานชายตัวดียอมแต่งงาน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่หนูดาน่าแต่จะเป็นใครก็ได้ที่หลานชายเป็นคนเลือกถ้านั่นจะทำให้เขาได้มีหลานไว้สืบสกุลต่อไป คามิลเป็นคนที่มีความเชื่อ ตามประสบการณ์ที่ผ่านมาตอนที่เขาเรียนอยู่ต่างประเทศ มีแต่ผู้หญิงที่พยายามเข้ามาหาเพราะต้องการความสุขสบายและเงินที่เขามีไว้เปย์ทั้งนั้น นั่นก็มีเหตุผลมาจากเพราะตระกูลของเขาเป็นตระกูลที่โคตรจะร่ำรวยทั้งจากฝ่ายพ่อและฝ่ายแม่ และด้วยปู่ของเขามีทรัพย์สินมากนี่เอง พ่อของเขาจึงมักนำมันมาเป็นข้ออ้างในการเหน็บแนมมาโดยตลอดว่า ที่เขามีทุกวันนี้ได้เพราะบารมีครอบครัว มีบารมีของปู่กับพ่อคุ้มหัว ฟังแล้วเขาก็อยากสวนกลับไปเหมือนกันว่าพ่อเองก็ได้ดีเพราะปู่เหมือนกัน ทว่าเขาก็ไม่เคยพูดคำนั้นออกไป อย่างไรนั่นก็พ่อ มันคงจะเหมือนกับที่ปู่เคยบอกว่าโลกนี้ไม่มีความเท่าเทียม แม้แต่ในบ้านก็ยังมีลำดับชั้น ดังนั้นทุกคำเหน็บแนมเขาจึงทำได้แค่เก็บเอาไว้ในใจ ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ “วันนี้ถ้าหลานว่าง ปู่อยากให้หลานเข้าไปบริษัทหน่อยจะได้หรือเปล่า” ปู่ฟาอิดพูดขึ้นกลางโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับคนได้ไม่ต่ำกว่าสามสิบที่นั่ง แต่ตอนนี้มีเพียงสองปู่หลานที่นั่งทานข้าวด้วยกัน “วันนี้ผมคงเข้าไปไม่ได้ครับ เผอิญว่าผมนัดเพื่อนเอาไว้” “เข้าไปที่บริษัทดูจะมีประโยชน์กว่าที่แกออกไปหาเพื่อนเป็นไหน ๆ” เสียงทุ้มดังลอยมาแทรกระหว่างปู่กับหลานที่กำลังสนทนากันอยู่ “ผมนัดเพื่อนคุยธุระ ไม่ได้ทำอะไรไร้สาระอย่างที่พ่อคิด” คามิลวางช้อนในมือลงกระทบจานข้าวราคาแพงเสียงดัง “ฮาซิฟพอได้แล้ว” คนเป็นปู่เอ่ยห้ามปรามระหว่างสองพ่อลูกที่มักจะมีปากเสียงไม่ลงรอยกันอยู่เป็นประจำ “ผมแค่จะแวะมาบอกคุณพ่อว่าเย็นนี้มีงานเลี้ยงวันเกิดของท่านเชคฮาหมัด อิบบราฮิม” ฮาซิฟหันไปคุยกับปู่ฟาอิดโดยที่ไม่สนใจลูกชายคนเดียวที่นั่งหน้าตึงใส่เขา “แกออกไปทำงานฝากบอกเซฟให้เตรียมรถรอ ทานข้าวเสร็จฉันจะออกไปเลือกของขวัญให้ท่านเชคฮาหมัดหน่อย” “ครับพ่อ” ฮาซิฟคุยธุระกับปู่ฟาอิดเรียบร้อยก็เดินออกไปทันที “ไค...หลานเองก็พูดดี ๆ กับพ่อบ้าง หลานก็รู้ว่าพ่อรักและห่วงเรามากแค่ไหน” ปู่ฟาอิดเอ่ยตักเตือนหลานชายคนเดียว “ปู่แน่ใจเหรอครับว่าพ่อคิดแบบนั้นจริง ๆ หรือแค่กลัวจะเสียหน้าที่ไม่มีลูกชายไปช่วยทำงานเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ แถมยังไม่ยอมมีหลานให้พ่อเอาไว้อวดใคร ๆ ” คามิลพูดจบก็ลุกออกจากโต๊ะอาหารเดินขึ้นห้องไป ปล่อยให้ปู่ฟาอิดนั่งถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับทิฐิของทั้งสองคนที่ไม่มีใครยอมใคร ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ไค...แม่ขอเข้าไปได้ไหมครับ” “แม่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ” คามิลเปิดประตูให้ผู้เป็นแม่เข้ามาในห้อง “แม่อยากรู้ว่า ลูกมีเหตุผลอะไรทำไมถึงไม่อยากแต่งงานกับหนูดาน่า” “นี่พ่อใช้ให้แม่มาช่วยพูดอีกคนเหรอครับ” คามิลพูดอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินหนีไปที่ระเบียงห้อง “พ่อไม่ได้ใช้ให้แม่มาพูดหรอกนะ แม่แค่อยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้ลูกแม่หวงความโสดจนถึงตอนนี้” มือบางที่อบอุ่นของผู้เป็นแม่แตะลงที่ด้านหลังของลูกชายอย่างแผ่วเบา “ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็หวังแค่อยากจะสุขสบายบนกองเงินกองทองของเราทั้งนั้น” “ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะไคที่คิดแบบนั้น แต่ถ้าลูกไม่พร้อมแม่ก็ไม่บังคับ” จางเหม่ยลี่ลูบลงที่แผ่นหลังหนาของลูกชาย “เรื่องนี้คุณตารู้ไหมครับ” คามิลหันหลังกลับมาประชันหน้ากับผู้เป็นแม่ด้วยสรีระที่แตกต่างชัดเจน รูปร่างของคามิลมีความสูงตามมาตรฐานผู้ชายตะวันออกกลางประมาณ 189 เซนติเมตร ส่วนจางเหม่ยลี่มาตรฐานหญิงเอเชียที่สูงเพียง 161 เซนติเมตรเท่านั้น เวลาสองแม่ลูกคุยกัน หากคามิลไม่นั่งบนเก้าอี้ก็ต้องก้มตัวลงมาเยอะมาก “รู้จ้ะ เมื่ออาทิตย์ก่อนคุณปู่โทรไปหาคุณตาให้ช่วยหาวิธี แต่ว่าแต่ละวิธีที่คุณตาแนะนำลูกไม่สามารถทำได้เนี่ยสิ” “วิธีอะไรเหรอครับ ทำไมผมถึงจะทำไม่ได้” “คุณตาท่านแนะนำให้ผสมเทียม หรือไม่ก็จ้างผู้หญิงมาอุ้มบุญให้ แต่คุณปู่ท่านปฏิเสธ แม่กับคุณตาก็ไม่รู้จะช่วยยังไง” จางเหม่ยลี่พูดไปถอนหายใจไป แต่คนฟังอย่างคามิลกลับรู้สึกตื่นเต้นในสิ่งที่ผู้เป็นแม่พูด “ผมว่า ผมมีทางออกของเรื่องนี้แล้ว แม่ให้คุณตาช่วยหาแม่อุ้มบุญให้ผมหน่อยนะครับ” เมื่อแม่เหม่ยลี่ได้ยินคำพูดของลูกชายถึงกับตกใจ “ไม่ได้นะไค ถ้าคุณปู่รู้ต้องโกรธมากแน่ ๆ ” “คุณตาไม่พูด แม่ไม่พูดก็ไม่มีใครรู้ จริงไหมครับ” ไคยกยิ้มทำตาเจ้าเล่ห์ใส่คนเป็นแม่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD