ตอนที่ 21 ลาออก

1661 Words
ตอนที่ 21 ลาออก เสียงโทรศัพท์แผดดังขึ้นในเวลาเช้ามืด ขณะที่หญิงสาวกำลังนอนหลับสนิท ปลุกประสาทให้เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงีย สลึมสะลือ ลืมตาแทบไม่ขึ้น มือบางควานหาโทรศัพท์ ก่อนจะกดรับโดยไม่ทันดูชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอด้วยซ้ำ “ว่างายคะ” ‘พี่หาเนคไทเส้นสีกรมอันนั้นไม่เจอ เธอเก็บเอาไว้ที่ไหนเหรอ’ สิ้นประโยคนั้น กอปรกับน้ำเสียงคุ้นเคย ดึงประสาทที่กำลังงัวเงียให้ตื่นขึ้นฉับพลัน “คุณ!”หล่อนตาสว่างแทบจะทันที เมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยนั้น ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ คล้ายหงุดหงิดรำคาญใจ ตอบกลับเขาไปทันที “อยู่ในลิ้นชักฝั่งซ้ายค่ะ” ‘แล้วเสื้อเชิ้ตสีขาวที่พี่ชอบใส่ล่ะ’ เขาเอ่ยชื่อแบรนด์ยี่ห้อหรู “แขวนอยู่ในตู้บนด้านซ้ายเหมือนกันค่ะ” ‘อยู่ไหนน่ะ พี่หาไม่เจอ เธอซักไว้ให้พี่แล้วงั้นเหรอ’ เขายังคงถามต่อ จนหญิงสาวเริ่มไม่สบอารมณ์ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงคล้ายรำคาญใจ ระคนอ่อนใจในเวลาเดียวกัน “ฉันซักแล้วรีดให้คุณเรียบร้อย รบกวนคุณช่วยหาให้ดีก่อนโทรมาได้ไหมคะ” ชายหนุ่มนิ่งไปชั่วอึดใจ ตอบกลับเธอด้วยเสียงแผ่วเบาอย่างลุแก่โทษ ‘ยังนอนอยู่เหรอ พี่ขอโทษ’ … ‘เดี๋ยวเช้านี้พี่วนรถไปรับที่บ้านนะ จะได้ไปทำงานพร้อมกัน’ คำบอกเล่าที่เธอเคยวาดฝันอยากได้ยินในอดีตนั้น ทว่าเวลานี้ในตอนที่เธอพยายามตัดใจจากเขา มันกลับยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด เมื่อคิดถึงคำร้องขอที่ผ่านมาของเธอ แต่เขาไม่เคยสนใจ และไม่เคยที่จะรอให้เธอได้นั่งรถร่วมทางไปกับเขา หล่อนถอนหายใจดังก่อนจะกดวางสายทันที โดยไม่คิดตอบรับหรือพูดคำใด จนกระทั่งเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเศษรถยนต์คันหรูขับมาจอดเทียบหน้ารั้วบ้านหลังใหญ่ หลังเดิมที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี ก่อนจะก้าวลงจากรถเดินผ่านประตูรั้วที่กั้นกลางระหว่างสองบ้านไว้ สองเท้าก้าวเดินอย่างว่องไว ก่อนจะหยุดชะงักไปทันทีเมื่อเจอกับสายตาเคืองขุ่นของใครอีกคนที่ยืนกอดอก อยู่บริเวณหน้าตัวบ้าน “มาทำไม” “กูมารับณิดาไปทำงานด้วยกัน” คณินทร์ธารอยากหัวเราะให้ฟันร่วง ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มมุมปาก “ฮึ ไม่จำเป็น” “ไอ้นิน กูขอร้องได้ไหมวะ ให้กูได้ปรับความเข้าใจกับน้องมึงก่อน” “กูว่ามึงแทนที่จะมาปรับความเข้าใจกับน้องกู มึงไปจัดการเรื่องของมึงก่อนเถอะ” “ให้กูจัดการอะไร” ถามอย่างข้องใจ “แฟนเก่ามึงไง! มึงขอหย่าน้องกู เพราะมึงจะกลับไปดีกับเป้ยไม่ใช่เหรอ แล้วมึงยังเหี้ย ทิ้งน้องกูไปหาผู้หญิงคนนั้นในคืนแต่งงานอีก กูไม่ได้อยากกีดกันมึงหรอกนะ แต่ในเมื่อมึงไม่รัก ไม่คิดจะดูแลน้องกูให้ดี งั้นกูก็จะเอาน้องกูคืนมา!” “ไอ้คณินทร์!” “มึงมาทางไหน กลับไปทางนั้นเลยนะไอ้กลาง นี่กูยังเห็นว่ามึงเป็นเพื่อนกูอยู่นะ ไม่งั้นกูไม่ให้มึงมาเหยียบบ้านกูอีกแน่” คณินทร์ธารกล่าวเสียงดัง พร้อมกับชี้หน้าคาดโทษอีกฝ่าย ในขณะที่อธิษฐ์นั้นได้แต่ยืน กรามขบแน่นอยู่ตรงนั้น สายตาพยายามเหลือบมองเข้าไปในตัวบ้าน เพื่อหวังเจอใครอีกคน ทว่า...กลับไม่เห็นใครคนที่เขาอยากเจอเลยสักนิด นายแพทย์หนุ่มจ้องมองหน้าเพื่อนสนิทนานหลายนาที ก่อนยอมล่าถอยกลับไปขึ้นรถของตนเอง แล้วขับออกไปทันที เสียงเครื่องปรับอากาศดังเบา ๆ กอปรกับกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเจืออยู่ในอากาศจาง ๆ จนทำให้หญิงสาวรู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้นิด ๆ ขณะเดินออกมาจากห้องตรวจ หลังรับใบสั่งยา และใบนัดตรวจครรภ์ครั้งหน้า มือบางวางบนหน้าท้องตนเอง เดินตรงมายังห้องสำหรับนั่งรอรับยา ทว่าวินาทีนั้นที่สายตาเหลือบกวาดมองไปรอบ ๆ เพื่อมองหาที่ว่าง กลับต้องชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดิน เมื่อเธอเห็นสามีตนเองกำลังเดินประคองหญิงสาวอีกคน ที่มีผ้าพันข้อแขนไว้ หล่อนกำมือแน่น ด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะผ่อนลมหายใจเข้าออกเพื่อเรียกสติตัวเอง ดีเหมือนกัน ในเมื่อยิ่งเห็นแบบนี้ เธอจะได้ยิ่งตัดใจจากเขาได้เร็วมากขึ้น หล่อนพยายามพร่ำบอก ย้ำเตือนกับตัวเอง ก่อนจะหมุนตัวเดินเลี่ยงหลบไปอีกทาง เพื่อหาที่นั่งสำหรับนั่งรอยา ในขณะเดียวกันเสียงประกาศเรียกชื่อดังแว่วมาให้เขารู้สึกคุ้นหู ระหว่างคิ้วมุ่นหากันด้วยความแปลกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะชื่อที่ได้ยินนั้น คล้ายกับชื่อของนิษฐ์รัณดา “มีอะไรหรือเปล่าคะพี่อธิษฐ์” “พี่ได้ยินชื่อของณิดา” “ไม่น่าใช่มั่งคะ อาจชื่อคล้าย พี่อธิษฐ์คงฟังผิดไปมากกว่า” หล่อนพยายามเบี่ยงเบน ไม่ให้เขานั้นไปสนใจเสียงประกาศเหล่านั้น ก่อนจะแกล้งทำเป็นยกข้อมือที่มาผ้าพันอยู่ขึ้น ซู๊ดปาก ร้องออกมาเบา ๆ “เจ็บจัง” “ระวังหน่อยสิ เธอไม่ใช่เด็กแล้วนะ” “ค่ะพี่อธิษฐ์...ขอบคุณนะคะที่วันนี้พี่อุตสาห์แวะมารับเป้ย ไม่อย่างนั้นเป้ยเองก็ไม่รู้จะทำยังไงจริง ๆ เป้ยไม่มีใครเลย พี่ก็รู้” หล่อนพยายามกล่าวอ้าง ให้ดูน่าสงสารเพื่อให้เขาเห็นใจ สงสารไม่ทอดทิ้งเธอ ยิ่งเธอบอกเล่าเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น ไหนจะถูกอดีตคนรักทอดทิ้งไปมีคนอื่น ไม่ยอมรับลูกในท้องของเธอ ไหนจะภาระต่าง ๆ ที่แม่ของสร้างให้เธอต้องรับผิดชอบแทนน้องชายคนเดียว ที่ตอนนี้ก็หนีปัญหา หายหน้าไป ทิ้งภาระทุกอย่างให้เธอต้องแก้ไขเพียงลำพังคนเดียว เรื่องราวเหล่านี้เรียกคะแนนสงสารให้หล่อนได้มากพอควร และที่ผ่านมามันก็ใช้ได้ผลมาโดยตลอด “คุณจะลาออกงั้นเหรอ” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถาม ขณะที่หญิงสาวกำลังยื่นเอกสารสำคัญให้กับคนตรงหน้า หล่อนถึงกับผงะไปทันทีด้วยความตกใจเล็กน้อยกับแววตาดุดัน น้ำเสียงคล้ายไม่พอใจ ก่อนที่เธอจะก้มหน้าลง สายตาหลุบต่ำ อ้อมแอ้มตอบไม่เต็มเสียงนัก “ค่ะ” “อืม ผมได้ยินจากแผนกบุคคลน่ะ ว่าคุณจะลาออก มีปัญหาเรื่องงานอะไรหรือเปล่า” “เอ่อ...เปล่าค่ะ เรื่องงานสำหรับฉันค่อนข้างดีเลยค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร” “หรือว่าคุณมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน” วายุกรพยายามคาดเดา พร้อมหรี่สายตามองลูกน้องที่อยู่ใต้อาณัติอย่างจับสังเกต ทว่าพอหล่อนได้ยินคำถามนั้น ริมฝีปากบางกลับยกยิ้มส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ดิฉันไม่ได้มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานค่ะบอส” “แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ หรือว่า...คุณมีปัญหาเรื่องเงินเดือน? ที่ใหม่คุณให้มากกว่าหรือไง?” ปลายน้ำเสียงคล้ายกับไม่พอใจ “ปะ...ปะ...เปล่านะคะบอส ดิฉันไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน แล้วก็ยังไม่ได้สมัครงานที่ไหนด้วยค่ะ” “งั้นคุณจะลาออกไปทำไม หรือว่าครอบครัวคุณเขาไม่อยากให้คุณทำงานแล้ว” หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ หวังระบายความอัดอั้นในใจ ก่อนจะตอบกลับเขาด้วยเสียงแผ่วเบา ไม่กล้าสบตา “ฉันกำลังจะหย่ากับสามีค่ะ ก็เลยตั้งใจว่า...” ไม่รอให้จบประโยค เขาก็เอ่ยแทรกพร้อมพยักหน้าอย่างเข้าใจในความคิดของลูกน้องสาวขึ้นมาทันที “อ๋อ ผมเข้าใจละ” “คุณต้องการจะหลบไปตั้งหลักที่ไหนสักที่ก่อนใช่ไหมล่ะ” “อะไรประมาณนั้นค่ะ” ตอบรับไม่เต็มเสียงนัก หล่อนรู้สึกกระดากอายที่ต้องพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวกับคนเป็นเจ้านายเช่นนี้ ทว่า ประโยคต่อมาเขานั้นกลับทำให้เธอถึงกับเบิกตากว้างเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ “อืม...งั้นก็ดีเลย ผมมีงานดี ๆ มาเสนอ คุณสนใจไหม” “งานเหรอคะ” “อืม...ใช่ แต่ว่าคุณอาจจะต้องไปทำงานไกลหน่อยนะ สนใจไหม แต่ถ้าไม่สนใจก็ไม่เป็นไร ผมแค่ลองถามดูน่ะ” “สนใจค่ะ ไม่ทราบว่าไกลนี่แค่ไหนเหรอคะ” “เชียงใหม่” “เชียงใหม่เหรอคะ!!” “อืม พอดีน้องชายผมเขาเพิ่งเปิดรีสอร์ทใหม่ อยากได้ผู้ช่วยไปช่วยงานพอดี ผมเห็นคุณกำลังมีปัญหา เผื่อจะสนใจไปทำงาน แล้วก็ถือโอกาสพักใจไปด้วยเลย” “สนใจค่ะบอส ดิฉันสนใจมากเลยค่ะ” “อืม งั้นก็ดี” ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ด้วยความพึงพอใจ ขณะที่เธอกลับรู้สึกหัวใจเบิกบานขึ้นมาทันที เพราะก่อนหน้านี้เธอเองก็กำลังครุ่นคิด และกลัดกลุ้มอยู่ไม่น้อย เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นใหม่ หรือตั้งหลักยังไง แต่ในเมื่อโอกาสเข้ามาหาเธอแบบนี้ หล่อนก็รีบไขว่คว้าเอาไว้ “ขอบคุณนะคะบอส ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ” หล่อนยิ้มรับด้วยความดีใจ ก่อนจะถือแฟ้มงานที่เขาเพิ่งจรดปากกาเซ็นเสร็จเรียบร้อย เดินกลับออกไปทันที กระทั่งถึงเวลาเลิกงาน หญิงสาวรีบเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับบ้านให้ทันเวลาฟ้าฝนที่อาจจะตกหนักในช่วงเย็น ตามพยากรณ์อากาศที่บอกไว้ล่วงหน้า หล่อนจึงกระวีกระวาด รีบร้อนที่จะเดินออกไปเรียกรถ ทว่าระหว่างก้าวเดินออกจากลิฟต์ สายตากลับเหลือบเห็นใครบางคนที่มาดักยืนรอเพื่อจะเจอเธออยู่ก่อนแล้ว “น้องณิดา...พี่ขอเวลาคุยด้วยได้ไหมคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD