มีนญาดา เลิศไพศาล หรือมีนา เรียนจบด้านการตลาดและบริหาร เมื่อได้เข้าทำงานในบริษัทมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศไทย เธอก็มีความตั้งใจในการทำงานจนมีผลงานที่โดดเด่น เป็นที่ไว้วางใจจากหัวหน้างานว่าจะสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ หลายครั้งที่มีงานสำคัญหัวหน้างานจึงมักเรียกใช้มีนญาดาเป็นคนแรกจากในรุ่นที่เข้าทำงานมาพร้อมกัน
นอกจากนี้ นิสัยส่วนตัวของมีนายังเป็นคนพูดจาดี รู้จักกาลเทศะ รู้ว่าเวลาไหนควรปฏิบัติตนอย่างไร เวลาทำงานกับผู้ใหญ่เธอจะทำตัวเป็นผู้น้อยเรียบร้อยแต่ก็สนองงานที่ได้รับมอบได้ กลับกันเมื่ออยู่กับเพื่อนรุ่นเดียวกันจะเปลี่ยนเป็นคนคุยสนุก และมีความเป็นผู้นำในบางสถานการณ์
ทุกอย่างนี้ทำให้มีนามีความโดดเด่นขึ้นมา จนเป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน และเพราะมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เมื่อมีช่องทาง และมีความต้องการของบริษัทในการหาผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้างานแผนกการตลาดคนใหม่ ทางหัวหน้างานจึงเสนอชื่อของมีนาขึ้นรับตำแหน่งสำคัญนี้ โดยไม่มีคนคัดค้านแม้ว่าเธอจะยังอายุน้อยกว่าเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนก็ตาม
ทว่า ต่อให้มีคนชื่นชมเป็นส่วนมาก แต่ก็เป็นธรรมดาที่มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ซึ่งคนที่เกลียดเธอก็ไม่ใช่คนไกลที่ไหน
มีนามีเพื่อนสนิทสองคน คือไอวี่กับแก้ว เบื้องหน้าเป็นเพื่อนสนิทที่ไว้ใจกันได้ แต่ภายในจิตใจของทั้งสองคนไม่ได้มีความจริงใจกับเธอเลย ยิ่งเห็นเธอได้รับคำชื่นชมจากเจ้านาย ความริษยาก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ
จนเมื่อถึงวันที่ความอิจฉาไม่สามารถสลัดทิ้งไปได้ ทั้งไอวี่และแก้วก็ได้ร่วมมือกัน หวังกำจัดมีนาไปให้พ้นทาง
พวกเธอเริ่มแผนในบ่ายวันหนึ่งเวลาเลิกงาน
“อีมีนานับวันยิ่งทำตัวน่าหมั่นไส้ จะยิ่งได้ดีไปมากกว่าเดิมผู้จัดการก็ชอบมันไม่เหลียวแลเราสองคนเลย งานนี้ต้องหาทางเขี่ยมันออกไปให้พ้นทางว่าไหมไอวี่” แก้วเสนอ
เธอรู้สึกโกรธมากที่วันนี้มีเพียงมีนาที่ได้ก้าวหน้าอยู่คนเดียว ทั้งที่เข้างานมาพร้อมกัน ตอนเช้าเริ่มทำงานพร้อมกันตอนเลิกงานก็เลิกพร้อมกัน นี่มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด หากจะเลื่อนขั้นก็ควรเลื่อนให้ทุกคนไม่ใช่หรือ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ควรเลื่อนให้เด็กใหม่แม้แต่คนเดียว เพราะในแผนกยังมีคนที่อายุงานมากกว่าอยู่หลายคน ทำไมหัวหน้าถึงมองข้ามพนักงานเหล่านั้น
“ใช่ เราต้องช่วยกัน” ไอวี่เห็นด้วยทุกประการ เธอเป็นอีกคนที่เข้างานพร้อมกับมีนาและแก้ว จึงไม่พอใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ของหัวหน้าเหมือนกัน “เอาอย่างนี้ไหม”
เพื่อนรักทั้งสองคนโน้มลงจนหัวชนกันเพื่อนัดแนะแผนการ เมื่อได้แผนการที่คิดว่าแยบยลแล้วก็พากันยิ้มกริ่ม เดินดาหน้าเข้าไปยังโต๊ะทำงานของมีนา พบว่ามีนาเก็บโต๊ะทำงานเสร็จ และกำลังเดินออกมาก็เข้าไปคล้องแขน
“พวกเรายินดีกับแกด้วยนะ ที่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกการตลาด” ไอวี่เป็นคนเข้ามาคล้องแขนของมีนา และเอ่ยประโยคแสดงความยินดี
“ขอบคุณมากนะพวกแกสองคนดีกับฉันจริงๆ ตอนที่ทุกคนร่วมกันยินดีกับฉันในห้องทำงาน ฉันมองไม่เห็นพวกแก นึกว่าพวกแกโกรธฉันซะอีก”
“โกรธ?! ทำไมต้องโกรธ” ไอวี่ยังคงเป็นคนรับหน้า
“พวกเราไปเข้าห้องน้ำต่างหาก” แก้วให้เหตุผล เสริมท้ายว่า “พวกเราดีใจกับแกมาก ๆ ไม่ว่าแกจะได้เลื่อนขั้นอีกสักกี่ขั้น พวกเราก็จะคอยซัพพอร์ตแกไปตลอดเลยนะเพื่อนรัก”
“ขอบคุณมากนะแก้ว ไอวี่ ฉันโชคดีจังที่มีเพื่อนแบบพวกแก” มีนาเอ่ยขอบคุณเพื่อนทั้งสองด้วยความจริงใจ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าคนที่คิดว่าเป็นเพื่อนจะหันมาแว้งกัดเธอ
“ไม่ต้องทำซึ้งหรอกย่ะ วันนี้วันดี ห้ามบิ้วเข้าดราม่า วันนี้งดการเสียน้ำตาทุกกรณีค่ะ!” แก้วประกาศด้วยน้ำเสียงอันมุ่งมั่น
“ใช่วันนี้วันดี ต้องฉลองเท่านั้น” ไอวี่ชูมือข้างที่ไม่ได้เกาะแขนของมีนาขึ้นกำ
“มีนา เราจะไปฉลองที่ไหนกันดี” แก้วหันไปถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ตรงกันข้ามกับความรู้สึกภายในใจ
“ไม่ต้องฉลองก็ได้ แค่นี้เอง” มีนาตอบกลับ เธอคิดว่าเพื่อนอยากร่วมแสดงความยินดี แต่ก็กลัวจะรบกวนเวลาพักผ่อนของเพื่อน ๆ จึงได้ปฏิเสธไป
“จะไม่ฉลองได้ไง แกได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแผนกทั้งที เรื่องน่ายินดีแบบนี้ต้องฉลองให้หนัก ไปร้านประจำของพวกฉันสิ ร้านนี้เครื่องดื่มอร่อย บรรยากาศก็ดี”
“ฉันดื่มไม่ค่อยเป็น เราไปร้านข้าวกันดีไหม”
“ร้านข้าวอะไรยะ” แก้วสวนขึ้น “งานฉลองก็ต้องดื่มสิ ร้านนี้เครื่องดื่มดีทุกอย่าง ฉันคอนเฟิร์ม ดื่มไม่เป็นก็ดื่มได้”
“แต่…” ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยไปสถานบันเทิง เธอเคยไปกับเพื่อนมหาลัยตอนเรียนจบ วันนั้นเธอได้ดื่มน้ำสีอำพันครั้งแรก และเธอรู้สึกไม่ชอบเอามาก ๆ แถมในร้านยังเปิดเพลงเสียงดังอีกหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยคิดอยากจะไปอีกเลย
“หรือว่าแกไม่อยากไป” ไอวี่ปล่อยมือออกจากแขนของมีนา “ถ้าแกไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร พวกเราเข้าใจว่าตอนนี้แกได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นหัวหน้าพวกเราแล้ว แกคงอยากที่จะไปฉลองกับพวกหัวหน้าด้วยกัน”
“นั่นสินะไอวี่ พวกเราเป็นลูกน้องก็อยู่อย่างเจียมตัวเถอะ อย่าต้องให้รบกวนเจ้านายเลย”
“พูดอะไรอย่างนั้น นอกเวลางานพวกแกก็ยังเป็นเพื่อนของฉันเสมอ ฉันไม่เคยคิดว่าได้เลื่อนตำแหน่งแล้วจะต้องเปลี่ยนสังคมเลยนะ ฉันก็แค่ดื่มไม่เป็นจริง ๆ”
“ไม่ต้องรักษาน้ำใจเราหรอก พวกเราเข้าใจสถานะของตัวเองดี ใช่ไหมไอวี่”
ไอวี่พยักหน้า “เมื่อกี้ที่แตะตัวแก เอ๊ย แตะตัวหัวหน้า ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ”
“พวกแกเล่นใหญ่รัชดาลัยไปปะ เอาล่ะ ๆ ไปก็ไป ทีนี้ก็เลิกกระแนะกระแหนว่าฉันได้ดีแล้วลืมเพื่อนซะที ฉันได้เลื่อนตำแหน่งก็เป็นเพราะขาดคนกะทันหันจริง ๆ ถ้าไม่กะทันหันความสามารถเท่าฉันเหรอจะได้เลื่อนขั้นเร็วขนาดนี้”
“ถ่อมตัว” แก้วจีบปากจีบคอ ลอบมองสบตาไอวี่
“นั่นสิ” ไอวี่ว่าบ้าง “แกเก่งจนมีแต่คนชม ต่อให้ไม่ขาดคนเขาก็หาทางเลื่อนขั้นแกจนได้นั่นแหละย่ะ”
“ชมฉันมาก ๆ ฉันก็ลอยพอดี”
มีนายิ้มให้กับเพื่อนทั้งสองคน ไอวี่กับแก้วหัวเราะร่าขึ้น และทันทีที่มีนาเผลอ ทั้งสองคนก็ลอบมองตากัน พร้อมกับความเข้าใจที่ตรงกันทั้งสองฝ่าย