ชีวิตใหม่

1073 Words
“เปลี่ยนชื่อจ้อยเป็นกีต้าร์ดีไหม” เอเดรียนแสร้งถามขึ้นลอยๆ แต่มันเป็นสิ่งแรกๆ ที่เขาคิดเอาไว้ว่าจะต้องทำเพื่อลบล้างอดีต “เอาฮะ” คราวนี้จ้อยยอม แถมเร่งเร้าอยากจะเปลี่ยนชื่อไวๆ “จ้อยชอบกีต้าร์ฮะ จ้อยอยากชื่อกีต้าร์” เกร็กพยักหน้าอย่างประทับใจกับความคิดของเอเดรียน เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าเรื่องโรงเรียนที่เขาคิดไว้เป็นสิ่งแรกว่าจะหาให้ลูกเสียอีก “ส่วนชื่อจริง พ่อชื่อเกร็ก ลูกชื่อแกรี่ดีไหม ความหมายดีด้วย แปลว่าผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลม” เอเดรียนถามผู้เป็นพ่อของเด็ก “ดีครับท่านประธาน” เกร็กยกนิ้วโป้งขึ้นมาสองนิ้ว “แล้วเรื่องเรียนล่ะ” ณวัฒน์ถามบ้าง “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเกร็กแล้วกัน ฉันยินดีสนับสนุนทุกอย่าง” เอเดรียนพยักพเยิดไปทางเกร็ก “ขอบคุณท่านประธานมากครับ ผมจะให้เขาเรียนไปด้วย แล้วก็จะให้เขาเรียนศิลปะป้องกันตัว พอโตขึ้นจะให้เข้าโรงเรียนฝึกบอดี้การ์ด เขาจะได้แข็งแกร่ง” “อย่าไปบังคับลูกเลย เขาอยากเป็นอะไรก็ให้อิสระกับเขา” เอเดรียนเตือนลูกน้อง “ให้เขาสนุกสนานกับชีวิตในวัยของเขา ตอนเด็กอยากเล่นอะไรก็เล่น ตอนโตให้เขาเที่ยวให้เขาทำงานอย่างที่อยากทำ อย่าไปปิดกั้น แต่ต้องคอยชี้แนะและเป็นที่ปรึกษา ถึงเวลาถ้าเขา ‘พอ’ เขาจะหยุดทุกอย่างเอง” “พูดอย่างกับผ่านชีวิตมาโชกโชน มึงอายุน้อยกว่าเกร็กอีกนะ” ณวัฒน์แซวเพื่อน “ก็พูดในมุมมองของกู อย่างน้อยกูก็ผ่านชีวิตวัยรุ่น และกำลังอยู่ในวัยผู้ใหญ่ มึงมีอะไรมาเถียง” เอเดรียนถามเพื่อนที่กินดื่มเที่ยวมาด้วยกัน “ไม่มีคร้าบท่านประธานที่เคารพ ท่านพบรักแท้แล้วท่านจึงหยุด กระผมรู้ดีครับ” ณวัฒน์ยิ้มให้เอเดรียน แต่ก็เห็นว่าเจ้าพ่อโรงแรมหน้าเจื่อนลง เพราะรักแท้ที่เอเดรียนหาจนเจอที่ไทยดันหายไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งเอเดรียนก็ตั้งใจว่าถ้าหากเขาเคลียร์ทุกอย่างที่อเมริกาจบ เขาจะกลับไปพลิกแผ่นดินตามหาผู้หญิงที่ชื่อเพชรพลอย...เป็ดน้อยในทะเลรักของเขา “อีกสามปีจะเปิดตัวโรงแรมที่ประเทศไทย นายยังอยากไปประจำที่นั่นอยู่หรือเปล่า” เอเดรียนห่วงใยความรู้สึกของลูกน้อง บางทีการที่เกร็กไม่พาลูกกลับไปยังดินแดนที่สร้างความเจ็บปวดให้เด็กน้อยเลยจะเป็นการดีที่สุด “ไปครับ” เกร็กตอบเสียงหนักแน่น เรื่องตามหาหญิงคนรักอันตรธานไปจากหัวของเขาทันทีที่รู้ว่าเธอมีรักใหม่ แต่เขาไปเพราะหน้าที่ ไปเพราะเจ้านายที่เปรียบเสมือน ‘บ้าน’ ของเขา ********* สามปีหลังจากนั้น เกร็กซึ่งพาลูกเดินทางมาตั้งรกรากที่ประเทศไทยเป็นต้องย้ายที่อยู่อีกครั้ง เมื่อเอเดรียนพบว่าคนรักที่เขาตามหาอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก แถมยังมีลูกสาวตัวน้อยวัยกำลังน่ารัก เจ้านายจึงเช่าทาวน์โฮมทั้งซอยเพื่อให้บอดี้การ์ดที่มีลูกเข้าอยู่ “ทำไมต้องย้ายล่ะครับ” แกรี่หรือต้าร์วัยแปดขวบเงยหน้าถามพ่อที่เดินไปเดินมาระหว่างในบ้านกับรถหกล้อนอกรั้ว ในขณะที่ตัวเองเก็บของเล่นใส่ลังเตรียมไปบ้านใหม่ “ไปคอยอารักขาคุณหนูไข่มุกกับแม่ของน้อง” เกร็กเดินมานั่งลงข้างๆ ลูกชาย มันเป็นคำสั่งเร่งด่วนจนเขายังไม่มีเวลาอธิบายให้ลูกฟัง “น้องไม่มีพ่อเหรอครับ” “น้องเพิ่งเจอพ่อ ท่านประธานเอเดรียนไง” “อาเอเดรียน...แล้วพ่อคนเดิมทุบตีน้องกับแม่เหรอครับ” ต้าร์เรียบเรียงความคิด เด็กชายนึกว่าน้องไข่มุกมีชะตาชีวิตเหมือนตัวเองที่อยู่กับแม่ และมีพ่อใจร้าย “ไม่ใช่ครับ น้องอยู่กับแม่แค่สองคนมาตั้งแต่เกิด แล้วตอนนี้แม่กับน้องก็กำลังตกอยู่ในอันตรายจากคนที่คิดจะทำร้าย ท่านประธานก็เลยให้พวกการ์ดมาคอยดูแล ต้าร์ว่าน้องน่าสงสารไหม น้องเป็นเด็กตัวนิดเดียว ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เลย” ต้าร์ฟังปุ๊บก็รู้สึกสงสารน้องขึ้นมาทันที “น่าสงสารครับ” “ต้าร์รักท่านประธานไหมครับ” “รักครับ อาเอเดรียนใจดี อาวัฒน์ก็ใจดี พ่อก็ใจดี” ต้าร์ยิ้มให้พ่อพร้อมกับโผเข้ากอดเกร็ก ช่วงปีแรกที่ต้าร์มาอยู่กับเกร็ก ชายหนุ่มต้องพึ่งพาจิตแพทย์เรื่องการเยียวยาสภาพจิตใจลูก จนต้าร์กลับสู่ความมีชีวิตชีวาตามประสาเด็ก การพูดการจาก็อ่อนน้อมมากขึ้น “คุณหนูไข่มุกเป็นลูกของอาเอเดรียน ต้าร์จะเล่นกับน้อง จะดูแลน้องได้ไหม” “ได้ครับ ต้าร์จะดูแลน้องให้เองครับ โตขึ้นต้าร์ก็จะเป็นการ์ดแบบพ่อ จะยิงทุกคนที่มาแกล้งอาเอเดรียนกับน้องไข่มุกด้วยครับ” “แต่ต้าร์อย่าเล่นกับน้องแรงนะ น้องเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ต้าร์ต้องรักน้อง ทะนุถนอมน้อง ไม่เล่นเตะต่อยแบบที่เล่นกับลูกการ์ดคนอื่น เข้าใจไหม” “เข้าใจครับ ต้าร์จะรักน้อง จะแบ่งของเล่นให้น้องเล่นด้วยครับ” ต้าร์ผุดลุกขึ้นยืนตรง แล้วค้อมตัวลงแบบการ์ดรับคำสั่งเจ้านายเลียนแบบพ่อ พวกการ์ดย้ายเข้าไปอยู่ทาวน์โฮมดังกล่าวได้ไม่นาน เอเดรียนก็เคลียร์ปัญหาทุกอย่างจบ ซอยที่เคยคึกคักก็กลับมาเงียบเหงาอีกครั้ง ครอบครัวการ์ดย้ายกลับไปอยู่อาคารที่พักในอาณาเขตโรงแรม ส่วนตัวเอเดรียนเข้าพิธีแต่งงานกับเพชรพลอย และพาลูกกับเมียไปๆ มาๆ ระหว่างอเมริกากับประเทศไทย ตอนไข่มุกอายุห้าขวบกว่า เด็กหญิงมีน้องชายมาที่ไทยด้วยหนึ่งคน ชื่อลูกทะเล การมีน้องชายซนๆ ทำให้ไข่มุกมีภาวะความเป็นผู้นำสูงขึ้น ปุ ปุ เมล็ดแตงโมพุ่งจากปากสีชมพูเล็กๆ ของเด็กชายวัยขวบครึ่งไปติดอยู่บนหน้าของพ่ออย่างแม่นยำ “น้าหยกบอกว่า อีสุกอีใสเป็นโรคติดต่อ” ปุ ปุ ปุ ฟู่ คราวนี้เมล็ดแตงโมพุ่งไปติดที่หน้าน้องไข่มุกอีกครั้ง แต่ล็อตสุดท้ายมันไปพร้อมน้ำลายด้วย คราวนี้น้องไข่มุกหมดสนุก ไม่ประทับใจกับสิ่งที่น้องทำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD