กดดัน

1275 Words
สามเดือนหลังจากงานครบรอบสองปี บริษัท KM Group จำกัด คามิลก็ได้เปิดตัวสาขาในเครือ ที่เป็นสาขาต่างประเทศขึ้นสาขาแรก โดยเขาเลือกที่จะตั้งสาขาตัวแทนต่างประเทศ สาขาแรกอยู่เมือง Bangkok ในประเทศไทย หรือที่ชาวพื้นเมืองของไทยเรียกตัวเองว่าเมืองกรุงเทพมหานคร และแน่นอนว่ากฤษณ์เพื่อนสมัยเรียนที่อังกฤษเป็นคนเสนอความคิดนี้ เขามีความรู้เรื่องกรุงเทพมหานครแห่งนี้มากมาย ทั้งเรื่องของเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งรอยยิ้ม เมืองที่ไม่มีวันหลับ หรือเมืองที่สามารถหาของกินได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และไม่ได้มีแค่อาหารพื้นเมืองเท่านั้น คามิลต้องแปลกใจเมื่อพบว่าข้าง ๆ บริษัทของเขามีร้านอาหารสไตล์อาหรับเปิดอยู่ด้วย เรื่องที่น่าสนใจอีกอย่างที่เขาไม่สามารถละเลยได้ก็คือ เมื่อปี2023 ที่ผ่านมา เมืองกรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก แซงหน้ากระทั่งเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างปารีส นอกจากนี้ประเทศไทยยังให้สิทธิประโยชน์ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุน มีวัตถุดิบที่เพียงพอ และมีอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมายพร้อมสนับสนุน ทำให้นักลงทุนอย่างเขามั่นใจในศักยภาพของประเทศไทย จึงมาลงทุนเปิดบริษัท เมื่อคามิลเดินทางมาถึงกรุงเทพมหานคร กฤษณ์พาคามิลไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น พัทยา กาญจนบุรี หัวหินและข้าวสารในช่วงที่เขายังพอมีเวลาว่าง ซึ่งแต่ละที่เขาคิดที่จะกลับไปเที่ยวอีกเมื่อมีเวลาและโอกาสที่เหมาะสม เขาชอบเที่ยวแบบธรรมชาติทะเล น้ำตก ภูเขามีลมพัดเย็นสบาย แต่ตอนที่อยู่กรุงเทพมหานครเขาชอบนั่งรถตุ๊กตุ๊กไปที่ถนนข้าวสาร รถตุ๊กตุ๊กเป็นอะไรที่ตื่นเต้นสำหรับเขามากยิ่งจังหวะที่คนขับยกล้อเขายิ่งชอบมากแจกทิปไปเยอะเหมือนกัน นอกจากการเที่ยวที่กฤษณ์พานำเสนอ ยังคอยพูดจาหว่านล้อมให้คามิลแต่งงานกับดาน่า เรื่องคลุมถุงชนนี้เขาเล่าให้ทั้งกฤษณ์และบิลลี่ฟังตั้งแต่แรก ๆ เพื่อนรักทั้งสองเลยช่วยออกความเห็นให้คามิลมาเปิดบริษัทหุ้นกับพวกเขา อย่างแรกคือพิสูจน์ความสามารถให้พ่อฮาซิฟได้เห็น ต่อมาคือต้องการเลี่ยงแต่งงานระหว่างคามิลและดาน่า ตอนที่คามิลกลับไปเยี่ยมบ้านที่ดูไบ เขาคิดว่าฐานะผู้บริหารของตัวเองคงที่ และพร้อมไปด้วยอำนาจในมือที่คงจะเพียงพอในสายตาของพ่อ แต่ทว่า นอกเหนือคำชื่นชมของปู่และแม่แล้ว สิ่งที่พ่อของเขากล่าวออกมากลับไม่เฉียดเข้าใกล้เรื่องงานเลยแม้แต่น้อย “เหลนสะใภ้บ้านตรงข้ามคลอดลูกอีกแล้ว ดูเหมือนจะเป็นเด็กคนที่แปดของครอบครัว หลังจากที่แม่สามีของนางเพิ่งคลอดลูกสาวไปเมื่อเดือนก่อน บ้านของพวกเขาได้รับพรที่ดีมากแบบนั้นได้ยังไงกันนะ” ประโยคยาวเหยียดนี้ออกจากปากพ่อ พ่อของเขาหยิบยกเรื่องของทายาทขึ้นมาแสร้งปรับทุกข์ในวงน้ำชา “เห็นว่าเป็นลูกหัวปี พ่อแม่มือใหม่พวกนั้นโชคดีมาก ๆ” คนรับลูกต่อเป็นปู่ แม่ของเขาพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย จากนั้นหันมาพูดกับเขาด้วยประโยคที่เจาะจงขึ้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเด็กคนที่แปดของบ้านตรงข้าม “แม่อยากอุ้มทายาทของลูกนะ เมื่อไหร่ลูกจะพร้อม” “นั่นสิ” จางหมินมาธุระเรื่องธุรกิจในดูไบ ก่อนกลับจึงแวะมาเยี่ยมลูกสาว และอยู่รอพบกับเขาก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศจีน “ตาเองก็อยากเห็นเจ้าก้อนตัวน้อย เชื้อสายตระกูลสองสัญชาติของเรานะ นานแค่ไหนแล้วที่เงียบเหงาไร้ชีวิตชีวา” “เราคุยเรื่องนี้กันแล้วไม่ใช่เหรอครับ” เขาตอบกลับไป “ปู่และทุกคนให้หลานได้พิสูจน์ตัวเองนานหลายปีแล้วนะไค ตอนนี้หลานก็สามสิบสามแล้วนะเมื่อไรจะพร้อมเสียที” “ใช่ แกรู้ไหมว่าหนูดาน่าเขารอแกมากี่ปีแล้ว พ่อนะเกรงใจท่านเชคอับดุลลาที่ปล่อยให้เวลามาเนิ่นนานขนาดนี้” พ่อฮาซิฟได้ทีรีบสมทบปู่ฟาอิดทันที “ผมผิดเองครับ” คามิลยอมรับแต่โดยดี ไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ แต่ก็ไม่อยากถูกโขกสับมากจึงขอแก้ต่างให้ตัวเองเล็กน้อย “ช่วงนี้ผมยุ่งมากจริง ๆ เรื่องการขยายสาขา ตอนนี้สาขาแรกในกรุงเทพมหานครอยู่ตัวแล้ว ผมอยู่ในช่วงเจรจาขอเปิดสาขาที่สองในประเทศไทย” “รู้ไหม เมืองหลวงของไทยเรียกย่อ ๆ แค่สองคำว่า ‘กรุงเทพ’ ได้” ตาของเขาบอก ชายชรามีธุรกิจหลายอย่างที่ได้ลงทุนที่ไทย จึงมีความเข้าใจในวัฒนธรรมของที่นั่นดีกว่าเขา และการที่มีเขยคนสุดท้องเป็นชาวไทย ก็ยิ่งทำให้เขาคุ้นเคยกับประเทศไทยเป็นอย่างดี “เหรอครับ ผมก็คิดเหมือนกันว่าชื่อเมืองดั้งเดิมของพวกเขาออกจะยาว” “ที่ว่ายาวนั่นน่ะเป็นชื่อที่ย่อลงมาแล้วนะ” คามิลยกนิ้วขึ้นนับคำ “หกคำ นั่นย่อแล้วเหรอ” จางหลินหัวเราะออกมาเบา ๆ “คนจีนมีภาษาที่ซับซ้อน แต่เมื่อได้รู้ชื่อเต็มของเมืองกรุงเทพ ตายังต้องยอมว่าพวกเขามีความละเอียดในเรื่องของการตั้งชื่อจริง ๆ” “ว่ากันว่าชื่อเมืองหลวงของประเทศไทยเป็นชื่อเมืองที่ยาวที่สุดในโลก ดูอย่างลูกเขยคนไทยของตา ผัวอาเป่าเป่ยน้องแม่ของหลานสิ ชื่อต้นของอีชื่อว่า ปัน – วะ – นิด – ชะ – ยา (ปัญญ์วณิชยา) อันนี้คือแค่ชื่อต้นนะ ยังไม่รวมกับนามสกุล พวกเขาไม่มีชื่อกลางกัน คิดว่าคงจะตั้งชื่อต้นให้ยาวเผื่อกันเลยมั้ง พ่อของอีบอกว่าเป็นชื่อที่ดีมีความหมายเกี่ยวกับความมีปัญญาทางด้านการค้าขาย” คามิลยิ้มมุมปาก รู้สึกว่าประเทศไทยเต็มไปด้วยเรื่องน่าสนใจ จนเขาอดใจไม่ไหวที่จะกลับไปเยือนอีกครั้ง และครั้งนี้เขาจะอยู่ให้นานขึ้น เขาจะเป็นคนนั่งบริหารสาขาใหม่ด้วยตัวเอง จนกว่าจะคงที่เสียก่อน แล้วจึงจะหาทางขยับขยายไปยังประเทศอื่น ๆ “พูดเรื่องไม่เป็นเรื่องไปเยอะแล้ว แล้วตกลงเรื่องมีหลาน จะพร้อมมีตอนไหน” ตาของเขาย้ำ “หลังเปิดสาขาสองในไทย ผมจะไม่บ่ายเบี่ยงอีกแล้ว ผมสัญญาถึงตอนนั้นถ้าผมยังไม่เจอคนที่ถูกใจผมจะยอมแต่งกับคนที่พ่อหามาให้” ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนมองหน้ากัน ตั้งแต่คามิลทำงานมีบริษัทเป็นของตัวเอง ความคิดความอ่านก็เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ไม่ได้ใช้แต่อารมณ์เหมือนสมัยก่อน “หรือทุกคนคิดว่าผมโกหก” คามิลเริ่มรู้สึกกดดันต่อสายตาของผู้ใหญ่ที่มองมาที่เขา “ใครจะคิดแบบนั้นล่ะลูก” แม่เหม่ยลี่ดึงมือลูกชายไปกุม ยิ้มตาโค้งปิด “ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ และประสบความสำเร็จในฐานะอาชีพแล้ว พวกเราทุกคนเชื่อมั่นและไว้ใจลูก ไม่มีใครกังขาลูกเลย” คามิลเหลือบตามองพ่อที่วันนี้เงียบจนเขานึกว่าเป็นพ่อตัวปลอม เมื่อเห็นว่าเขาหันไปมอง พ่อก็ทำเป็นหันหน้าไปมองทางอื่น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD