แก้วเป็นคนขับรถนำทุกคนมายังโรงแรมหรู ที่อยู่ไม่ไกลจากผับมากนัก โรงแรมหรูแห่งนี้มีค่าใช้บริการที่แพงหูฉี่ แต่แก้วมีคอนเนคชั่นที่ดีกับผู้จัดการของโรงแรม เธอจึงอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวหาช่องทางได้ห้องนี้มาฟรี ๆ โดยไม่เสียเงิน แต่เธอต้องเสียอย่างอื่นแทน นั่นคือค้างคืนกับผู้จัดการโรงแรมในวันถัดไป
สาเหตุที่เธอต้องเจาะจงเลือกเป็นโรงแรมแห่งนี้ แทนที่จะใช้เป็นที่อื่น นั่นก็เป็นเพราะว่าที่นี่เป็นโรงแรมหรูที่เก็บความลับของลูกค้าได้เป็นอย่างดีแน่นอนว่าพนักงานที่นี่ถูกสอนให้ปิดปากสนิทห้ามเอาเรื่องลูกค้าในโรงแรมไปพูดต่อเด็ดขาด และแน่นอนว่ามีคนเห็นพวกเธอสองคนหิ้วปีกมีนญาดาเข้าไปข้างในก็จะไม่มีใครตั้งคำถามถึงเรื่องนี้ หรือมองว่าเรื่องนี้ผิดแผกอะไร จนส่งผลกระทบต่อแผนที่เธอได้วางเอาไว้
อีกทั้งเธอจะยังสามารถเข้าออกห้องที่ให้มีนาค้างคืนได้ หากเกิดข้อผิดพลาดใด ๆ ขึ้น เพราะตอนนี้เธอมีคีย์การ์ดอยู่สองใบ เธอยกให้คูเปอร์หนึ่งใบ
“นายขึ้นไปรอข้างบนได้เลย แล้วก็เตรียมทุกอย่างให้พร้อมตามที่ฉันเคยบรีฟ เข้าใจไหม”
“เข้าใจครับ ไม่ต้องห่วง เงินมางานก็เดิน” คูเปอร์กระดิกมือเป็นสัญญาณ
“เออ ๆ รู้แล้วน่า ทวงอยู่นั่น” แก้วแหวใส่ ก่อนจะหันไปมองดุใส่เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างคนขับ “ไอวี่!!”
“อะไร จะให้ฉันเป็นคนออกเงินก่อนอีกแล้วเหรอ”
“แล้วไง หรือแกจะเลิกล้มแผนการ ถ้าเลิกฉันจะได้ขับรถพาอีนี่กลับไปส่งที่คอนโดฯ มันแทน และพรุ่งนี้แกก็ก้มหน้าก้มตาไปทำงานในฐานะลูกน้องของมัน ให้เป็นที่อับอายในสายตาคนอื่น ว่าเข้างานมาพร้อมกัน แต่ไม่มีปัญญาจะก้าวหน้าได้อย่างมัน”
“เออ ๆ เข้าใจแล้วค่าาา” ไอวี่ลากเสียง บางทีก็นึกรำคาญที่ต้องคอยรับคำสั่ง และเสียงบ่นอันยาวเหยียด ทุกครั้งที่อีกคนพยายามเอาเปรียบตัวเอง “ฉันออกให้ก่อนก็ได้ แกต้องคืนทีหลังนะ เพราะตอนนี้ใกล้สิ้นเดือน ฉันก็ช็อตเหมือนกัน”
“เออ เดี๋ยวคืน” แก้วตอบอย่างขอไปที
“ต้องจ่ายโฮสเท่าไหร่นะ”
แก้วบอกจำนวนเงินไป
“เฮ้ยพี่ ราคานี้ไม่ได้แล้วนะ” คูเปอร์โวยวายดังลั่น
“อะไรวะ” แก้วสบถขึ้น
“ราคานี้มันเรทปกติ แต่พวกพี่จะให้ผมเก็บหลักฐานด้วย มันก็ต้องมีค่าดำเนินการกันบ้างสิ”
“เรื่องมากจังวะ จะเอาไม่เอาเงิน ไม่เอาก็ลงรถพวกกูไปเลย ไอ้เห็นแก่เงิน ไอ้ทุเรศ” ไอวี่ก่นด่าด้วยความโมโห
“พูดแบบนี้ก็สวยสิครับ คนทำมาหาแดกนะพี่ บอกคนอื่นเห็นแก่เงิน แล้วที่พวกพี่ทำอยู่นี่เรียกเห็นแก่ส้นตีนอะไร จ้างอุ้มเพื่อนสนิท แล้วยังจะให้ถ่ายรูปแบล็กเมลอีก หน้าต่างมีหูประตูมีช่องนะเว้ย ก็เลือกมาละกันว่าจะจ่ายแล้วจบตรงนี้ หรือไปจบที่โรงพัก”
“โอ๊ยอีไอวี่ มึงจะเกิดงกตายห่าขึ้นมาอะไรกันตอนนี้ ให้ ๆ แม่งไปสักทีเถอะ ใครบอกมึงสาระแนจ้างเบอร์ต้นของร้าน จ้างเกรดถูก ๆ ลงหน่อยแม่งก็สิ้นเรื่องแล้ว อะไรกันหนักหนาวะ หรือมึงจะรอให้อีนี่ตื่นขึ้นมาแล้วลากมึงกับกูไปโรงพัก ตามที่ไอ้เหี้ยนี่มันขู่” แก้วแว้ดเสียงดัง สบทด่าไม่หยุด
“อ้าว เรียกกันไอ้เหี้ย ไอ้ห่า มึงวิเศษวิโสมาจากไหนวะอีแก่” คูเปอร์เริ่มโมโหกับคำด่าทอ
“เอาล่ะ ๆ” ไอวี่ยุติการโต้เถียง หันมามองทางคนเมา เมื่อพบว่ายังหลับคอพับอยู่ก็หันไปเจรจาต่อรองกับโฮสหนุ่มต่อ “ตกลง พวกพี่จะจ่ายให้ ส่วนเรื่องเพื่อนพี่ปากหมา…”
“เอ้าอีนี่” แก้วหันขวับมองตาขวาง
ไอวี่ทำเป็นไม่สนใจแก้ว เธอยังคงพูดคุยกับบาร์โฮสหนุ่มต่อไป “…น้องก็อย่าถือสาเลยนะ คนอารมณ์กำลังร้อน”
ในที่สุด ทั้งสามคนก็ได้ข้อสรุปที่น่าพอใจกันทุกฝ่าย คูเปอร์รับเงินค่าจ้าง และคำสั่งงานเป็นครั้งสุดท้าย แล้วจึงออกไปเตรียมการรอ จากนั้นไอวี่กับแก้วก็ลงจากรถ เพื่อจะช่วยกันแบกมีนาขึ้นห้องพักที่ได้จัดเตรียมเอาไว้
แผนการของพวกเธอก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน มันเป็นเพียงการจ้างคนมานอนกับมีนาแล้วถ่ายคลิปเอาไว้แบล็กเมลทีหลัง เพื่อใช้เป็นหลักฐานต่อรอง เพื่อบีบให้มีนากระเด็นออกจากงาน
เมื่อทั้งสองช่วยกันพยุงคนไม่ได้สติมาถึงส่วนที่เป็นลิฟต์ของโรงแรม แก้วก็ได้ชนเข้ากับลูกค้าคนหนึ่ง ซึ่งเข้ามาใช้บริการ
“อุ๊ย เดินดี ๆ สิ” ไอวี่หันไปตวาด
“แกก็แหกตาดูทางบ้างสิ จะได้ไม่ต้องชนคนเขาไปทั่ว” เสียงแหลม ๆ ของลูกค้าสาวแว้ดตอบกลับมา
ทั้งสองฝ่ายชนกันค่อนข้างแรง ทำให้ของในมือของพวกเธอหล่น ลูกค้าสาวก้มลงเก็บข้าวของของตัวเองก่อน พอลิฟต์เปิดก็เดินหน้าตึงเข้าไปในลิฟต์
“แก คีย์การ์ดหล่น” ไอวี่บอกกับแก้ว
“ก็ก้มลงเก็บสิวะ” แก้วตะคอก ประโยคหลังงึมงำในลำคอ “เรื่องแค่นี้ยังต้องให้คอยบอกตลอด แม่ง!!โง่ฉิบ”
ไอวี่ไม่พอใจมาตั้งแต่เรื่องที่ตัวเองต้องเป็นฝ่ายออกเงินค่าจ้างโฮสก่อน แล้วได้ยินที่แก้วก่นด่าเธอไม่หยุดจึงยังคงโมโห ได้ผลักเอาร่างโงนเงนของมีนาไปทางแก้วสุดแรง เป็นเหตุให้แก้วเสียหลักเซจนรองเท้าส้นสูงพลิก แต่เพราะหัวไหล่ชนเข้ากับกำแพงพอดี เธอจึงสามารถยึดเกาะเอาไว้ได้ ไม่ล้มลงไป แก้วหันไปมองไอวี่ตาเขียวอย่างไม่พอใจ
คนในลิฟต์เห็นว่าผู้หญิงสาวคนเป็นพวกขี้เมาคงไม่เข้ามาง่าย ๆ แล้วดูเหมือนจะไม่พอใจกันเท่าไร คนในลิฟต์จึงรีบกดปิดไม่รอให้พวกเธอเข้ามา
“โอ๊ย เดี๋ยวสิ แม่ง!!! อีนั่นขึ้นลิฟต์ไปก่อนแล้ว” แก้วบ่นอุบ
ไอวี่พยายามหยิบคีย์การ์ดอย่างเชื่องช้า เพื่อจะให้แก้วต้องรับทุกข์กับการต้องพยายามพยุงคนเมา และพยายามประคองขาที่เจ็บของตัวเอง
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง ไอวี่ก็ถูลู่ถูกังคนทั้งสองเข้าไปในลิฟต์ โดยที่แก้วยังสบทด่าไอวี่ไม่หยุด
“เลิกบ่น เลิกด่าสักทีได้ไหม อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว หัดมีความอดทนบ้างสิ หรือไม่ก็กลับบ้านไปเลย แล้วพรุ่งนี้ก็ก้มหน้าก้มตาไปทำงานในฐานะลูกน้องมัน ให้คนทั้งบริษัทเขาหัวเราะเยาะ” ไอวี่ด่ากลับด้วยความโมโหเช่นกัน
แก้วจึงยอมที่จะหุบปากลงในทันที!