ห้ามบอกใคร

1274 Words
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาคามิลเข้าสู่ความเป็นนักธุรกิจเต็มตัว เขาจึงชอบคนที่ทำงานเก่ง และมีความรับผิดชอบสูง ยิ่งอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญ ใกล้ชิดเขามากเท่าไหร่ เขายิ่งคาดหวังว่าจะได้ลูกน้องที่ทำงานเปรียบเสมือนแขนขาตัวเองได้ คามิลพกลูกน้องคนสนิทติดกลับมาจากดูไบสองคน คือลุคและทอม ลุคอายุไล่เลี่ยกับเขา มีอะไรคามิลจึงมักจะคุยกับลุคมากกว่า ส่วนทอมเคยเป็นลูกน้องเก่าของพ่อ ผ่านงานมามากมาย ถูกส่งมาให้ช่วยดูแลความเรียบร้อยและแน่นอนว่าทอมทำงานได้อย่างละเอียดและรวดเร็ว แม่เหม่ยลี่จึงสั่งให้ทอมมาช่วยคามิลที่ประเทศไทยพร้อมกันกับลุค ด้วยคำแนะนำของกฤษณ์ ทำให้คามิลสนุกกับงานที่ทำอยู่ตอนนี้จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อนแถมยังชวนทำธุรกิจอีกหลายอย่าง จบจากตรงนี้ก็ต้องพุ่งเข้าใส่ตรงนั้นไม่หยุด ดังนั้นการมีผู้ช่วยที่ดีจะทำให้เขามีเวลาเพิ่มมากขึ้น เขาเปิดรับสมัครเลขาฯ เป็นคนรุ่นใหม่ แม้จะมีความเสี่ยงเรื่องประสบการณ์ทำงานที่น้อย แต่ข้อดีที่จะได้รับกลับมาก็มาก คนรุ่นใหม่มีไฟที่แรงในการทำงาน สามารถปรับตัวได้ง่าย น้ำไม่เต็มแก้ว สามารถเรียนรู้งาน และรับคำสั่งงานได้ โดยไม่มีอีโก้มาเป็นตัวถ่วงซึ่งจากการทำงานของเลขาฯ คนใหม่ของเขามันได้พิสูจน์แล้วว่าเขาคิดไม่ผิด แต่ก็อย่างที่บอก ว่าคนรุ่นใหม่ก็มีข้อเสียอยู่บ้างเหมือนกัน กับแพตตี้ข้อเสียที่น่ารังเกียจของเธอที่เขาสังเกตเห็นได้ก็คือ เมื่ออยู่กันเพียงลำพัง เธอจะพยายามทอดสายตาเชิญชวนมาให้เขาทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งมันเป็นสิ่งสุดท้ายในโลกที่เขาจะต้องการมันจากเธอ ไม่ใช่ว่าแพตตี้ไม่สวยแต่เป็นเพราะเขาไม่ชอบผู้หญิงที่แสดงออกว่าอยากจะจับเขากินตลอดเวลาแบบนี้ บางครั้งเขาเองก็เคยคิดที่จะปลดเธอออกหลายครั้ง แต่ก็ติดตรงการทำงานของเธอไร้ที่ติ มันจึงทำให้เขาตัดสินใจที่จะยังเก็บเธอเอาไว้ก่อน และทำเป็นมองข้ามข้อเสียนั้นไป แพตตี้รู้สึกเหนื่อยทุกครั้ง หลังจากการพยายามยั่วยวนคามิล แต่กลับไม่เคยได้ผล ทว่าพอได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขา เธอก็กลับมามีกำลังใจอีกครั้ง เธอยังไม่ยอมละความพยายามที่จะได้เป็นมาดาม คิดว่าสักวันต้องมีวันที่คามิลหันมาสนใจเธอ วันหนึ่งคามิลได้ตัดสินใจพูดเรื่องสำคัญที่เขาต้องทำ เพราะเมื่อคืนปู่ฟาอิดโทรมาถามเรื่องหาคู่ครองเพื่อผลิตทายาท คามิลรู้ว่าเขาไม่สามารถที่จะหลบเลี่ยงเรื่องนี้ได้อีกต่อไป จึงตัดสินใจเอาเรื่องนี้มาพูดกับเลขาแพตตี้ แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ทอมกับลุคห้ามรู้เป็นอันขาด ทันทีที่แพตตี้ได้ฟังแบบนั้น เธอก็ยิ้มด้วยความดีใจ เพราะคิดว่าคามิลยอมบอกเรื่องส่วนตัวขนาดนี้ออกมา หมายความว่าเขากำลังคิดเรื่องแต่งงาน ซึ่งเขาเลือกมาบอกกับเธอแบบนี้ มันจะหมายความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ เขากำลังขอเธอแต่งงาน... เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ภายในนั้นแน่นอนว่าต้องเป็นแหวนเพชรเม็ดใหญ่ เธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่าขอแค่เขายอมคุกเข่าขอเธอแต่งงาน เธอจะไม่รอให้เขาพูดจนจบก็จะตอบตกลงทันที แพตตี้เข้าสู่โหมดมโน วาดฝันภาพว่าคามิลกำลังจะบอกรัก และขอจุมพิตเธอ แต่แล้วฝันของเธอก็ต้องสลาย หน้าแตกยับเมื่อฝ่ายชายดึงสติด้วยถ้อยคำที่รุนแรง “ทำท่าประหลาดอะไรของเธอ ฉันหมายถึงผู้หญิงคนอื่นที่ต้องมาอุ้มบุญลูกของฉัน ไม่ใช่เธอ ฉันไม่มีทางเอาเธอทำแม่พันธุ์หรอกนะแพตตี้” แพตตี้หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและอาย คำพูดของเขาทำให้เธอสูญเสียความมั่นใจไปมาก แต่สำหรับเธอ ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังสูงค่าพอให้เธอมองข้ามเรื่องที่ทำให้ท้อใจ เป้าหมายของเธอคือการได้เขามาเป็นสามี ตอนนี้เธอฝ่าฟันจนได้รับโอกาสเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่ใกล้ชิดเขามากที่สุด ดังนั้นต่อให้จะยากแค่ไหน เธอก็จะสู้ตาย “ไปจัดการหาคนมาให้ได้ ฉันต้องการคนที่ไม่มีข้อบกพร่องทั้งทางด้านรูปร่างหน้าตา สุขภาพ และสติปัญญา ถ้าได้ลูกครึ่งจะดีมาก” พูดดับฝันแพตตี้เสร็จ เขาก็สั่งต่อ “ต่อให้ฉันต้องทุ่มเงินมากแค่ไหน ฉันก็เต็มใจที่จะจ่าย” แพตตี้นิ่งเงียบไม่ได้รีบตอบรับคำสั่ง เพราะเธอทำใจยอมรับไม่ได้เรื่องที่เขาจะมีลูกกับคนอื่น เธออุตส่าห์ทุ่มเทมากขนาดนี้แต่เขาจะไปมีลูกกับคนอื่นได้ยังไง “ท่าทางของเธอทำให้ฉันไม่สบายใจ ฉันรู้ว่าในประเทศไทย การอุ้มบุญผิดกฎหมาย แต่เธอคงไม่ได้คิดว่าฉันจะทำมันที่นี่หรอกใช่ไหม หรือว่าเธอไม่รู้จักแม้กระทั่งคำว่าอุ้มบุญ” คามิลจ้องมองเลขาฯ แพตตี้อย่างสงสัยในท่าที “ดิฉันทราบแล้วค่ะ ว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง” เธอตอบแบบไม่สบตา แน่นอนว่ายังไม่รู้เรื่องของการอุ้มบุญดีนัก เธอไม่รู้ทั้งทางเรื่องของกฎหมาย ไม่รู้แม้ทางปฏิบัติ “รู้ก็ดี เพราะถ้าฉันต้องคอยอธิบายทุกอย่างแม้แต่เรื่องง่าย ๆ ให้กับเลขาฟัง ฉันก็ไม่รู้จะมีเลขาฯ ที่ควรจะมาช่วยแบ่งเบาภาระ ให้กลายมาเป็นภาระทำไม” คามิลสาดคำพูดใส่เลขาไม่หยุด ด้วยความที่มีคนตามใจมาแต่เด็ก เวลาพูดจึงไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของคนฟัง ในจุดนี้เขารู้ดีว่าตัวเองปากไม่ดี แต่ก็รู้ว่าควรพูดยังไงกับใคร “ดิฉันจะไม่ทำตัวเป็นภาระแน่นอนค่ะ” แพตตี้หน้าชาหลังจากได้ฟังคำพูดของคนที่เธออยากได้มาเป็นสามี ตอนนี้เธอทำได้เพียงทำตามคำสั่งก่อนที่จะหันหลังเดินออกจากห้องไป แต่ก็ถูกคามิลเรียกไว้ “ฉันหวังว่าเธอจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร รวมทั้งสองคนนั้น” นัยน์ตาคมดุจ้องมองเธอ เพื่อบอกให้รู้ว่าเขาพูดจริง “ค่ะ แพตตี้จะไม่บอกใคร” แพตตี้รับคำเสียงสั่นด้วยความตกใจ เธอไม่เคยเห็นสายตาที่น่ากลัวเท่านี้มาก่อน “ดี ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยฉันมีรางวัลให้เธออย่างงาม” คามิลยกมือสะบัดสองทีเพื่อให้เธอออกไปจากห้อง แพตตี้จึงก้มศีรษะเล็กน้อยแล้วหันหลังออกไป แพตตี้นั่งลงที่โต๊ะทำงานประจำ เธอนั่งทบทวนถึงสิ่งที่คุยกับคามิล ถึงปากจะรับคำออกไปแล้ว แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายจริงจังเรื่องมีลูก ถึงขั้นไม่จำกัดงบประมาณและยังให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เธอก็เริ่มมีประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้ง คุณต้องเป็นของฉันคามิล ฉันจะไม่ยอมยกตำแหน่งมาดามนี้ให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD