ตัดมาที่แดนชลและแดนไตร
สองพี่น้องได้ตกลงใจแล้วว่าจะตามหาน้าสาวให้เจอเพื่อมารับมรดกตามความประสงค์ของมารดาผู้ล่วงลับไปแล้วและตามสิทธิที่ควรจะเป็นของเธอ
ด้านแดนชล
สายเรียกเข้า
แดนชล: ได้ความว่าไง
ปลายสาย: พบผู้หญิงวัยไม่น่าจะไม่เกิน 50 ปี อยู่กับหญิงชราคนนึงครับ ผู้หญิงคนนั้นชื่อพิมพ์ครับ หน้าตาละม้ายคล้ายในรูปมากเลยครับ รู้สึกว่าเธอจะไม่ค่อยสบายด้วยครับ
แดนชล: ดีมาก ตามต่อไปได้ความคืบหน้ายังไงรายงานผม
ติ๊ด แดนชล กดวางสาย
ด้านแดนไตร
@สวนสาธารณะ
"หวัดดีเพื่อน นัดฉันมาเดทเหรอ" พิทยาแกล้งหยอกตามประสา
"ทะลึ่งล๊ะ กุซีเรียส นั่งก่อนซิ" แดนไตรเชื้อเชิญเพื่อนนั่งลงข้าง ๆ พร้อมกับยื่นเครื่องดื่มกระป๋องเย็นเฉียบให้
"โอ.. มีเลี้ยงเครื่องดื่มด้วยเว๊ย น่าจะหนักเอาการ"
"เออ หนักอยู่ อะนี่มึงช่วยค้นประวัติผู้หญิงคนนี้ให้กูหน่อยว่าเป็นใคร มาจากไหน เคยเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลหรือเปล่าอะไรประมาณนี้"
"ใครว๊ะ? หน้าตาสวยจัด รูปร่างก็คุณหนูคุณนายชัด ๆ เพียงแต่รูปปัจจุบันเหมือนป่วย"
"เออ รีบไปหาข้อมูลมาเถอะ อย่ามัวมาพิจารณารูปอยู่เลย"
"ว๊ะ ไอ้นี่นิ่มึงใช้กุเสร็จแล้วถีบหัวส่งเลยนะมึง มึงได้กุแล้วทิ้งใช่มั๊ย?"
"โว๊ะ ไอ้นิ่ พูดเป็นเล่นไปกุขนลุก ไปได้แล้ว กุจะรอฟังข่าว ฝากด้วยนะเพื่อน"
"อือ สำหรับมึงได้อยู่แล้ว รอฟังข่าวได้เลย บาย"
"อือ บาย เดินทางปลอดภัย"
________________________
หนึ่งปีผ่านไป
วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปต้องตาหนึ่งในสามสาวของกลุ่มที่ย่างก้าวเข้าสู่วัยยี่สิบปี
"วันเกิดปีนี้ แกจะจัดที่ไหน?" นุชธิดายิงคำถามขณะนั่งเล่นที่สวนหย่อมในมหาวิทยาลัย
"จัดที่บ้านไร่น่ะ แกไปด้วยนะ เตยด้วยนะ" ต้องตาตอบเพื่อนรัก
"ถ้าไม่มีอะไรซีเรียสฉันจะไปนะ" ใบเตยกล่าว
"เออ ฉันเข้าใจ แม่ว่าที่สัตวแพทย์หญิงใหญ่" ต้องตาแกล้งเย้า
"มันฟังดูแปลก ๆ ว่ะ ขนลุก เอาแบบธรรมดา ๆ ก็พอ" สองสาวที่ฟังอยู่หัวเราะขึ้นพร้อมกัน เพราะขำในความนาง
@วันเกิดต้องตาที่บ้านไร่
ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้พร้อมสรรพด้วยฝีมือคู่หมั้นของสาวเจ้า
"สุขสันต์วันเกิดนะลูกสาว ยี่สิบแล้วนะ จะปีนต้นไม้เป็นลิงค่างไม่ได้นะ คุณแม่ขอ" คุณนายตรีทิพย์ว่าพร้อมกับสวมสร้อยคอทองคำขาวพร้อมกับล็อคเก็ตที่ทำจากทองคำขาวล้อมเพชรข้างในเป็นรูปของเธอและสามีที่เสียชีวิตไปแล้ว เธอเปิดล็อคเก็ตให้ลูกสาวดูพร้อมกับพูดว่า
"นี่คือสิ่งเตือนใจว่าหนูจะเป็นที่รักของคุณแม่กับคุณพ่อตลอดไป ถึงคุณพ่อจะไม่อยู่กับเราแล้วแต่แม่เชื่อว่าคุณพ่อดูเราอยู่บนนู๊น" พร้อมกับชี้ไปข้างบน
"ขอบคุณค่ะคุณแม่ หนูชอบมากเลยค่ะ คุณพ่อหล่อจัง หนูรู้ละว่าหนูหน้าตาดีเหมือนใคร" คนลูกพูดกลั้วหัวเราะ ทำให้บรรยากาศซึมเศร้าในงานกลับมารื่นเริงด้วยเสียงหัวเราะอีกครั้ง
หึ่.. "กำลังจะซึ้งอยู่แล้วเชียว” คุณนายตรีทิพย์เปรย พร้อมกับมองบนเงยหน้าหัวเราะกับลมกับฟ้า แต่หางตามีน้ำใส ๆ เอ่อคลออยู่หางตา
"พี่ก็ขอให้เรามีความสุขมาก ๆ เข้มแข็ง เติบโต กล้าที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต มันถึงเวลาแล้ว" ต่อพงษ์พูดพร้อมกับหยิบบางสิ่งใส่มือให้น้องสาวสุดที่รัก ต้องตาก้มมองดูในมือตนเองพบเป็นกุญแจรถยนต์ยี่ห้อหรูแล้วเงยหน้ามองคนพี่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ
"พี่ต่อ" ฮือ.... ต้องตาพูดไปร้องไห้ไป
"อ้าว...ร้องไห้ทำไมยัยน้อง!?" คนพี่ทั้งตกใจและสงสัยในคราวเดียวกัน
"ก็หนูดีใจอยากได้มานานแล้วรุ่นนี้น่ะ...แต่หนูขับรถไม่เป็น"
"โอ๊ยยยย…หนอน้องกูเอ้ย....ก็อย่างงี้ไงถึงได้ห่วง" ต่อพงษ์ได้แต่บ่นปนขำ คนน้องมุดหน้าอกพี่ชายอย่างเขินอายอยู่อย่างนั้น ทั้งร้องไห้และหัวเราะในคราวเดียวกัน
"ต้องนี่ของฉันกับพี่ข้าว อ่ะให้ เปิดดูซิ" ใบเตยชักชวนให้เจ้าของวันเกิดเปิดดูของขวัญ
"เหรอ..ได้" ต้องตาเปิดกล่องผูกโบว์พบแผ่นกระดาษข้อความบัตรกำนัลใช้บริการฟรีอาบน้ำ ตัดขน สปาสุนัขหนึ่งปี หญิงสาว
ต้องตาเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสาวด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณนะ” ต้องตารู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจ
"นี่แกอย่ามัวแต่ซึ้ง เอานี่ของฉันให้ เปิดเลยดิ่" นุชธิดายื่นกล่องของขวัญให้เพื่อนรัก
"อืม.." ต้องตาบรรจงแกะกล่องของขวัญ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นยิ้มปริ่ม
"แกรู้ได้ไงว่าฉันหาอยู่อ่ะ" ต้องตาพูดพร้อมกับโชว์กำไลข้อมือหรูทองคำขาวขนาดกำลังเหมาะ
"ละชอบปะล่ะ?" นุชธิดาแกล้งถาม
"ยังจะมาถามอิก...ขอบใจนะแก" ต้องตาพูดพร้อมกับโผเข้ากอดเพื่อนรัก
"ดีใจที่แกชอบ ใส่บ่อย ๆ นะ มันสวยมากเมื่ออยู่บนข้อมือแก รู้มั๊ย?"
"อื้อ"
อีกด้านของหนุ่มใหญ่ที่รอจังหวะเข้าหาหญิงสาวเจ้าของวันเกิดอยู่สักพักเมื่อได้โอกาสจึงเอ่ยขึ้น
"ต้องครับ ถึงเวลาแล้วนะที่ต้องเปิดซะที" กันตพงษ์ทวงสิทธิ์
"ยังไงคะ?" ต้องตารู้สึกตื่น ๆ ใจไม่ดีบอกไม่ถูก
"ทุกคนครับอย่างที่ผมเคยบอกใคร ๆ มาแล้วว่าผมเป็นคู่หมั้นของน้องต้องตา แต่ในวันนี้ผมอยากขอร้องทุกคนช่วยเป็นพยานให้ผมหน่อยว่าน้องต้องตาเป็นคู่หมั้นของผมครับ" ต้องตายิ่งฟังยิ่งงงไปใหญ่ แต่เอ๊ะ รู้สึกเย็น ๆ ที่นิ้วนางมือข้างขวา
"พี่ขอจองแล้วนะ ห้ามให้ใครมาสวมทับล่ะพี่หวง” พร้อมกับจุ๊ฟที่นิ้วมือเรียวเล็กของสาวเจ้า
วู้ว…….เสียงโห่พร้อมกับเสียงตบมือดังกระหึ่มขึ้นอย่างมิได้นัดหมาย
"พี่กันหนูอายเค้า" ปากไม่ว่าเปล่า มือก็ตีไปที่อกหนันแน่นอย่างแรงสองสามที เปี๊ยะ.. เปี๊ยะ.. เปี๊ยะ..
"โอ้ย…เจ็บ แต่ยอม" กันตพงษ์หยอดอีกหนึ่งกรุบ
หลังจากชื่นชมของขวัญวันเกิด แล้วต้องตาจึงชวนเพื่อน ๆ มานั่งล้อมวงกับเสื่อที่ปูเตรียมไว้ และลิ้มลองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันครั้งแรกในชีวิต พอกรึ่ม ๆ ได้ที่ก็พากันนำไปเปิดฟลอร์เต้นรำกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง โดยมีบรรดาหนุ่ม ๆ เป็นกองเชียร์และระวังความปลอดภัย
ด้านนายแม่ตรีทิพย์เห็นเด็ก ๆ สนุกอยู่ในขอบเขตจึงขอตัวไปพักผ่อน
"ต่อ กัน แม่ฝากน้องหน่อยนะลูก ถ้าน้องเมาก็ดูแลด้วย ส่วนสาว ๆ ก็จัดการส่งน้องด้วย แม่ตัดจบเวลาไม่เกินห้าทุ่มนะคะ บาย" นั่นคือประกาศิตของคุณนายแม่ตรีทิพย์ สั่งความจบนางก็ขึ้นไปพักผ่อนข้างบน คงเหลือแต่สาว ๆ
วู้ว..ๆ อึ่บ ชึ่บ ๆ เสียงสามนางร้องเต้นเล่นละครกันอย่างเมามันส์ประกอบจังหวะโจ๊ะ ๆ ที่ไม่ดังจนเกินไป
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
"นังนุช อยู่...หนาย....แกหนีฉ๊านกาบบ้านแล้วช่ายม๊าย..?" เสียงต้องตาเรียกหาเพื่อนที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนเสื่อ
"หืออ ฉานอยู่นี่แก…" นุชธิดาโบกไม้โบกมือให้เพื่อนที่หันหลังให้ตัวเองคล้ายกำลังคุยกับแม่ซื้อ แต่ตัวเธอเองก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตา
"หนาย อยู่หนาย" ต้องตาถามย้ำ ใบเตยที่พอจะมีสติอยู่บ้างเพราะดื่มไปเล็กน้อยจึงช่วยประคองเพื่อนสาวให้หมุนตัวกับเข้ามาหาเพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่บนเสื่อ
"แกก็หันหน้ามาคุยกันดี ๆ ซี" ใบเตยบ่นปนขำ
"อ้าว อยู่นี่นี่เอง...เอื๊อก..หึหึ..ฉานคิดว่าแกทิ้งฉ๊านไปแล้วซ๊าอิก..เอื่อก" ต้องตาพึมพำ