หลงทางยังมีแผนที่ หลงคนดีนี่ไม่รู้จะทำไง

1423 Words
----02---- เช้าวันที่สองตื่นมาแบบงงๆ ตั้งแต่เช้าเพราะเราต้องไหว้พระ (เทพจีน) กันแต่เช้าเพราะเป็นกฎ เมื่อวานโคตรเหนื่อยแล้วคือต้องแบกสังขารขึ้นบันไดมาไหว้พระ โอ้ยน้อ~ ง่วง...ไอว้อนทูสลีพ ยูโหน่วฮายยย~ "อีอัญ เปลี่ยนชุดมั้ยไหว้ละพระนะมึง" อีป่านหันมาโวยเออชุดที่ใส่มามันก็เรียบร้อยปะวะแขนขายาวไม่ได้โป๊เลย แต่แค่มันเป็นชุดนอน "ไม่เปลี่ยนแม่งละไหว้เสร็จจะกลับมานอน" แล้วฉันก็พาตัวเองในชุดนอนสีฟ้าลายหมีมาถึงห้องพระ แน่นอนทุกสายตาจับจ้องมาที่ฉันเป็นตาเดียว ทำไมวะชุดมันก็เรียบร้อยอะ "ไปเปลี่ยนชุดก่อนแล้วกลับมาใหม่" อาจารย์เดินเข้ามากระซิบบอก โด่วววต้องลงไปแล้วกลับขึ้นบันไดมาอะนะ ตื่นอะก็ตื่น แต่นี่ต้องมาออกกำลังกายแต่เช้าหรอ แม่งเอ้ยเชื่ออีป่านก็จบละ ฉันได้แต่เดินบ่นกับตัวเองในใจ พอกลับมาถึงห้องพระอีป่านก็กวักมือเรียกหยอยๆ "อีอัญมานี่" แน่ะๆ ๆ ๆ อีป่านซิกแรงแบบนี้เจอของดีเข้าแน่ๆ ฉันรีบเดินตรงไปหาอีป่านทันที ไหนอะไร! เอามาดูซิ!! "อะไร มีอะไร" "มึงดูโน่น" อีป่านเบ้ปากไปทิศที่มีชายหนุ่มรุปหล่อขาวตี๋เกาหลีมาก ความสูงของเขานั้นทะลุ 180 แน่นอน ผิวที่ขาวดั่งหลอดนีออนนี่แผ่กระจายออร่าไปทั่วห้อง ผมสีน้ำตาลดูธรรมชาติบนหัวยิ่งเสริมให้ดูมีเสน่ห์ รวมๆ แล้วดูหล่อเท่ เสียดายแต่ทำหน้านิ่งไปหน่อย เขายืนอยู่ประดุจรูปปั้นในมาดามครูซโซ่ออร่าพรุ่งพรวดพราดดึงดูดสายตาชะนีทุกนางในที่นี้ไว้เป็นหนึ่งเดียว รวมทั้งฉันด้วย "มาแล้วมึงมาแล้วๆ " พอพ่อรูปงามขาวตี๋เดินมาทางฉันกับอีป่านทุกคนก็มีอาการยุกยิกแอ๊บสวยกันเต็มที่ แต่เดี๋ยวนะนี่กูยังไม่ได้อาบน้ำนี่ เชี้ย คราบน้ำลายเอย ขี้ตาเอย เฟิร์สอิมเพสชั่นกู ประทับใจมากสินะ ผู้บ่าวสูงยาว ขาวหลอดนีออนเดินมาหยุดไม่ไกลจากฉันห่างกันไปประมาณก้าวสั้นๆ "อีอัญแซวดิ้" อีป่านกระซิบบอก "หนีห่าว" ด้วยความที่เป็นคนทะลึ่งอะเนาะอีนี่ก็เงยหน้าขึ้นไปทักทาย แต่มันทำไงรู้ปะ แค่เหลือบตามองแล้วดึงตากลับ หนอยยยย!!! "ผัวมากอะมึง" อีป่านยังหวีดไม่หยุด "ผัวบ้าบออะไรล่ะ ไอ้เก๊ก" ฉันพูดยิ้มๆ กลบเกลื่อนว่าเป็นคำด่า มันก็หันมามองแบบนิ่งๆ "งง งงอะดิฟังไม่ออกสิท่า โธ่ เห็นว่าหล่อแล้วจะหยิ่งยังไงก็ได้หรอ คนทักเนี่ยไม่ได้ยินไง๊หูดับป่าว นี่ของดีไทยแลนด์นะโว้ย แล้วอย่ามาชอบก็แล้วกัน" อีนี่ก็เลยหันไปแว้ดเบาๆ แค้นอะคนอุส่าทัก ยิ้มให้หน่อยก็ได้มั้ง "อีอัญ" อีป่านเขย่าแขนให้ฉันเงียบ "โอ้ยมันฟังไม่ออกหรอก" มันก็หันมามองนะแต่น่าจะฟังไม่ออกแหละ คนที่นี่นอกจากอาจารย์ที่พาเรามา ยังไม่เห็นมใครพูดภาษาไทยเลย ไหว้พระเสร็จก็ลงมาทำเวรต่างๆ แบ่งกันไปเป็นกลุ่มๆ ทำเวรเสร็จกินข้าวอาบน้ำแต่งตัวไปเที่ยวจ้า "อัญมึงจดที่อยู่อาจารย์ยัง" "ยังเดี๋ยวออกไปจด แปบเดียว" "จะลืมมั้ยเนี่ยเดี๋ยวกูไปจดเอง" "หื้มมม กูเองมึงเมมเบอร์อาจารย์นะ" "โอเคๆ " แน่นอนว่าฉันกับอีป่านเก็บรางวัลลีลาวดีกลุ่มยอดเยี่ยมมาครองทุกสมัย ทุกคนสแตนบายพร้อมออกเที่ยวน่าจะสักพักแล้ว ตัดภาพมาที่ฉันกับอีป่านคือเพิ่งเสร็จแล้ววิ่งหน้าตาตื่นออกมา คนเพิ่งอาบน้ำนี่หว่า "ครบแล้วใช่มั้ย ไปกันเลยนะ" อาจารย์พูดพร้อมกับส่งยิ้มให้กับพวกเรา แต่คนอื่นๆ ก็คือมองจิกแบบพร้อมตบสุด กูนี่มันน่าจริงๆ @ตลาดต้าหยา เรานั่งรถเมล์มาที่นี่ทุกอย่างมัน...ไม่ต่างจากไทยเท่าไหร่ แค่ป้ายมันเป็นภาษาจีนเท่านั้นเอง "เราจะแยกกันไปเที่ยวนะ ทุกคนจดที่อยู่กับเบอร์อาจารย์แล้วใช่มั้ย" ชิบหายแล้ว ฉันกับอีป่านหันมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย "มึงจดที่อยู่แล้วช้ะ" อีป่านเอียงคอมากระซิบถาม "แล้วมึงอะ เมมเบอร์ยัง" ฉันเลยถามมันกลับ "ยัง" เราพูดขึ้นพร้อมกับ แม่งเอ้ยสมเป็นเพื่อนกันจริงจริ้งงง "ไม่เห็นยากเลย มึงก็อย่าหลงดิวะ" ฉันเสนอความคิดขึ้น ถ้าเราไม่หลงของพวกนี้ก็ไม่ต้องใช้มั้ยอะ "พูดง่ายๆ ซ้ายขวามึงแยกได้แล้วหรอ" อีป่านอีผี เออแต่ก็จริงฉันมีปัญหากับขวาซ้ายมาตลอดชีวิต ออกตกเหนือใต้แยกไม่ได้สักทิศ "งั้นเราก็เดินไปพร้อมๆ คนอื่นไง" ฉันเสนออีกข้อ "ก็ตามนั้นปะ..." อีป่านพูดไม่ทันจบ จังหวะที่จะหันไปรวมกับคนอื่น ทุกคนแยกย้ายหายไปหมดแล้ว เค้านัดที่ไหนนัดกี่โมงก็ไม่ได้ฟัง เค้าไปทางไหนก็ไม่รู้ โอ้ยกูหลงตั้งแต่ยังไม่มีก้าวแรก "เอาไง" อีป่านหันมาถาม "ก็...เอางี้ถ่ายรูปไงมึง เดินไปถ่ายไปแล้วเราก็คอยดูรูปเวลาเดินกลับ ไม่เห็นยากเลย" ความคิดดีดีแบบนี้แน่นอนว่าต้องออกมาจากสมองที่แหลมคมของนางสาวอัญมณีแน่นอน "เค ไปเหอะหาเรื่องแดกกัน กูเอียนผัก เอียนเต้าหู้แล้ว วันนี้แหละกูจะฟาดทุกเนื้อ" อีป่านพูดพร้อมกับจูงมือฉันเดินข้ามถนนไปพร้อมกับมัน เราเดินแดกกันแบบจัดเต็ม อะไรเป็นเนื้อคือแดกเละ ไม่ถงไม่ถามว่าเนื้ออะไร หมาก็หมาเหอะโหยหาเนื้อมาก "ถ้าเค้าจับได้เราชิบหายแน่" อีป่านพูดขึ้น แต่มือก็ยกหมู (มั้ง) ปิ้งขึ้นกัดไม่หยุด "ใครจะรู้กับมึง เรามาด้วยเค้าจำได้รึป่าวก็ไม่รู้" ฉันออกความเห็น จริงๆ นะนอกจากอาจารย์จางก็ไม่เห็นจะมีใครสนใจพวกเราเลย ฉันสองคนพากันเดินไปเดินมาหาของกินไปทั่วจนในที่สุด... "มึงกูว่าเราเดินนานมากเลยนะ" ฉันนึกขึ้นมาได้ พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่านัดเจอกันที่ไหนแล้วกี่โมง "เออว่ะ กูว่าเราย้อนกลับไปรอตรงที่เราลงรถมั้ย" อีป่านพูดขึ้นบ้าง "ถ้าเค้านัดที่อื่นล่ะ" "อีอัญ!! อย่างน้อยถ้าเราหลงเร้าก็อาจจะย้อนมาหาได้ปะ" "เค งั้นกลับกัน..." พอหันกลับไปด้านหลังคือแบบ เราเดินจนทั่ว แบบมั่วทางมาก เข้าซอยนั้นออกตรอกนี้จนจำทางกลับไม่ได้แล้ว "มึง...จำทางได้ปะ" ฉันหันไปถามอีป่าน มันมองหน้าแล้วส่ายหัวไปมา "มึงถ่ายรูปไม่ใช่หรอ" "กูลืมว่ะ" "อีอัญญญ!!!!! " ก็มัวแต่แดกใครจะไปถ่ายวะ ไหนจะของกินไหนจะถุงที่ใส่ของ (ของที่ว่าก็คือขนม) เราสองคนพากันเดินวนไปตามทางที่คิดว่าจะใช่ ทำไมขามาทางมันไม่ซับซ้อนแบบนี้วะ เดินไปเดินมาอยู่นาน "กูว่าหาไม่เจอแล้ว ไปหาตำรวจดีกว่า" อยู่ๆ อีป่านก็หยุดเดินแล้วพูดขึ้นมาแบบนั้น "ไปหาตำรวจแล้วจะคุยรู้เรื่องปะ? ก็ไม่" "แล้วมึงจะเอาไง กูบอกมึงละว่าให้จดที่อยู่อาจารย์มา" "ทีกูบอกให้มึงเมมเบอร์อาจารย์ล่ะ มึงก็ไม่ได้เมมปะ" เราเริ่มสาดอารมณ์กราดเกรี้ยวใส่กัน คงเพราะอากาศที่ร้อนแล้วก็เครียดเรื่องหลงล่ะมั้ง "งั้นก็แยกกันไป" ด้วยความโมโห ฉันเลยพูดไปแบบนั้น "อืม ก็ดี" พูดจบป่านมันก็เดินแยกไปเลย ฉันมองตามมันไปจนกระทั่งหลังเล็กๆ ของมันถูกกลืนหายไปด้วยผู้คนในตลาด เออดี ให้มันรู้ไปสิว่ากูจะเอาชีวิตมาทิ้งที่ไต้หวัน. . .
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD