สมาชิกใหม่ในสถานที่ใหม่

1201 Words
“ลดหน่อยได้ไหม ไม่ค่อยมีเงิน นะๆ สงสารเด็กเถอะ ไม่ค่อยมีของเล่น” แม่ใช้เสียงอ่อน พลางหยิบเหรียญออกมานับ “เอ้าๆ สามสิบก็ได้ ประเดิมแล้วกัน” คนขายรีบปล่อยของ เพราะเขาเองก็ขายไม่ค่อยออก กำไรน้อยยังดีกว่าจมทุน แล้วคนขายก็เอาของเล่นใส่ถุงก๊อบแก๊บใสๆ ให้เขา แม่ยิ้มให้จ้อยน้อยๆ พลางลูบหัวทุยๆ ของเขาและจูงไปรอรถที่ป้าย พอรถเมล์มาถึงที่หมาย แม่ก็พาเขาเดินเข้าไปในซอย กระทั่งถึงรั้วสีสันสดใสแห่งหนึ่ง แม่ก็ชะเง้อคอมองเข้าไปข้างใน ขณะที่จ้อยยังตื่นเต้นกับไข่ไดโนเสาร์ ลูบคลำอย่างทะนุถนอม “เอาไว้เล่นที่บ้านนะแม่ จ้อยยังไม่แกะ” จ้อยชูถุงไข่ไดโนเสาร์และบอกกับแม่ที่ยังชะเง้อคอมองเข้าไปด้านใน “อือ” แม่ตอบโดยไม่ก้มลงมามองลูก “อยากกลับบ้านเร็วๆ จัง” จ้อยพูดกับของเล่นในมือ “จ้อยนั่งคอยแม่อยู่ตรงนี้นะ แม่ต้องไปทำงาน เดี๋ยวมารับ” เธอบอกพร้อมกับจับจ้อยมานั่งบนขอบกระถางปูนริมรั้วที่ปลูกต้นไม้ไว้ “แม่จะไปรับพวงมาลัยกับดอกไม้เหรอ” จ้อยถามประสาซื่อ “อือ เดี๋ยวมารับ แม่ฝากกระเป๋าไว้ด้วยนะ ในนี้มีน้ำกับขนม จ้อยหิวก็กินนะ” “ฮะ” จ้อยนั่งอยู่บนขอบปูนกับกระเป๋าผ้าใบใหญ่ ในมือกำถุงไข่ไดโนเสาร์ไว้จนกระทั่งสาย พอเที่ยงแดดร้อนจัด เด็กน้อยก็ยังไม่หาที่หลบแดด ไม่ยอมไปไหน กลัวแม่มาแล้วไม่เจอ เขาหยิบขนมและน้ำดื่มออกมากิน จึงเห็นว่าในกระเป๋ามีเสื้อผ้าของตนใส่มาด้วย แต่เด็กห้าขวบไร้เดียงสาเกินกว่าจะรู้เรื่องรู้ราว ถุงก๊อบแก๊บในมือเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อแต่เขาก็ไม่ยอมเก็บรวมกับเสื้อผ้า ทั้งรักและภูมิใจกับของเล่น โดยเฉพาะเวลาที่มีคนเดินผ่านและมองมายังของเล่นของเขา เวลาผ่านไปจนบ่ายและเย็น เมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนสีและไฟบนรั้วสว่างขึ้น น้ำตาของเด็กน้อยก็ไหลลงมาเป็นทางแต่ไร้เสียงร้อง มากกว่าความเจ็บปวดที่ถูกทุบตีโดยพ่อเลี้ยง ก็คือการที่แม่ของเขาไม่กลับมาจากทำงาน เขารู้สึกเป็นห่วงแม่ รู้สึกเคว้งคว้าง รู้สึกกลัว รู้สึกมืดแปดด้าน มือที่กำถุงไข่ไดโนเสาร์ไว้ยกขึ้นปาดน้ำตา จนกระทั่งคนที่อยู่ด้านในรั้วออกมาเห็นเขา จ้อย...หนึ่งในเด็กน้อยผู้น่าสงสาร ที่กลายเป็นสมาชิกคนใหม่ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ********* หนึ่งเดือนหลังจากนั้น ชีวิตของจ้อยพลิกผันอีกครั้งเมื่อมีชายหนุ่มในชุดสูทสองคนกับหญิงอาวุโสกว่าเวียนมาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหลายครั้ง ทั้งสามเข้ามาผูกมิตรกับเด็กชาย แต่จ้อยหวาดระแวงกลัวว่าพวกเขาจะพาตนเองออกไปจากที่นี่ เหมือนกับที่เด็กคนอื่นก้าวออกไปกับผู้ใหญ่แปลกหน้าและไม่กลับมาอีก เด็กเกือบทุกคนดีใจที่จะได้ก้าวออกไปมีชีวิตใหม่ ยกเว้นจ้อย “ไม่ไปฮะ เดี๋ยวแม่มาไม่เจอ” จ้อยปฏิเสธเมื่อหญิงอาวุโสในอาภรณ์ที่ดูแพงเกลี้ยกล่อมเขาอย่างสุภาพ “ไปอยู่กับพ่อนะ พ่อจะดูแลลูกเอง” เกร็กซึ่งนั่งยองๆ อยู่ตรงหน้าเด็กชายที่หน้าโขกออกมาจากพิมพ์เดียวกับตัวเองเอ่ยเสียงอ่อน จ้อยมองฝรั่งแปลกหน้าในชุดสูทอย่างไม่ไว้ใจ เด็กน้อยเบี่ยงตัวหลบมือหนาที่เอื้อมจับไหล่สองข้างของตน “ไม่ไป ไม่อยากมีพ่อแล้ว