ความรักเหมือนเส้นขนาน

1065 Words
กลีบกุหลาบถูกดึงออกมาวางบนโต๊ะกลีบแล้วกลีบเล่า แล้วก็เหลือสี่กลีบสุดท้าย ทั้งสองมองตากัน แกรี่ยิ้มอย่างเป็นต่อ คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว “ต่อสิครับ” เขายักคิ้วให้เธอ “รัก” ชายหนุ่มมองตากลมโตที่แวววาวเจ้าเล่ห์ ใจคอเริ่มไม่ดี “รัก” เขาขมวดคิ้วหน้าตาบึ้งตึง เมื่อกี้รัก ตอนนี้ก็รักอีก เหลือสองกลีบสุดท้ายที่ยังไม่ถูกเด็ดและเขาโดนเธอโกงซึ่งหน้า คำตอบมันต้องออกมาว่า ‘ไม่รัก’ สิ “รักใครอยู่หรือเปล่าคะ ถึงทำหน้าไม่พอใจ” ไข่มุกลอยหน้าลอยตาถาม อยากจะบอกว่า ‘รักคนขี้โกง’ แต่ก็ไม่กล้า จึงได้แต่นิ่งเฉยให้เธอเล่นจนจบเกม เดี๋ยวค่อยโวยวาย “รัก!!! เป็นไงคะ มุกไม่ได้โกงพี่เลยนะ” เธอยิ้มร่า ส่วนเขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดีนะที่เมื่อกี้ไม่ได้ตอบว่า ‘รักคนขี้โกง’ ออกไป เพราะน้องไม่ได้โกง แต่! มันยังเหลืออีกกลีบ ซึ่งเธอจะพูดว่า ‘รัก’ หรือ ‘ไม่รัก’ ออกมาก็ได้ “โตเป็นสาวแล้วต้องไม่โกงนะครับ” แกรี่พูดเสียงเป็นการเป็นงาน ข่มน้องอยู่ในที ไข่มุกเม้มปากกลั้นขำจนตาหยีเป็นสระอิ แกรี่ยิ่งมองยิ่งไม่ไว้ใจ หน้าดำคร่ำเคร่งยิ่งกว่าเดิม “ไม่โกงหรอกค่ะ มุกไม่เคยผิดสัญญากับพี่ต้าร์” “แล้วทำไมทำหน้ามีพิรุธ” “ไม่เปลี่ยนผลลัพธ์ แต่มุกแอบเปลี่ยนโจทย์ให้กลับมาเป็นนิยายโรมานซ์ฉบับเช็คสเปียร์แล้ว จูเลียตจะรักโรมิโอไหม และนี่คือคำตอบของเรา” แกรี่กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ไข่มุกเด็ดกลีบสุดท้ายออกมา “ไม่รัก” แกรี่รีบคว้าก้านกุหลาบที่เหลือเพียงเกสรมาพินิจพิจารณาอย่างไม่ยอมแพ้ มุมปากที่โค้งลงอย่างบึ้งตึงค่อยๆ หยัดยกเป็นรอยยิ้ม เขาดึงกลีบเล็กๆ เท่าปลายเล็บออกมาให้เธอดู “นี่คือคำตอบสุดท้าย” เขาไม่ได้เอ่ยคำนั้นออกมา และพอเห็นเธอทำท่าจะอ้าปากพูดจึงรีบสกัดไว้ “และพี่ก็ขอใช้สิทธิ์เปลี่ยนตอนอวสานจากโศกนาฏกรรมแห่งความรัก ให้เป็นสุขนาฏกรรมระหว่างโรมิโอกับจูเลียตในฉบับของพี่” แต่งนิยายของตัวเองจบ แกรี่ก็เอื้อมไปหยิบเฟรนช์ฟรายด์อวบๆ ความยาวประมาณห้านิ้วขึ้นมา “เล่นเกมพี่บ้าง” เขาซ่อนรอยยิ้มกรุ้มกริ่มไว้ภายใต้ใบหน้ามึนตึงหน่อยๆ “แบบเกมกินเส้นสปาเกตตีคนละข้างน่ะเหรอ แต่นี่มันสั้นไปนะ” ไข่มุกมองหน้าเขาเป็นคำถาม แค่เอาปากงับคนละข้าง จมูกโด่งๆ ของทั้งสองก็แทบจะชนกันแล้วไหม “พี่มีวิธี เร็ว เรามาทำให้ไอ้โต๊ะนั้นอกแตกตายไปเลยดีกว่า มันจ้องน้องมุกมานานแล้ว” เขาตวัดหางตาไปทางโต๊ะนั้น แล้วก็เห็นว่าสายตาสองคู่ยังคงมองอย่างไร้มารยาท บางทีการกระทำบางอย่างก็เจ็บปวดกว่าการโดนเสยด้วยหมัด กระทืบด้วยเท้า ชกที่ใต้เข็มขัด หรือเอาสันมือสับบนท้ายทอย แถมได้ใกล้ชิดจูเลียตของเขาด้วย แกรี่กัดเฟรนช์ฟรายด์ข้างหนึ่ง แล้วขยับอีกข้างไปที่ริมฝีปากอิ่ม ไข่มุกลังเลเล็กน้อย แต่หางตาของแกรี่ที่เหลือบไปทางโต๊ะนั้นอีกครั้งทำให้ไข่มุกนึกสนุก ทั้งสองเริ่มขบวนการเขมือบแบบตอนเด็ก คราวนี้คนที่มองไม่ได้มีแค่โต๊ะหม่อมราชวงศ์ทิวากร แต่ยังมีอีกหลายโต๊ะที่มองด้วยความเขินอาย จมูกของทั้งสองชนกันไปแล้ว แกรี่จึงตะแคงหน้าเล็กน้อย จนกระทั่งริมฝีปากของทั้งสองใกล้จะชนกัน ทุกคนก็พากันหยุดหายใจ แล้วจากนั้นบางคนก็ส่งเสียงกรี๊ดออกมาเมื่อแกรี่ยกเมนูที่ขอบริกรเอาไว้ดูก่อนขึ้นมาปิดไม่ให้ใครมองเห็น ไข่มุกรู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอมันสั่นไปหมด เธอกัดเฟรนซ์ฟรายด์ขาดก่อนที่ริมฝีปากเขาจะมาประทับบนริมฝีปากตัวเอง “มุกเพิ่งจะรู้ว่า เมื่อก่อนเราเล่นอะไรไม่เข้าท่าเลย” ไข่มุกพูดหลังจากกลืนสิ่งที่เคี้ยวลงคอ เขายังไม่ยอมผละใบหน้าออกไปไหน เฟรนซ์ฟรายด์ลงคอไปแล้วแต่เขายังคงกลืนน้ำลายด้วยความกระหายในความเสน่หา “กาลเล่นแบบเดิม แต่คนละช่วงวัย มันให้ความรู้สึกที่แตกต่าง” คำพูดเขารินรดอยู่บนจมูกเธอ ตาคมล้ำลึกบ่งบอกความรู้สึกข้างใน “ความรู้สึกของพี่ต้าร์เหมือนเดิมไหม” ที่ถามเพราะเธอไม่มั่นใจว่าตอนนี้ตนเองคิดอย่างไรกับพี่ชายคนนี้กันแน่ “สำหรับพี่...มันมากกว่าเดิม แต่...” เขาวางเมนูลง คำถามของน้องดึงสติ ดึงความผิดชอบชั่วดีของเขากลับมา “แต่อะไร...” “คอนโดฯ ของพี่ กับโรงแรมของน้องมุก มันตั้งอยู่บนคนละเส้นขนานของแม่น้ำเจ้าพระยา” เสียงของเขาแผ่วลง “ถึงแม้มันจะเป็นไปไม่ได้ แต่การได้ดูแลใครสักคน เห็นเขาเคลื่อนไหวผ่านไปผ่านมา รู้ว่าเขามีชีวิตที่ดี ปลอดภัย มันก็ทำให้พี่มีความสุขแล้ว” ไข่มุกมองลงไปยังแม่น้ำที่ตอนนี้ดำมืด ต่อให้มีแสงไฟจากอาคารบ้านเรือน ตึกสูง หรือเรือมากมายแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถลดทอนความน่าเกรงขามของสายน้ำลงไปได้เลยสักนิด มันยังคงแสดงบทบาทที่น่ากลัวต่อไป “พี่ต้าร์เห็นเรือภัตตาคารของโรงแรมมุกไหม” เธอชี้ไปยังเรือคอนช์เพิร์ลที่แล่นไปไกลลิบ “เห็นครับ ไกลลับตา แต่ก็ยังโดดเด่น งามสง่า” “บทบาทและหน้าที่ของเรือลำนั้นคือบริการลูกค้าที่ต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศริมสองฝั่งแม่น้ำระหว่างกินอาหารมื้อพิเศษ กับคนสำคัญ” “สำหรับคนสองฟากฝั่ง มันคืออัญมณีเม็ดงามที่โลดแล่นอยู่ตรงกลางระหว่างเส้นขนานสองเส้น” เขาเสริม “แต่เรือคอนช์เพิร์ลก็สามารถใช้เป็นเรือข้ามฟากได้นะคะ มันอยู่ที่คนถือพังงาว่าจะพาเรือไปทิศทางไหน” เธอหันไปหยิบกระเป๋าสะพายที่ซุกไว้ด้านหลังบนเก้าอี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD