“ตกใจทำไมแค่หมั้นเอง”
“หน่ะ หนูว่ามันเร็วไปนะคะพี่เดย์” ฉันยังไม่พร้อมจริงๆ สำหรับการหมั้น ก็อย่างที่ฉันบอกว่ามันเร็วเกินไป เราควรศึกษาดูใจกันให้มากกว่านี้
เมื่อฉันบอกออกไปแบบนั้นพี่เดย์ดูสลดไปเล็กน้อย เขาละสายตาไปเพ่งมองถนนต่อ จากนั้นบรรยากาศภายในรถก็เงียบสงัดลงทันที
“พี่เดย์คือหนู...”
จู่ๆ พี่เดย์ก็ตีไฟเลี้ยว แล้วขับรถมาจอดตรงข้างทาง
“พี่รักหนูพี่อยากจองหนูเอาไว้ พี่กลัวว่าวันหนึ่งจะมีคนแย่งหนูไปจากพี่” พี่เดย์พูดด้วยน้ำเสียงปนเศร้า แถมสีหน้าก็ดูจะเป็นกังวลเอามากๆ
“หนูก็รักพี่นะคะ แต่หนูอยากให้เราใช้เวลาร่วมกันนานกว่านี้ก่อน”
“แล้วเมื่อไหร่หนูจะยอมเป็นของพี่....หื้มม” พี่เดย์พูดพลางยกมือขึ้นมาประคองใบหน้าของฉันไว้ นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยแก้มของฉันไปมา
ฉันไม่ค่อยเข้าใจในคำถามของพี่เดย์สักเท่าไหร่ เป็นของเขาคืออะไรกัน
“พี่หมายถึงร่างกายหนู พี่อยากได้ทั้งตัวและหัวใจหนูให้พี่ได้ไหม”
ทั้งตัวและหัวใจงั้นเหรอ อ่า! ฉันไม่เข้าใจอีกแล้ว
“หนูมะ...อื้ออ” ทั้งไม่ทันที่ฉันจะถามอะไร จู่ๆ พี่เดย์ก็โน้มใบหน้าลงมากดริมฝีปากลงบนริมฝีปากของฉัน ฉันสะดุ้งตัวโหยงก่อนจะรีบผลักพี่เดย์ออกทันที
“พี่เดย์มากัดปากหนูทำไม” ฉันร้องโวยวายทันที เขาทำแบบนี้มันเหมือนกับ....พี่เจ้าคุณ
เมื่อฉันโวยวายขึ้นมาแบบนี้แต่พี่เดย์กลับยิ้มให้ฉัน ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัวฉันอย่างแผ่วเบา
“เขาเรียกว่าจูบไม่ใช่กัด อายุเท่าไหร่แล้วยังไม่รู้อีก”
“บะ แบบนี้คือจูบงั้นเหรอคะ”
พี่เดย์พยักหน้าตอบ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยจริงๆ ว่าทำแบบนี้คือจูบ ฉันเคยได้ยินเพื่อนพูดเรื่องนี้ เรื่องจูบ แต่ฉันไม่รู้ว่าเขาทำกันแบบไหน
งะ งั้นที่พี่เจ้าคุณเคยทำ ก็เรียกว่าจูบ ได้ยังไงอะหรือว่าพี่น้องกันจูบกันเป็นเรื่องปกติกันนะ แต่พี่ขุนรามก็ไม่เคยทำเลยนี่นา
“คิดอะไรอยู่พี่คุยด้วยก็ไม่คุยกับพี่” พี่เดย์เลิกคิ้วขึ้นเชิงสงสัย
“ปะ เปล่าค่ะ”
“งั้นตามที่พี่พูดเมื่อกี้หนูโอเคใช่ไหม”
“ค่ะๆ”
ฉันพยักหน้าตอบหงึกๆ เมื่อฉันพยักหน้าตอบพี่เดย์ก็คลี่ยิ้มกว้างทันที ก่อนจะขับรถออกและมุ่งหน้าไปส่งฉันที่บ้าน
ฉันไม่รู้หรอกว่าที่พี่เดย์พูดมันคืออะไร เขาพูดอะไร ตอนนี้ฉันกำลังว้าวุ่นกับเรื่องที่พี่เจ้าคุณเคยทำแบบนี้ ที่เขาเรียกกันว่าจูบ
กริ่งง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้ฉันที่กำลังเหม่ออยู่สะดุ้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครกันที่โทรมา
พี่เจ้าคุณ...
เบอร์ที่โทรมาคือเบอร์พี่เจ้าคุณ ซึ่งแน่นอนว่าฉันยังรับสายตอนนี้ไม่ได้ เพราะถ้ารับสายพี่เจ้าคุณต้องให้เปิดกล้องแน่ๆ
“พี่ชายหนูอีกแล้วสินะ” พี่เดย์ถามราวกับเห็นว่าเป็นเบอร์ของใครที่โทรมา
แต่มันก็คงไม่แปลกเพราะพี่เดย์รู้ว่าพี่ชายทั้งสองของฉันขี้หวงน้องสาวมากขนาดไหน
“ไม่รับใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ เดี๋ยวเจอบ่น ^_^”
“เดี๋ยวเขาก็ต้องรู้อยู่ดีเรื่องของเรา”
เมื่อคิดไปว่าพี่ชายของฉันทั้งสองคนต้องรู้สักวัน ฉันก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ รู้แบบนี้ฉันไม่ปิดบังตั้งแต่แรกจะดีกว่า ให้รู้ตั้งแต่แรกอาจจะแค่เจอบ่น แต่ตอนนี้ล่ะ จะไม่โมโหเป็นฟืนเป็นไฟกันเลยเหรอ
พี่เจ้าคุณโทรมาถี่มากทั้งแชทรัวมาแบบถึงขั้นโทรศัพท์ราคาแพงในมือของฉันแทบค้างเลย
“พี่ชายหนูมีธุระอะไรหรือเปล่า ?” พี่เดย์หันมาถามในขณะที่กำลังขับรถอยู่
ปกตินั่นแหละถ้าฉันไม่รับสายพี่เจ้าคุณจะโทรมาถี่แบบนี้ แต่สำหรับพี่เดย์เขาไม่ค่อยรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ รู้แต่พี่ชายทั้งสองคนของฉันชอบโทรมา แค่นั้น
@บ้าน...
พี่เดย์เดินมาส่งฉันในบ้านเหมือนทุกครั้ง เวลาที่พี่เดย์มาส่งฉันเขาก็จะเข้าไปในบ้านสวัสดีคุณพ่อกับคุณแม่เป็นประจำ
“อ้าวเดย์ไม่เห็นนานเชียวเป็นไงเรียนหนักเหรอลูก ^_^” เมื่อพี่เดย์เดินเข้ามาในบ้าน คุณแม่ก็ทักขึ้นก่อนที่พี่เดย์จะยกมือไหว้พวกท่านซะอีก
“สวัสดีครับแม่ ช่วงนี้ผมเรียนหนักไม่ค่อยมีเวลามาเยี่ยม แล้วนี่คุณพ่อไปไหนครับ” พี่เดย์เป็นคนพูดเก่ง แถมเขายังเป็นลูกชายเพื่อนสนิทของคุณพ่อก็ว่าได้ใจคุณพ่อไปแล้ว ยิ่งเขาพูดเก่งเข้าหาผู้ใหญ่เก่งแบบนี้ ก็ยิ่งเข้าทางคุณแม่ง่ายไปด้วยเลย
“จะคุยเรื่องหมั้นเหรอลูก งั้นเดี๋ยวรอพ่อมาก่อนนะนี่ก็คงกำลังจะกลับมาจากบริษัท”
“แม่!!นี่แม่รู้ด้วยเหรอคะ แล้วไหนเราคุยกันรู้เรื่องแล้วไงพี่เดย์”
ฉันเบิกตากว้างเมื่อคุณแม่รับรู้เรื่องหมั้น แบบนี้คุณพ่อก็คงจะรู้ด้วยแน่ๆ
“ก็พ่อของตาเดย์มาทาบทามลูกไว้แล้ว พ่อกับแม่ก็เห็นว่าลูกทั้งสองชอบพอกันอยู่ แม่เลยคิดว่าการหมั้นมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร”
“ตะ แต่หนูยังไม่พร้อม อีกอย่างหนูยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่เจ้าคุณและพี่ขุนรามเลยนะคะ”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง แม่จะคุยให้เองสองคนนั้นต้องเลิกหวงได้แล้วน้องสาวโตขนาดนี้แล้ว แถมยังมีคนดูแลดีมากๆ แบบตาเดย์ เจ้าแฝดคงเข้าใจ ^_^”
“แม่!! พี่ฝัน!! อารามกับอาคุณกลับมาแล้วค่าาา ^_^” เสียงใสๆ ของข้าวหอมดังขึ้นตั้งแต่หน้าประตูบ้านจนถึงด้านในของบ้าน
ตะ แต่เมื่อกี้ข้าวหอมว่าไงนะ พะ พี่ขุนรามกับพี่เจ้าคุณกลับมาแล้วอย่างงั้นเหรอ
เฮือก!! ทำไมฉันถึงรู้สึกกลัวแบบนี้นะ กำหนดกลับไทยมันไม่ใช่วันนี้นิ
“เอ๊ะ นี่ทำไมตาคุณกับตารามถึงกลับมาไทยไม่บอกไมากล่าวแม่สักคำ”
“อาคุณหล่อมาก แต่อารามหล่อกว่า ^_^”
“พี่เดย์คะ กลับก่อนดีกว่าค่ะ” ฉันหันไปบอกพี่เดย์อย่างร้อนรน ไม่รู้ว่าพี่ชายของฉันจะเจอกัยพี่เดย์ไหม แต่ถ้ามาถึงแล้วยังไงก็ต้องเจอสินะ แต่ตอนนี้ฉันว่าให้พี่เดย์กลับก่อนจะดีกว่า
“แต่เรื่องหมั้น....”
“เชื่อหนูนะคะ ไปค่ะ”
ฉันเอื้อมมือไปจับมือของพี่เดย์และรีบพาเดินออกจากบ้าน พยายามใช้สายตากวาดมองไปรอบๆ หวังว่าพี่ชายทั้งสองของฉันจะยังอยู่ที่โรงรถ ฉันจะได้พาพี่เดย์ไปอีกทาง ฉันกลัวจริงๆ นะ ถึงจะเตรียมใจเอาไว้แล้วก็เถอะ
“มึงเป็นใคร ปล่อยมือมันเดี๋ยวนี้เหมือนฝัน”
เฮือก....สะ เสียงพี่เจ้าคุณ