หลังจากที่แก๊งอาหารกลางวันได้กินข้าวกะเพราจนอิ่มพุงกาง จึงพากันย้ายตัวเองขึ้นมานั่งทำงานต่อในออฟฟิศ
"โอ้ย...ท้องจะแตกแล้วเจ๊" ฉันบ่นอุบอิบออกมาพลางลูบท้องตัวเอง
"ก็แหงล่ะสิ แกกินไปเยอะซะขนาดนั้น แกจะง่วงไหมเนี่ย"
"ฮือ...หนูก็หิวอะเจ๊" แต่ยังไงฉันก็ต้องฝืนถ่างตาเพื่อทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จภายในวันนี้ให้ได้ ฉันก็เลยเลิกบ่นแล้วนั่งทำงานตรงหน้าอย่างตั้งใจ ก่อนจะได้ยินเสียงปรบมือสองครั้งดังขึ้นจากกลางห้อง
"ทุกคน พี่มีหัวหน้าแผนกไอทีคนใหม่จะมาแนะนำนะ เชิญแนะนำตัวเลยครับ" เสียงของพี่นพ ชายวัยผู้ใหญ่ตอนกลางที่เป็นผู้จัดการสาขาดังขึ้น ก่อนที่สายตาของทุกคนในห้องนี้จะมองไปยังกลางห้อง และฉันเห็นดังนั้นจึงชะงักไปและก้มหน้าฟุบลงกับโต๊ะทันที...หัวหน้าแผนกคนใหม่ที่ว่าคือ ป๊อบ แฟนเก่าของฉันเอง จริง ๆ เราเลิกกันเพราะ...เอ่อ ไม่สิ ยังไม่ได้บอกเลิกกันด้วยซ้ำ จู่ ๆ เขาก็หายไปแบบไม่บอกไม่กล่าว ทิ้งไว้ก็แต่เจ้าทามะให้ฉันดูแลมันต่อ
"สวัสดีครับ ผมชื่อป๊อบนะครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ" หลังจากเขาพูดจบก็มีเสียงซุบซิบและสายตาจากสาวน้อยสาวใหญ่ในแผนกที่มองเขาจนตาเป็นมัน และหลังจากที่เขาเดินกลับออกไปยังห้องแผนกไอทีกับพี่นพเพื่อไปแนะนำตัว ฉันจึงค่อยยกหัวขึ้นเงยหน้าเหลือบมองตรงประตูอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ เสียงเจ๊กุ๊กก็กระซิบที่ข้างหูฉัน
"นี่ ยัยแก้ม แกจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำไม"
ฉันสะดุ้งนิด ๆ และหันไปมองเจ๊แกและตอบกลับไป
"เจ๊...ถ้าหนูเล่าแล้วอย่าไปบอกให้ใครรู้นะ"
"เรื่องมันเป็นอย่างงี้...คือหัวหน้าแผนกไอทีคนใหม่ตะกี้อะ เขาเป็นแฟนเก่าหนูเองแหละ" ทันใดนั้นเจ๊กุ๊กก็ตาลุกวาวทันทีและหันมาคุยซุบซิบกับฉัน
"ช็อก...โลกกลมเกินไปไหมวะ" เจ๊กุ๊กอุทานขึ้นเบา ๆ ด้วยความรู้สึกอึ้ง
"นั่นดิเจ๊ แล้วหนูต้องหลบหน้าเขาไปถึงไหนเนี่ย" ฉันบ่นออกมาด้วยท่าทางอิดออด
"แต่จะว่าไป เขาก็หล่อนะ หุ่นก็ดี... เผลอ ๆ เขาอาจจะยังชอบแกอยู่ งานนี้ฉันว่ามีรีเทิร์นแน่" เจ๊กุ๊กยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ฉันจึงตีแขนเจ๊แกเบา ๆ
"เจ๊ก็...ไม่มีทางอะ หนูยังเคืองไม่หายเลย คิดจะหายไปก็หายแบบไม่บอก" ฉันหน้ามุ่ยลงอย่างเห็นได้ชัด
"เออ ๆ ฉันไม่ยุ่งก็ได้ ทำงานต่อดีกว่า" เจ๊กุ๊กพูดจบก็หันกลับไปโฟกัสกับงานตรงหน้าต่อ
หลังจากที่ฉันทำงานไปจนเกือบจะเสร็จ จนถึงช่วงเย็น
"เจ๊...ของเจ๊เสร็จยัง" ฉันยื่นหน้าไปมองหน้าจอคอมของเจ๊กุ๊ก และเจ๊กุ๊กก็ปิดหน้าต่างโปรแกรมที่ใช้ทำงานลงและหันมาคุยกับฉัน
"เสร็จแล้ว ๆ แกจะกลับเลยไหม" ฉันได้ยินดังนั้นเลยมองหน้าเจ๊แกด้วยความงง
"กลับเลยสิ เจ๊เนี่ยถามแปลก ๆ ..."
"เอ๊ะ ๆ หรือว่า...วันนี้แฟนมารับเหรอคะคุณกุ๊ก" ฉันพูดแหย่เจ๊กุ๊กด้วยท่าทีที่ขี้เล่น และเจ๊กุ๊กก็ยิ้มเขินออกมาทันทีด้วยใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีระเรื่อ
"แหม...อย่าแซวเจ๊นักสิ เขินหมดแล้วเนี่ย"
"มีแฟนเด็กก็ดีแบบนี้ล่ะน้อ..." ฉันลากเสียงแซวเจ๊กุ๊กอีกครั้งจนเจ๊แกรีบปิดคอมฯ และหยิบกระเป๋ายืนขึ้น
"ฉันไปแล้วนะ...พรุ่งนี้เจอกัน" เจ๊กุ๊กโบกมือให้ฉันและเดินออกไปด้วยความเร็วแสง ทิ้งให้ฉันนั่งจัดของใส่กระเป๋าและเดินไปยืนรอลิฟต์...ทำให้ฉันบังเอิญเจอพ่อแฟนเก่าตัวดีของฉันอีกรอบที่ยืนอยู่ในลิฟต์
ใบหน้าของฉันดูตกใจอย่างเห็นได้ชัดและเขาก็ทำเหมือนไม่รู้จักฉัน
"จะลงไปชั้นหนึ่งใช่ไหมครับ เข้ามาสิก่อนสิครับ" ด้วยท่าทีนิ่งเฉยและทำเป็นไม่รู้จักฉันทำให้ฉันงงเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินเข้าไปในลิฟต์ จนผ่านลงไปจนเกือบชั้นหนึ่ง...บัดนี้ในลิฟต์มีแค่เราสองคน เขาจึงพูดขึ้นเบา ๆ
"แก้ม...จำป๊อปได้ไหม" ฉันไม่ตอบอะไรและเหลือบมองเขาผ่านหางตา เห็นว่าเขายิ้มขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่คุ้นเคย
"ขอโทษนะคะ คุณคงจำคนผิดแล้ว" ใช่...ฉันต้องทำเป็นไม่รู้จักเขาสิ (ฉันคิดในใจ) และฉันเดินออกไปจากลิฟต์ทันทีโดยไม่หันกลับมามองเขา เพียงแต่ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางด้านหลังและเขาคว้าแขนฉันไว้ ฉันจึงหันไปมองเขา...
"รบกวนปล่อยด้วยค่ะ" ฉันหันไปหาเขาด้วยอาการหน้านิ่วคิ้วขมวด และคราวนี้เขายิ้มออกมาอย่างดีใจที่ได้เจอฉันอีกครั้ง...
"คราวนี้ป๊อบจะไม่ยอมปล่อยแก้มไปอีกแล้ว..." เขาพูดอย่างกับคนที่หนีไปคือฉันยังไงอย่างงั้น ทั้งที่คนที่หนีไปคือเขา
"ไปกินข้าวเย็นด้วยกันนะ" เขาพูดออกมาเพื่อบอกเล่า ไม่ได้ถามเพื่อเอาคำตอบ และฉันถอนหายใจออกมาก่อนจะโดนเขาลากไปที่รถปอร์เช่สีดำเงาทั้งคันในลานจอดรถ
"แก้มยังไม่ได้บอกว่าจะไปกับป๊อบเลยนะ" ฉันพูดออกมาทันที ก่อนจะทำท่าเดินหนีแต่โดนร่างใหญ่ ๆ ของเขาโอบไว้ซะก่อน
"ปล่อยเลยนะป๊อบ อย่าทำแบบนี้ เราไม่ได้เป็นแฟนกันเหมือนเมื่อก่อนนะ" ฉันมองค้อนเขาเบา ๆ
"พอแล้ว ไปก็ได้" ฉันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อย ๆ ทำให้เขายิ้มกว้างออกมาและเปิดประตูรถข้างคนขับให้ฉัน และระหว่างทางเขาก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง...
"แก้มบอกว่า...เราไม่ได้เป็นแฟนกันเหมือนเมื่อก่อนใช่ป่ะ"
"โอเค ๆ ถึงเราจะยังไม่ได้บอกเลิกกันก็เถอะ" เขาขำขึ้นมาเบา ๆ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปยังร้านอาหารฟูลคอร์สสไตล์ฝรั่งเศส
"งั้น...ป๊อบขอจีบแก้มอีกครั้งได้ป่ะ" จังหวะนั้นฉันอยากมุดหนีออกไปจากรถไกล ๆ แต่ทำยังไงได้ล่ะ...ก็ฉันหลวมตัวมากับเขาแล้ว ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไปด้วย
ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ฉันถึงมานั่งลงตรงข้ามเขาที่โต๊ะในร้านอาหารหรู ๆ แบบนี้ และฉันได้แต่นั่งหลบตาใบหน้าหล่อที่มองมาที่ฉันอย่างไม่ละสายตา
"มองอะไรกัน" ฉันพูดขัดจังหวะออกไปทันที
"ก็มองคนสวยไง" ป๊อบตอบขึ้นทันควันด้วยรอยยิ้มกวน ๆ และคิ้วที่เลิกขึ้น ประโยคนั้นทำให้ฉันถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
"เข้าเรื่องเลยดีกว่าป๊อบ" ฉันพูดขึ้นต่อเพื่อให้เขาไม่ออกทะเลไปมากกว่านี้
"โอเค ๆ ป๊อบจะบอกว่า ป๊อบยังไม่ลืมแก้มนะ...แต่ที่ป๊อบหายไปป๊อบมีเหตุผลของป๊อบ" หึ เหตุผลเหรอ บอกว่ามีเหตุผลแต่กลับไม่บอกให้ฉันได้รู้ว่ามันคืออะไร
"ทักแชตบอกแก้มก็ได้นะ" ฉันพูดประชดเขาออกไปทันที
"ทักแชตได้ยังไงล่ะ ก็แก้มบล็อกป๊อบ..." ใบหน้าของเขาบัดนี้ดูเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
"แล้วเหตุผลมันคืออะไรล่ะ...บอกแก้มมาสิ หายไปตั้งหลายปีแล้วจะมาขอคืนดี มันง่ายไปป่ะ?" ฉันมองเขาด้วยแววตาจริงจังและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะวางลงบนหลังมือของฉันอย่างแผ่วเบา...คราวนี้เขาก้มหน้าลงและใช้มือที่วางอยู่อีกข้างหนึ่งกุมขมับตัวเองอย่างรู้สึกผิด
"ที่ป๊อบหายไป...ป๊อบต้องไปช่วยธุรกิจที่บ้าน ที่มันกำลังจะล้มละลาย แต่สุดท้าย...มันก็พังไม่เป็นท่า" แววตาของเขาดูเลื่อนลอยอย่างน่าใจหาย แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเขาถึงไม่บอกอะไรให้ฉันได้รู้บ้างเลย...สักนิดก็ยังดี แต่ด้วยความรู้สึกเป็นห่วงที่แล่นเข้ามาในใจฉันจึงทำให้ฉันใช้มืออีกข้างหนึ่งทาบบนหลังมือเขาอย่างปลอบโยน ก่อนที่พนักงานจะมาเสิร์ฟอาหาร ฉันจึงค่อย ๆ ผละมือออกและเราทั้งคู่ก็นั่งกินอาหารตรงหน้าแบบเงียบ ๆ