จีบสาวต้องพกสมองไปด้วย

1095 Words
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป “วันนี้เรือคอนช์เพิร์ลข้ามฝั่งมาเร็วกว่าปกตินะฉันว่า ทุกทีจะมาสี่ทุ่มหลังจากส่งลูกค้ากลับขึ้นฝั่ง” อ้อมพยักพเยิดให้เดซี่มองไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็น เรือลำใหญ่ค่อยๆ ลอยลำข้ามมา แม้จะยังไม่เปิดไฟประดับ แต่เรือลำดังกล่าวก็งามสง่าไปอีกแบบหนึ่ง “เอ๊ เหมือนจะตรงมาทางโรงแรมเรานะ ไม่ได้ไปคอนโดฯ ตรงห้างนั้นแบบทุกวัน” เดซี่ตั้งข้อสังเกต “นั่นน่ะสิ” บรรดาการ์ดที่กรูกันไปยังท่าเรือยืนยันสิ่งที่ประชาสัมพันธ์สาวกำลังสงสัยได้ทันที ทั้งสองได้แต่ชะเง้อมองความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นด้วยความแปลกใจ สักพักการ์ดที่วิ่งไปก็เดินกลับมา ในอ้อมแขนมีกล่องกระดาษสวยหรูสีขาวประทับโลโก้แบบเดียวกับเรือคอนช์เพิร์ล พวกเขาขนกล่องเดินไปด้านข้างตัวอาคาร ซึ่งจะเป็นห้องโถงว่างๆ เที่ยวแล้วเที่ยวเล่าที่การ์ดเดินไปมาระหว่างเรือและห้องนั้น กระทั่งเรือคอนช์เพิร์ลออกจากท่ากลับไปยังโรงแรมฝั่งตรงข้าม หัวหน้าแผนกแต่ละแผนกก็ถูกเรียกขึ้นไปยังห้องประชุมด้านบน หม่อมราชวงศ์ทิวากรมองหัวหน้าแผนกทั้งยี่สิบห้าคนของตนเองด้วยสีหน้านิ่งเฉย พนักงานเหล่านี้เป็นคนที่เขารับเข้ามาทำงานด้วยตัวเอง โรงแรมนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่คือหม่อมเจ้าทัดเทพ มันเคยเป็นที่หนึ่งบนผืนน้ำ แต่หลังจากโรงแรมคิงดอม ออฟ ไดมอนด์ผุดขึ้นมาที่ฝั่งตรงข้าม โรงแรมของเขาก็กลายเป็นรอง แต่นั่นมันเป็นกลไกของธุรกิจ ไม่มีอะไรจะอยู่ยั้งยืนยงเป็นที่หนึ่งค้ำฟ้า แต่ปัญหามันอยู่ที่ผู้สืบทอดธุรกิจ หม่อมราชวงศ์ทิวากรใช้ชีวิตอย่างเสเพลอยู่ที่ออสเตรเลียตั้งแต่เรียนปริญญาตรี กว่าจะเรียนจบปริญญาโทก็อายุยี่สิบเจ็ดปี สำมะเลเทเมาต่ออีกปีก็ถูกบิดาตามตัวกลับมาเรียนรู้งาน เพราะหม่อมเจ้าทัดเทพต้องการเอาเวลาไปลงกับธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังและสุราที่เริ่มทำมาสักระยะและกำลังไปได้ดี ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดและคิดว่าพนักงานเก่าๆ ควบคุมยาก หม่อมราชวงศ์ทิวากรจึงใช้วิธีบีบและกดดันให้พนักงานเก่าลาออก และรับคนใหม่ที่ผ่านการฝากฝังจากคนรู้จักเข้ามา การบริหารที่เอาแต่ใจ ประกอบกับธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่อยู่ในช่วงขาลง (ยกเว้นโรงแรมฝั่งตรงข้าม) ทำให้โรงแรมของเขาเริ่มซบเซา หุ้นถูกเทขาย รวมถึงรายได้ที่ลดลงจนน่าใจหาย พนักงานสองพันห้าร้อยคนที่เขาเอาไปคุยโว เป็นแค่ความสำเร็จในอดีตที่เคยเฟื่องฟู ส่วนตอนนี้... “พนักงานของเรามีทั้งหมดกี่คน” หม่อมราชวงศ์ซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะประชุมเอ่ยถามเลขาฯ “หนึ่งพันสองร้อยห้าสิบคนค่ะบอส” เมญ่าเลขาฯ สุดแซ่บตอบฉะฉาน “ผมมีขนมอยู่สองพันห้าร้อยชิ้น” ทุกคนในห้องประชุมนิ่งฟัง ไม่ค่อยไว้ใจเท่าไรว่าเจ้านายจะมาไม้ไหน หม่อมราชวงศ์ทิวากรไม่ใช่คนใจกว้าง ทุกอย่างต้องมีข้อแลกเปลี่ยน “พวกคุณรู้จักเมนูขนมที่ชื่อว่า ‘ความลับของไข่มุก’ ไหม” “รู้จักค่ะ/ครับ” “ผมก็คิดว่าพวกคุณต้องรู้จัก เพราะมันเป็นเมนูที่โด่งดังของโรงแรมนั้น” เขาชี้ไปยังทิศทางของโรงแรมคิงดอม ออฟ ไดมอนด์ “เจได” “ครับ” หัวหน้าแผนกพัสดุขานรับ “เดี๋ยวคุณลงไปดูแลที่ห้องโถงด้านล่างนะ ขนมทั้งหมดอยู่ที่ห้องนั้น” “ครับ” “ส่วนพวกคุณ” เขากวาดตามองบรรดาหัวหน้าแผนก “ไปรับขนมที่เจไดให้ลูกน้องของคุณคนละสองกล่อง แผนกไหนมีหนึ่งร้อยคน ก็รับไปสองร้อยกล่อง” “ค่ะ/ครับ” บรรดาหัวหน้าแผนกพากันยิ้ม นี่เป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่หม่อมราชวงศ์ทิวากรใจป้ำ ซื้อขนมราคาแพงเลี้ยงพนักงาน และคนละสองกล่องอีกต่างหาก ทุกคนคิดตรงกันว่ามาอีหรอบนี้แม่น้ำเจ้าพระยาคงจะกลายเป็นน้ำเชื่อม ว่าที่ CEO โรงแรมนี้น่าจะกำลังจีบว่าที่ CEO ฝั่งโน้นแน่ๆ “มอดี้” “คะ” หัวหน้าแผนกการเงินขานรับ “อีกสองวันเงินเดือนจะออก คุณหักเงินของทุกคนคนละเจ็ดร้อยบาทด้วยนะ” เขาสั่งเสียงเข้มเพื่อไม่ให้ใครกล้าท้วง “เอ่อ...” เมญ่าเลขาฯ ทั้งในห้องทำงานและเลขาฯ บนเตียงเป็นหน่วยกล้าตาย แต่ก็ถูกขัดจังหวะ “แค่เดือนเดียว หวังว่าคงไม่มีคำถามนะครับ ผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้” หม่อมราชวงศ์ทิวากรตวัดสายตาไม่พอใจใส่เมญ่าที่อาจเอื้อมส่งเสียงออกมาหนึ่งแอะ จากนั้นก็เดินไปเปิดม่านมองไปยังโรงแรมฝั่งตรงข้ามระหว่างรอให้พนักงานเดินออกจากห้องประชุม “เกิดบ้าอะไรขึ้นมาถึงทำแบบนี้” เสียงสุขุมทุ้มลึกดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ “ท่านพ่อ” หม่อมราชวงศ์ทิวากรอุทาน ก่อนจะหันขวับกลับมา และพบว่าหัวหน้าพนักงานยังไม่มีใครออกจากห้อง ทุกคนยืนอย่างสำรวมอยู่หลังห้อง ด้านหน้าเป็นหม่อมเจ้าทัดเทพซึ่งยืนทำหน้าถมึงทึงอย่างไม่พอใจ “ทำทุกอย่างเหมือนที่อาทิตย์สั่ง แต่...” หม่อมเจ้าทัดเทพพูดกับหัวหน้าพนักงาน และหันมาจ้องหน้าบุตรชาย “จะไม่มีการหักเงินเดือนเกิดขึ้นที่นี่” ท้ายเสียงลงน้ำหนักอย่างเด็ดขาด “ท่านพ่อ” หม่อมราชวงศ์ทิวากรทักท้วง “แยกย้ายไปรับขนมไปให้ลูกน้องของพวกคุณเถอะ” สิ้นคำสั่งของหม่อมเจ้าทัดเทพ หัวหน้าพนักงานต่างค้อมตัวเดินออกจากห้องไป “สิ้นคิด ห่วยแตก โรงแรมที่บรรพบุรุษสร้างมากับมือไม่เคยมีเรื่องจัญไรอย่างนี้เกิดขึ้น” เขาสาดคำตำหนิใส่บุตรชาย “เราไม่เคยเอาเปรียบพนักงาน อย่าเอาความจนตรอกและความเบาปัญญาของแกไปยัดใส่มือคนอื่นให้เขาต้องรับเคราะห์” “ท่านพ่อหักหน้าผม” “หักหน้าเหรอ นี่ฉันมากอบกู้หน้าตาให้แกมากกว่า บริหารคนต้องใช้ทั้งอำนาจและบารมี ส่วนแกน่ะใช้แต่อำนาจ คนเก่าคนแก่ชั่วโมงบินสูงที่จะช่วยพยุงปีกให้แก แกก็ถือดี บอกว่าพวกเขาอีโก้เยอะ ปกครองยาก รู้มาก หัวไม่พัฒนา อยากจะมีแขนขาของตัวเอง แกก็จับพวกเขาไปแขวนเป็นที่ปรึกษา บีบกลายๆ จนพวกเขาพากันลาออก แล้วนี่แกทำกับแขนขาของตัวเอง รวมทั้งพนักงานคนอื่นๆ แบบนี้น่ะเหรอ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD