“ผมว่าต่อจากนี้น้องมุกคงจะมาประชุมเรื่องค่ายแพทย์อาสาแทนคุณวศิน ช่วยบอกแผนกจัดสถานที่ด้วยว่าวันที่จะมีประชุมให้หาดอกกล้วยไม้สวยๆ มาประดับห้องประชุม”
“คุณไข่มุกชอบดอกกล้วยไม้เหรอคะ” เขมอัปสรทำหน้าประหลาดใจ สาวสมัยใหม่อินเตอร์ขนาดนั้นดูจะเหมาะสมกับดอกไม้ต่างชาติมากกว่า
“ครับ”
“หมอต้าร์อยากได้สายพันธุ์ไหนคะ”
“ถ้าเป็นไปได้...น้องเขาชอบ ‘ฟ้ามุ่ย’ ดอกใหญ่ๆ”
“ชื่อฟังดูเหมือนหน้ามุ่ยยังไงก็ไม่รู้นะคะหมอ”
“ฟ้ามุ่ย แปลว่าฟ้าหม่นหมอง เพราะว่ากลีบของดอกเป็นสีน้ำเงินอมม่วง สวยจนทำให้ท้องฟ้าหม่นหมองไปเลย”
เขมอัปสรอ้าปากค้าง “หมอต้าร์ให้คำจำกัดความเองหรือเปล่าคะ” วันนี้เจ้านายอารมณ์ดีจนเธอกล้าหยอกล้อ
“คุณเลขาฯ คิดว่าน้องเขาเหมาะสมกับคำจำกัดความของผมไหมล่ะ”
หมอต้าร์ตอบคำถามของเลขาฯ ด้วยการถามกลับพร้อมรอยยิ้มละลายใจที่พาเอาเธอแทบจะละลายคาเก้าอี้ อยากจะบอกหมอว่า หมอเองก็อย่าเผลอยิ้มแบบนี้ที่ไหน ขนาดเธอรู้ว่าหมอไม่ใช่คนใจดี เธอยังใจสั่นเลย
“หมอก็ควรเก็บรอยยิ้มแบบนี้ไว้ใช้กับคนสำคัญนะคะ” เขมอัปสรไม่รู้ว่าตัวเองเพ้อออกไปแล้ว
“กับคนสำคัญ ผมไม่ได้แค่ยิ้มหวาน แต่ผมหวานไปทั้งตัวเลยครับ” เขาบอกพร้อมกับลุกขึ้น และเดินเลี้ยวไปยังมุมหนึ่งของห้องซึ่งเป็นบริเวณที่มีลิฟต์ส่วนตัวเลื่อนผ่าน
“หมอออออออออ”
เขมอัปสรตกตะลึงกับคำพูดที่ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากหมอต้าร์ แสดงว่าคนสำคัญของหมอที่หัวใจเย็นชามีตัวตนอยู่จริง และคนคนนั้นก็คือเจ้าของร่องรอยบนคอหมอ คนที่หมอมิ้นต์เพียรบอกทุกคนว่าเป็นแค่พี่น้อง
*********
กลุ่มหุ่นยนต์ในคราบมนุษย์
แกรี่ : ขอโทษด้วยที่เมื่อคืนไม่ได้ไปร่วมแสดงความยินดีผับวันไนต์ของนาย
ธาดา : อุ๊ย ไม่เป็นไรครับนายท่าน
แกรี่ : วันนี้ซ้อมยิงปืนตอนสี่โมงเย็น พวกนายไปกันเลย ไม่ต้องรอ
ไทด์ : ต่อสู้ระยะประชิดพรุ่งนี้ล่ะ
กวิน : ลูกพี่เราเก่งแล้วน่า
แกรี่ : เก่งหรือชำนาญยังไงก็ต้องซ้อม ฉันขอดูคิววีไอพีก่อน ส่วนมะรืนติดเคสผ่าตัดใหญ่ตลอดช่วงบ่าย น่าจะลากยาวถึงดึก
ไทด์ : จะให้ลอกคราบฆ่าเชื้อห้องนอนที่คอนโดฯ ทองหล่อไหม
แกรี่ : ไม่จำเป็น บอกขายเลย อยากได้ค่านายหน้าเท่าไรก็บวกไป ฉันเอาแค่ราคาที่ซื้อมาร้อยหกสิบล้าน แต่พวกนายก็รวยๆ กันทั้งนั้นนี่หว่า
กวิน : โอ๊ย เอาสิเอา ว่าแต่ลูกพี่ซื้อมาสองปีเอง ตกแต่งไปสิบล้าน แต่มาใช้งานแค่หกเจ็ดครั้ง หนำซ้ำไม่เคยค้างคืนนะ
ไทด์ : นั่นสิ เปิดประตูเข้าไปยังได้กลิ่นใหม่เหมือนไม่เคยถูกใช้
แกรี่ : เยอะเกินพอแล้วสำหรับที่นั่น สุขที่กายแต่ทุกข์ที่ใจมันไม่เรียกว่าความสุข
กวิน : เชื่อว่าขนาดบวกเข้าไปอีกสิบยี่สิบล้าน ปล่อยไม่ทันข้ามวันก็ได้เจ้าของใหม่แล้ว แน่ใจนะว่าไม่เสียดาย
แกรี่ : ก็คิดซะว่าเป็นอดีตที่มีราคา และไม่น่าจดจำ
ธาดา : ข้าน้อยขอคารวะ
ไทด์ : เคาะเครื่องคิดเลขหารสามกันเลยพวกเรา ราคาคอนโดฯ ทองหล่อขึ้นพรวดๆ ว้าวๆๆๆ
แกรี่ : เมื่อสิบนาทีที่แล้วเพิ่งโทร.ไปซื้อคอนโดฯ ใหม่
ลูกน้องทั้งสามส่งสติกเกอร์ตกใจมาคนละอัน ทุกทีถ้าจะลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ แกรี่จะไปดูหลายรอบโดยมีพวกเขาไปเป็นหมู่คณะ
กวิน : ที่ไหน
แกรี่ : ตรงห้างเปิดใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชั้นเพนต์เฮาส์ มีห้องชุดสองชั้น ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้รอบทิศทาง
ไทด์ : ราคา?
แกรี่ : 450 ล้าน พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที
เกิดคำถามที่ว่าใครอยากได้ ในเมื่อแกรี่ปิดประตูใส่หน้าผู้หญิงทุกคนแล้ว คอนโดฯ ก็ไม่จำเป็น เพราะเจ้านายเขาอาศัยอยู่บนเพนต์เฮาส์ของโรงพยาบาล ส่วนไข่มุกก็อยู่บนเพนต์เฮาส์ของโรงแรมริมแม่น้ำที่วิวแพงที่สุดในโค้งน้ำ
แล้วก็มีหน่วยกล้าตายคนหนึ่งถามขึ้น...ด้วยคำถามที่ดูคลุมเครือ
ไทด์ : วีไอพีชอบใช่ไหม
แกรี่ : เปล่า
กวิน : แสดงว่าคนที่ซื้อคือ...
แกรี่ : บ้านน้องอยู่ฝั่งขะโน้น บ้านพี่อยู่ฝั่งขะนี้
กวิน : !!!!!!!!!!
ไทด์ : เพลงนี้ป้าข้างบ้านฉันเปิดทุกวัน
ธาดา : สาบานนะว่านี่ลูกครึ่งยุคนี้
แกรี่ยิ้มอารมณ์ดี เขาปล่อยให้ลูกน้องยืนงงอยู่ในดงไลน์ ส่วนตัวเองออกจากการสนทนา มองนาฬิกาข้อมือแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน ร่างสูงหย่อนตัวลงนั่งบนขอบเตียงข้างคนที่นอนหลับสบาย
“น้องมุก” เขาเขย่าแขนเธออยู่สองสามที เปลือกตาบางก็ขยับยุกยิก แล้วแพขนตางอนหนาก็ถูกยกขึ้นมา ตาขาวของเธอแดงด้วยเส้นเลือดฝอย บ่งบอกว่ายังต้องการนอนต่อ เมื่อคืนเธอดื่มไวน์แก้วแล้วแก้วเล่าระหว่างนอนแช่น้ำอุ่นจนดึก ตอนเช้าก็รีบมาเข้าประชุมแบบมึนๆ ร่างกายจึงยังต้องการพักผ่อน
เธอมองห้องที่แปลกตา นึกลำดับเหตุการณ์ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน
“ห้องพี่ ที่โรงพยาบาล” เขาเป็นคนให้คำตอบเอง
“ห้องพี่ต้าร์เหรอ!!!” ไข่มุกลุกพรวด พลันนั้นก็รับรู้ถึงความหนักอึ้งในหัว
“ครับ ตกใจอะไร แล้วนี่น้องมุกเป็นยังไงมั่ง หายมึนหัวหรือยัง”
ไข่มุกลำดับเหตุการณ์อีกครั้ง จนจำได้ว่าเธอมึนหัวจากอาการเมาค้างและแกรี่พาขึ้นมานอน
“หายแล้ว เหลือแต่ปวดหัว”
“แย่กว่าเดิมอีก พี่สั่งอาหารขึ้นมาให้กินนะครับ แล้วจะจัดยาให้”
“พี่ต้าร์จัดยามาก็พอ มุกจะเอากลับไปกินที่โรงแรม เสร็จแล้วจะได้นอนต่อยาวๆ”
“ไหวเหรอ นอนที่นี่ก่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวพี่ไปใช้อีกห้อง กลับไปที่โรงแรมน้องมุกก็อยู่คนเดียว พี่เป็นห่วง”