พ่อตีแม่ เตะจ้อย” ตอบเสียงกระชาก แววตาของเด็กน้อยดูหวาดระแวงกับคำว่า ‘พ่อ’ “พ่อคนนี้ใจดีมาก จะรักจ้อย ไม่ดุไม่เตะไม่ต่อย ไม่ทำร้ายจ้อย” เกร็กพูดเสียงสะอื้น ไพล่คิดถึงชะตากรรมที่ลูกชายต้องพบเจอมาก็น้ำตาซึม รู้สึกเจ็บในอก หดหู่จับขั้วหัวใจ “ไปกับอานะ” ชายหนุ่มคนไทยในชุดสูทพูดไปในทำนองเดียวกัน “รอแม่ แม่ไปทำงานยังไม่กลับ” จ้อยยังคงใช้โทนเสียงขับไล่แขก “แม่ของจ้อยเขียนจดหมายบอกพ่อ ให้พ่อคนนี้มารับจ้อย” เกร็กชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างไม่ละความพยายาม “พ่อคนนี้ไม่เหมือนพ่อคนที่ทุบตีจ้อยนะ” “ไม่ไป” จ้อยปฏิเสธแล้ววิ่งออกจากห้องไปด้วยความกลัวว่าจะถูกพรากไปจากสถานที่ที่คิดว่าแม่จะมารับ “คุณมาเล่นกับลูก มาทำความคุ้นเคยให้แกสนิทสนมไว้ใจมากกว่านี้ดีกว่าเกร็ก” ณวัฒน์บอกกับเกร็ก ณวัฒน์เป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนที่อเมริกาของเอเดรียน ผู้เป็นเจ้านายของเกร็ก เอเดรียนให้เพื่อนซึ่งกลับมาทำธุรกิจเอเจนซี่ท่องเที่ยวที่ตนเองก็มีหุ้นในนั้นเป็นผู้ประสานงานกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พร้อมทั้งขอให้พรรณราย มารดาของตนเดินทางมาพร้อมกับเกร็ก บอดี้การ์ดของเขา เพื่อแสดงหลักฐานทางการเงิน หลักแหล่งที่อยู่ในไทย ความเป็นคนไทยเตรียมไว้เผื่อมีปัญหาในการขอรับตัวลูกชายของเกร็ก ทั้งที่ในกระเป๋าผ้าของจ้อยมีจดหมายที่แม่ของแกได้เขียนบอกไว้ว่าพ่อตัวจริงของจ้อยคือใคร พร้อมกับแนบนามบัตรของเกร็กและรูปถ่ายที่เคยถ่ายด้วยกันไว้ด้วย ในจดหมายฉบับนั้นมีข้อความเขียนถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าให้ช่วยติดต่อพ่อของแกตามนามบัตรให้มารับตัวลูกชายไปเลี้ยง เนื่องจากตนไม่สามารถเลี้ยงลูกได้อีกต่อไป ด้วยเหตุผลสองประการคือสามีใหม่ทำร้ายจ้อยและความอัตคัดขัดสน เมื่อหกปีก่อน เกร็กเดินทางมาประเทศไทยกับเอเดรียนและพรรณรายเพื่อดำเนินการซื้อที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อสร้างโรงแรม พอเสร็จธุระ พรรณรายก็ชวนพวกเขาไปเชียงใหม่ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิด ช่วงเวลาที่เกร็กได้พักผ่อนส่วนตัว เขาบังเอิญได้พบฟองจันทร์ สาวเชียงรายที่มาทำงานเป็นสาวเสิร์ฟในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน เกร็กชวนฟองจันทร์ไปใช้ชีวิตที่อเมริกันด้วยกัน แต่เธอปฏิเสธ เขาจึงบอกกับเธอว่าหลังจากนี้จะเพียรบินมาหาเธอเมื่อมีเวลา และในอนาคตเขาจะต้องมาประจำที่ประเทศไทยหลังจากโรงแรมแล้วเสร็จ เขาวางแผนที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเธอ ก่อนบินกลับไปเขาให้เงินเธอไว้ใช้ก้อนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้ สามเดือนผ่านไปเขาบินกลับมาหาเธออีกครั้ง สอบถามจากเพื่อนของเธอที่ร้านอาหารก็พบว่าฟองจันทร์ลาออกไปแล้ว เขาเดินทางไปเชียงรายเพื่อตามหาเธอแต่ก็ไม่พบ และไม่ว่าจะเดินทางมาไทยกี่ครั้ง เกร็กก็ตามหาเธอตลอด แต่ก็ไร้เบาะแส จนกระทั่งเขาได้รับการติดต่อจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อเดือนก่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD