ตอนที่ 2 อดทน

1267 Words
“เงินทอนค่ะคุณลูกค้า ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะคะ” ปุยฝ้ายสาวสวยวัยยี่สิบเอ็ดปีอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของร้านอาหารญี่ปุ่นในห้างเอ่ยขอบคุณลูกค้าอย่างสุภาพ จากนั้นก็เดินเข้าไปรับลูกค้าโต๊ะอื่นต่อซึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นที่เธอทำคืองานพาร์ทไทม์ทำเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ส่วนวันจันทร์ถึงวันศุกร์ก็ไปเรียนที่มหาลัย ปุยฝ้ายสอบชิงทุนเรียนในคณะศึกษาศาสตร์ที่มหาลัยเอกชน ซึ่งตอนนี้เธออยู่ปีสามแล้ว ที่เธอเลือกเรียนมหาลัยเอกชนไม่ใช่เพราะฐานะของเธอดีแต่เพราะเป็นมหาลัยที่อยู่ใกล้บ้านและที่ทำงานเธอมากที่สุดและแม่ของเธอก็เห็นด้วยที่เธอจะให้เรียนมหาลัยนี้เพราะไม่ได้จ่ายค่าเทอมคนเป็นแม่ที่ทำอาชีพขายของที่ตลาดก็พอจะส่งเสียเธอได้ แต่พอเธอขึ้นปีสองแม่ก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน ทำเอาปุยฝ้ายถึงกับเสียศูนย์เมื่อเสียคนสำคัญในชีวิตไป และที่ทำให้ชีวิตเธอตกต่ำมากกว่าเดิมคือเธอต้องอยู่กับพ่อที่ไม่ยอมทำงานเอาแต่กินเหล้าเล่นการพนันจนเป็นหนี้ ปุยฝ้ายจึงต้องหางานทำเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนและต้องใช้หนี้แทนพ่อตัวเอง เพราะเจ้าหนี้มักจะตามมาทวงกับเธอตลอดเพราะคนเป็นพ่อบอกให้มาเอาเงินกับเธอ ในตอนแรกเธอก็ไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหารตามสั่งหรือร้านหมูกระทะหลังเลิกเรียน จนช่วงเรียนใกล้จบปีสองก็เปลี่ยนมาทำพาร์ทไทม์ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นส่วนกลางคืนของทุกวันก็ไปทำงานพีอาร์ที่ผับถึงเธอจะไม่ชอบแต่งตัวโป๊ ไม่ชอบให้ผู้ชายแตะเนื้อต้องตัวก็ต้องฝืนทำเพราะต้องหาเงินไปใช้หนี้ที่พ่อก่อไว้ แต่เธอก็ไม่เคยปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ลูกค้าลวนลามได้ง่ายๆ เมื่อไหร่ที่ลูกค้าเริ่มลวนลามเธอก็จะพยายามหาวิธีหลีกเลี่ยงโดยที่ไม่ทำให้ลูกค้าเสียอารมณ์เสีย “จะไปทำงานที่ผับต่อหรอฝ้าย” ยุภาผู้จัดการร้านอาหารญี่ปุ่นเอ่ยถามปุยฝ้ายขึ้นหลังจากเลิกงานเมื่อเห็นปุยฝ้ายกำลังตั้งท่าจะเดินไปเพราะนิสัยที่สุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตัวของปุยฝ้ายทำให้ยุภาเอ็นดูปุยฝ้ายเหมือนน้องสาวจึงทำให้ทั้งสองสนิทกันจนรู้ว่าปุยฝ้ายนั้นทำงานที่ผับด้วยเหตุผลต้องหาเงินใช้หนี้ให้พ่อ ยุภาพยายามจะให้เธอยืมเงินเพราะเห็นปุยฝ้ายต้องเรียนแล้วต้องไปทำงานกลางคืนต่อเลยเป็นห่วง แต่เพราะความเกรงใจบวกกับหนี้ของพ่อเธอนั้นเยอะพอสมควร ปุยฝ้ายจึงปฏิเสธเพราะอยากทำงานหาเงินเองมากกว่า “ฝ้ายจะกลับบ้านก่อนค่ะ พอดีจะไปเอาของที่บ้านก่อน ฝ้ายไปนะคะ” ปุยฝ้ายตอบยุภาด้วยรอยยิ้มแล้วยกมือไหว้ลายุภาจากนั้นก็เดินออกจากร้านไปยังที่จอดรถมอเตอร์ไซค์รุ่นสกู๊ปปี้สีชมพูคู่ใจที่แม่ซื้อให้เป็นของขวัญตอนเข้าเรียนปีหนึ่ง เมื่อมาถึงรถแล้วก็ขับกลับบ้านทันทีใช้เวลาไม่นานก็ถึงบ้าน ร่างบางเดินลงจากรถเข้าไปในบ้านก็ต้องชะงักเมื่อเห็นพ่อตัวเองกำลังนั่งกินเหล้าอยู่หน้าทีวีซึ่งเป็นพื้นที่โล่งของบ้านก่อนจะแยกเป็นห้องนอนสองห้อง “มาพอดีเลย เอาเงินมาให้กูหน่อยสามพัน” ปราชพ่อของปุยฝ้ายพูดกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงยืดยาวเพราะกำลังเมา “เมื่อวานฝ้ายพึ่งให้พ่อไปห้าพันนะ พ่อตกลงกับฝ้ายแล้วไม่ใช่หรอว่าจะขอแค่เดือนละห้าพันแล้วจะให้ฝ้ายหาเงินใช้หนี้ให้” ปุยฝ้ายพูดขึ้นอย่างไม่ยอมเพราะตอนที่พ่อขอให้ใช้หนี้ให้ก็ยอมตกลงกับเธอว่าจะขอใช้เงินแค่เดือนละห้าพันไม่ขอเพิ่มเพื่อให้เธอมีเงินใช้หนี้ให้เขา ทางด้านปราชเมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาวก็มองตาขวางแล้วลุกขึ้นเดินไปหาฝ้ายทำเอาฝ้ายถึงกับรู้สึกหวั่นกลัวเมื่อเห็นสายตาไม่พอใจของผู้เป็นพ่อ เพี๊ยะ ปุยฝ้ายถึงกับเซล้มเมื่อโดนผู้เป็นพ่อตบหน้าอย่างแรงจนปากแตก “อย่ามาเถียงกู มึงเป็นลูกไม่มีสิทธิ์มาทำวางอำนาจใส่พ่อ กูจะเอาอะไรมึงต้องหามาให้ หรือมึงจะเนรคุณกูงั้นหรอ ห๊ะ” ปราชพูดขึ้นเสียงใส่ปุยฝ้ายจากนั้นก็เตะที่ไหล่เธออย่างแรงด้วยความโมโหจนปุยฝ้ายล้มฟุบลงพื้นได้แต่กลั้นเสียงไม่ยอมร้องออกมาแต่น้ำตากลับคลอเบ้า มือไม้สั่นเทาด้วยความเจ็บปวดเพราะนับวันคนเป็นพ่อยิ่งตบตีเธอมากขึ้นเรื่อยๆ จนเธอคิดอยากจะหนีแต่เพราะไม่อยากถูกมองว่าเป็นลูกที่เนรคุณทิ้งพ่อแท้ๆ เธอจึงพยายามอดทนเพราะอย่างน้อยพ่อก็คือคนเดียวที่เป็นครอบครัวของเธอ “เอาเงินมา หรือมึงอยากให้กูพังห้องมึงอีก” ปราชพูดขึ้นด้วยความโมโห ทางด้านปุยฝ้ายที่กำลังพยายามกลั้นน้ำตาอดทนพยายามทำตัวเองให้เข้มแข็งยื่นมือไปหยิบกระเป๋าสะพายที่ตกตอนโดนคนเป็นพ่อตบหยิบเงินแบงค์เทาสามใบที่ตั้งใจจะเก็บเข้าบัญชียื่นให้พ่ออย่างจำยอม เมื่อเห็นลูกสาวยื่นเงินให้แล้วปราชก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจแล้วดึงเงินจากมือปุยฝ้ายอย่างเร็ว “ถ้าให้ตั้งแต่แรกมึงก็ไม่เจ็บตัวแล้ว ช่างเป็นลูกที่ประเสริฐเหลือเกิน ตั้งใจทำงานหาเงินนะลูกพ่อ” ปราชพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินออกจากบ้านไปทันทีเมื่อได้เงินแล้ว “อย่าร้องปุยฝ้าย อย่าร้อง ร้องไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เดี๋ยวอะไรๆ ก็ดีขึ้น สักวันพ่อต้องคิดได้ แกแค่ต้องอดทนพยายามเป็นลูกที่ดีให้พ่อเห็นก็พอ” ปุยฝ้ายพูดให้กำลังใจตัวเองเสียงสั่นเทา พยายามข่มตัวเองไม่ให้ร้องไห้เพราะรู้ว่าร้องไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ตั้งแต่แม่เธอเสียไปปุยฝ้ายก็ข่มใจตัวเองไม่ยอมร้องไห้เวลาเจอเรื่องที่ทุกข์ใจเพราะรู้ว่าร้องไปก็ไม่มีคนปลอบเหมือนตอนแม่อยู่ ร้องไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เธอจึงทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าคนอื่นตลอด เมื่อข่มอารมณ์ตัวเองให้สงบได้แล้ว ปุยฝ้ายก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปหยิบกล่องของขวัญเล็กๆ ใส่กระเป๋าสะพายแล้วหยิบแมสมาสวมเดินออกจากบ้านขับรถไปที่ผับที่เธอทำงาน ปุยฝ้ายเลือกที่จะเข้างานที่ผับเร็วกว่าคนอื่นเพราะต้องไปแต่งตัวที่ร้านไม่แต่งตัวมาจากบ้านเหมือนเพื่อนคนอื่น เพราะชุดทำงานพีอาร์ของเธอนั้นเป็นชุดเดรสสั้นรัดรูป เพื่อความปลอดภัยของตัวเองเธอจึงเลือกที่จะแต่งชุดกางเกงยีนส์เสื้อยืดไปทำงานก่อนแล้วค่อยไปเปลี่ยนชุดที่ร้านหลังทำงานเสร็จก็เปลี่ยนชุดเป็นกางเกงยีนส์เสื้อยืดเหมือนเดิมตลอดเพราะรู้ว่าถ้าแต่งชุดวาบหวิวกลับบ้านดึกๆ ต้องไม่ปลอดภัยแน่นอนเธอจึงเลือกป้องกันไว้ก่อนดีกว่าจะมาเสียใจทีหลัง ปุยฝ้ายใช้เวลาไม่นานก็ขับรถมาถึงผับที่เธอทำงานเมื่อจอดรถแล้วก็รีบเดินเข้าไปที่ห้องแต่งตัวสำหรับพีอาร์ทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD