“ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะคะคุณไฟซัล น้ำหอมของคุณมีกลิ่นที่พิเศษไม่เหมือนใครจริง ๆ ค่ะ ฉันถูกใจมาก ๆ เลยค่ะ”
CEO สาวสวยจากบริษัทคู่ค้ารายใหญ่จับมือทักทายกับไฟซัลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ด้านข้างของเธอมีเลขาสาวยืนอยู่ด้วยกัน และทั้งสองต่างมีกลิ่นฟีโรโมนที่ค่อนข้างรุนแรงเป็นพิเศษ ไฟซัลข่มสีหน้าไว้ภายใต้รอยยิ้มการค้า เขาสัมผัสมือกับเธอไม่กี่วินาทีก็รีบคลายออกอย่างเป็นธรรมชาติ ภาพทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของไลลานา เธอสังเกตเห็นเม็ดเหงื่อใสผุดขึ้นข้างไรผมสีดำสนิท
คุณไฟซัลอาการกำเริบอย่างนั้นเหรอ… แย่แล้ว
ไลลานาขยับเข้ามายืนใกล้รองประธานหนุ่มมากกว่าเดิม ท่าทางของเธอนั้นเรียกสายตาจาก CEO สาวให้หันมาสนใจ ไฟซัลเองก็ชะงักไปกับท่าทางของไลลานาเช่นกัน แต่เมื่อเห็นว่าเธอพยายามจะช่วยเขาอย่างเต็มที่ ริมฝีปากหนาก็อดยกยิ้มเอ็นดูไม่ได้
“อ่า… ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับ พอดีว่าผู้ช่วยเลขาของผมเธอเวียนหัวนิดหน่อยน่ะครับ” รองประธานหนุ่มเปลี่ยนท่าทางมาโอบประคองผู้ช่วยเลขาด้วยความใส่ใจก่อนจะขอตัวกลับอย่างสุภาพ
CEO สาวเลิกคิ้วเล็กน้อยกับภาพแปลกตาตรงหน้า เธอได้ยินข่าวคราวของไฟซัลมาก็มาก ส่วนมากเป็นข่าวเกี่ยวกับงานวิจัยของเขาทั้งสิ้น เขาไม่เคยมีข่าวกับผู้หญิงคนไหนจนใคร ๆ ต่างก็พากันซุบซิบนินทาว่ารองประธานหนุ่มสุดหล่อของแวนเนอร์กรุ๊ปเป็นพวกไม้ป่าเดียวกัน แต่กับภาพที่เห็นตอนนี้มันคนละเรื่องเลยไม่ใช่หรือไง ทั้งแววตา ทั้งสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยยามมองผู้ช่วยเลขาของตัวเองนั่น… มันไม่ธรรมดาเลยนะ
หลังจากคนทั้งสามเดินเข้ามาภายในลิฟต์ ไฟซัลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไลลานาเงยหน้ามองเจ้าของวงแขนที่ยังไม่ยอมปล่อยออกจากไหล่ของเธอ เม็ดเหงื่อตรงไรผมของเขายังชุ่มชื้น ใบหน้าเรื่อแดงหน่อย ๆ
“คุณเป็นอะไรไหมคะ รู้สึกอยากจะอาเจียนหรือเปล่าคะ”
“คุณรู้ด้วยเหรอครับว่าผมรู้สึกไม่ดี” ไฟซัลก้มหน้าถามคนในวงแขน เขายังคงกอดไหล่เธอไม่ปล่อย อลันยืนหันหลังให้คนทั้งคู่ แต่ทว่าเงาสะท้อนจากกระจกลิฟต์ก็ไม่วายทำให้เขามองเห็นภาพแนบชิดกันของไฟซัลกับไลลานาอยู่ดี
“ฉันเห็นสีหน้าคุณไม่ค่อยดีค่ะ อาการกำเริบหรือคะ”
“ครับ กลิ่นพวกเธอแรงมากจนผมอยากจะอาเจียนเลยล่ะครับ”
“งะ งั้นเหรอคะ แล้วตอนนี้โอเคหรือยังคะ” เธอเอียงคอถาม สีหน้าห่วงใยฉายชัด ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก
“ยังเลยครับ รู้สึกอยากจะอาเจียนยังไงก็ไม่รู้” คำตอบของไฟซัลทำอลันเหลือบมองสบตากับเขาผ่านกระจก เจ้านายเขากำลังโกหก และดูเหมือนคนตัวเล็กก็หลงเชื่อเสียด้วย
“แล้วจะทำยังไงได้บ้างคะ น้ำหอม… เอ่อ คุณไม่ได้พกมาสินะคะ ทำยังไงดีล่ะคะ” ไลลานาลนลานหน้าตาตื่น เธอพยายามคิดหาทางช่วยเขา ซึ่งอากัปกิริยาของเธอมันดูน่ารักซะจนไฟซัลลอบยิ้ม แต่พอดวงตาหวานเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็รีบตีหน้าอ่อนระโหยโรยแรงทันที
“คุณอยากจะช่วยผมจริง ๆ เหรอครับ”
“ค่ะ ฉันยินดีจะช่วยคุณไฟซัลทุกอย่างเลยค่ะ ฉันเป็นผู้ช่วยเลขาของคุณนี่คะ”
ประตูลิฟต์เปิดออกพอดี อลันเดินนำหน้าออกจากลิฟต์มาก่อน ไฟซัลโอบไหล่ไลลานาเดินตามออกมา เขาส่งสายตาให้อลันไปเอารถ ซึ่งเลขาคนสนิทต่างรู้งานดี เขาเดินหลบฉากออกไป
ไฟซัลพาไลลานาเดินมาหลบมุมตรงเสาขนาดใหญ่บริเวณลานจอดรถ
“ถ้าคุณอยากจะช่วยผม งั้นช่วยยืนอยู่นิ่ง ๆ สักหนึ่งนาทีนะครับ”
“คะ?” เธอเงยหน้ามองเขาด้วยความไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้คำตอบอะไร ร่างสูงก็ก้มลงมาสวมกอดเธอแล้ว ไลลานาเกร็งตัวด้วยความตื่นตกใจ เธอเผลอดิ้นหนี แต่ถูกวงแขนแกร่งรวบตัวมากอดแน่น “คะ คุณไฟซัลทำอะไรคะ?”
“คุณอยากช่วยผมไม่ใช่เหรอครับ นี่ไงครับ… คุณกำลังช่วยผมอยู่นะ”
“ชะ ช่วยด้วยการกอดนี่น่ะเหรอคะ” เธอย่นคอหน่อย ๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจกรุ่นร้อนเป่ารดผิวเนียน ไฟซัลจงใจเฉียดริมฝีปากผ่านต้นคอหญิงสาวเพื่อสูดดมกลิ่นหอมที่เขาหลงใหล
“ผมบอกแล้วไงครับว่ากลิ่นของคุณช่วยผมได้ แค่ผมกอดคุณแบบนี้ อาการผมก็ดีขึ้นเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะครับ”
“…” ไลลานานิ่งฟังโดยไม่ได้ดิ้นหนีอีกต่อไป เธอปล่อยให้ร่างสูงสวมกอดจนเวลาผ่านไปสักพัก เสียงหวานอึกอักขึ้นมา “เอ่อ… นี่มันเกินหนึ่งนาทีแล้วนะคะคุณไฟซัล”
“โอ้… งั้นเหรอครับ”
ร่างสูงผละออกจากร่างเล็กพลางขยับยิ้มกว้าง สีหน้าเขาดูดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด ไลลานาถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เห็นว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้ว แสดงว่าการกอดเธอสามารถช่วยเหลือเขาได้จริง ๆ งั้นสินะ
“คุณไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหมคะ ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างคะ” เธอสอบถามอาการเขาด้วยความเป็นห่วง ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมานั้นช่าง…
“ผมรู้สึกอยากกอดคุณอีกครับ”
.
.
.
ไฟซัลพาไลลานาแวะทานมื้อกลางวัน ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขามาที่นี่เป็นประจำเพราะมีห้องวีไอพีแบบส่วนตัว ไม่ต้องนั่งรวมกับใคร
หลังทานอาหารเสร็จพวกเขาพากันกลับมาที่บริษัทเช่นเดิม ไลลานายังคงไม่มีงานอะไรให้ทำนอกจากนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเองเงียบ ๆ กระทั่งเธออดรนทนไม่ไหวหันไปหารองประธานหนุ่ม
“คุณไฟซัลคะ ฉันต้องทำงานอะไรบ้างคะ ฉันนั่งอยู่แบบนี้มาเกือบชั่วโมงแล้วนะคะ”
ไฟซัลละสายตาจากกองเอกสารตรงหน้าขึ้นมองหญิงสาว คิ้วสวยของเธอขมวดหน่อย ๆ ยามมองสบตากับเขา ดูแล้วเหมือนลูกแมวกำลังไม่พอใจเจ้าของอย่างไรอย่างนั้น
“คุณอยากทำงานเหรอครับ?”