1

1481 Words
ร่างสูงของหนุ่มใหญ่ วัยสี่สิบสอง นามว่านรราช พันธุเสมา      กำลังปรือตามองคฤหาสน์หลังใหญ่ของคุณย่าลักษณ์นารา พันธุเสมา ด้วยอาการมึนเมา เขาพยายามทรงตัวไม่ให้เซหรือล้มไปทางใดทางหนึ่ง แอลกอฮอล์ในกระแสเลือดทำให้ร่างกายของเขาร้อนวูบวาบพอๆ กับเหงื่อที่ไหลซึมไปทั่วเรือนร่าง เพราะรถเกิดเสียระหว่างทางทำให้ต้องเดินเท้าหลายกิโลเมตรมายังบ้านของผู้เป็นย่า งานเลี้ยงรุ่นผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พร้อมกับเหล่าเพื่อนฝูงที่ได้พบปะสังสรรค์กันด้วยความคิดถึง อีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นงานเลี้ยงครบรอบวันเกิดเก้าสิบหกปีของผู้เป็นย่า เขาจึงเดินทางมาก่อนล่วงหน้าโดยไม่ได้บอกกล่าว ร่างสูงเข้ามาทางประตูหลังบ้านด้วยกุญแจพวงใหญ่ที่ถือเอาไว้ในมือ เขาคือหลานชายคนเดียวที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริงของตระกูลพันธุเสมาอันร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ ยามดึกสงัดของบ้านหลังใหญ่อันกว้างขวาง มีเพียงความเงียบและสายลมเย็นๆ พัดมากระทบผิวกาย พร้อมด้วยเสียงหริ่งเรไรที่ร้องอยู่ในความมืดมิดของราตรีกาล นรราชกวาดสายตามองสนามหญ้าหน้าบ้านอันกว้างขวาง      สวนหลังบ้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ภายใต้แสงสลัวของตัวบ้าน ชายหนุ่มยิ้มบางๆ เมื่อนึกถึงญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ ย่าของเขาชอบปลูกต้นไม้และรักธรรมชาติเป็นอันมาก เขามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เหมือนท่าน หนึ่งในนั้นคือรักธรรมชาติและไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นแหล่งอาหารสำคัญของมนุษย์โลก ร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ด้วยสายเลือดผสมระหว่างบิดากับมารดาหยุดนิ่งเพื่อหลับตาอีกหลายครั้ง เขาพยายามครองสติเอาไว้ให้ได้มากที่สุด “คุณราช” นายเพิ่มเรียกเจ้านายหนุ่มเอาไว้ เพราะเขาเฝ้าเวรยามในตอนกลางคืน “สวัสดี” นรราชยกมือขึ้นรับไหว้ร่างเซๆ “ให้ผมประคองขึ้นตึกไหมครับ” เพิ่มรีบเข้ามาประคอง “ไม่ต้อง ฉันไหว ฉันเดินไปเองได้ นายเฝ้ายามไปเถอะ” คนพูดเดินเซๆ แต่ก็พยายามทรงตัวเอาไว้ ก่อนจะหยุดชะงักหันมามองนายเพิ่มอีกครั้ง “ไม่ต้องบอกคุณย่านะว่าฉันกลับมา ฉันอยากเซอร์ไพรส์ท่านหน่อย” นรราชบอกแล้วยิ้ม นายเพิ่มรีบรับคำ มองร่างสูงอย่างระแวดระวังเห็นว่าอีกฝ่ายไม่เป็นอะไรเลยเบาใจ นรราชค่อยๆ ก้าวเดินอย่างเชื่องช้าเพราะความมึนเมา เจ้าของใบหน้าคมสันหล่อเหลาเลือดผสม ดวงตาคมกริบสีเหล็กกล้า คิ้วเข้มและเรือนร่างเพรียวแข็งแรงสมส่วนไร้ไขมันส่วนเกินให้รกตาแม้วัยจะล่วงเลยวัยสี่สิบกว่าเข้าไปแล้ว ย่าของเขาเป็นคนดี จริงๆ ไม่ต้องมีเวรยามก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาทำอะไรตระกูลใหญ่ของเขา!!! นรราชคิดในใจ... ช่วงนี้คงมีลูกหลานมากมายที่ย่าของเขาอุปการะเอาไว้มานอนพักค้างอ้างแรมที่คฤหาสน์หลังนี้ ถือได้ว่าเป็นวันรวมญาติครั้งใหญ่อีกวันของปี ทุกคนคงยุ่งวุ่นวายกับงานเลี้ยงอีกหนึ่งอาทิตย์ที่กำลังจะมาถึง รวมถึงหลายคนก็คงสรรหาของขวัญที่ดีที่สุดเพื่อจะมอบให้คุณย่าของเขา นรราชมีเรือนพักอีกหนึ่งหลังอยู่ในบริเวณบ้าน แต่เขาเปลี่ยนใจมานอนที่ห้องพักบนตึกแทน วันพรุ่งนี้ถ้าเขาปรากฏตัวขึ้นคงทำให้ผู้เป็นย่าประหลาดใจไม่น้อย ชายหนุ่มบิดประตูห้องนอนของตัวเองเบาๆ ปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อก    เขาจึงเก็บกุญแจกลับเข้าไปในกระเป๋าของตัวเอง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยนึกตำหนิสาวใช้ที่เข้ามาทำความสะอาดห้องแล้วไม่ล็อกห้องให้เรียบร้อย เขาหรี่ตามองเงาบางอย่างบนเตียงนอนกว้างของตัวเอง โทสะบางอย่างแล่นเข้ามาเป็นริ้วๆ ใครกล้าเข้ามานอนในห้องนอนส่วนตัวของเขาแบบนี้ นรราชสบถในใจด้วยความไม่สบอารมณ์ คนหวงข้าวของและไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายหรือแม้แต่เคลื่อนย้ายข้าวของถ้าเขาไม่อนุญาตรู้สึกไม่พอใจเป็นอันมาก ร่างสูงขยับกายเข้าไปใกล้เตียงเพื่อก้มลงไปดูผู้บุกรุก เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงที่เขาหวงแหนหนักหนา กลิ่นกายของเธอหอมกรุ่นลอยมาเตะจมูก มันหอมจนเขาต้องก้มลงไปสูดดมแรงๆ เขาไม่ได้กลิ่นหอมรัญจวนใจจากหญิงสาวคนใดแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วหนอ คงตั้งแต่ย้ายตัวเองไปอยู่เกาะเมตตา นรราชสูดกลิ่นหอมละมุนนั้นแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น เขาไม่เคยได้กลิ่นหอมสดชื่นจากผู้หญิงคนไหนแบบที่ได้รับจากคนที่แอบเข้ามานอนบนเตียงของเขาแบบนี้มาก่อน เพราะขยับเข้าไปใกล้มากจนเกินไป จึงทำให้ร่างสูงเสียหลักล้มลงไปทาบทับคนบนเตียง คนที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงถึงกับสะดุ้งตื่นตกใจ ทำท่าจะกรีดร้อง แต่นรราชรีบอุดปากของหล่อนเอาไว้ในทันที “เธอเป็นใคร” เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม ใบหน้าที่รกไปด้วยหนวดเคราและร่างสูงใหญ่ที่เจือไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งทำให้นิรินมีท่าทีหวาดกลัว ร่างบอบบางพยายามดิ้น แต่เขาข่มขู่เสียงเข้มน่ากลัวทำให้เธอไม่กล้าดิ้นอีก “ถ้าเธอดิ้นอีก ฉันจะปาดคอเธอซะ” เขานึกครึ้มอกครึ้มใจอยากแกล้งคนขี้กลัว เพราะรับรู้ถึงร่างกายอันสั่นเทาของคนใต้ร่าง นิรินหยุดดิ้นในขณะที่มือบอบบางถูกกดเอาไว้เหนือศีรษะ “ตอบคำถามมาเสียดีๆ ห้ามโวยวายกรีดร้อง ไม่งั้นได้เป็นศพก่อนจะมีคนมาช่วยแน่ๆ” พอเขาพูดแบบนั้น เธอก็รีบพยักหน้าทันที ร่างของนรราชคร่อมทับเพื่อกักเด็กสาวเอาไว้ใต้ร่าง เธอกลัวจนตัวสั่น พอเขาปล่อยเธอก็ทำท่าจะร้องขอความช่วยเหลือจากคนในบ้าน “อื้อ...” เขาก้มลงบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่ม เธอรัวกำปั้นทุบแผ่นหลังของเขาระรัว พอเขาปล่อย เธอก็ทำท่าจะกรีดร้องอีก เขาก็เลยบดจูบลงมาอีกครั้ง นิรินหอบหายใจระรัวเมื่อเขาปลดปล่อยริมฝีปากของเธอเป็นอิสระอีกครั้ง “ฉันถามได้ยินหรือเปล่า” เขาเอ่ยถามเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม “ไอ้โจรห้าร้อย” “ใครบอกว่าฉันเป็นโจรห้าร้อย ทั้งเนื้อทั้งตัวมีอยู่ยี่สิบบาท ฉันเป็นโจรยี่สิบต่างหากล่ะ” เธอกะพริบตาปริบๆ กับประโยคของเขา “เธอเป็นใคร มานอนอยู่ในห้องของฉันได้ยังไง” นรราชถามย้ำ หรี่ตามองคนใต้ร่างด้วยอาการมึนเมาพอสมควร เขาเห็นใบหน้าของเธอไม่ชัดจึงเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียง แสงสลัวจากโคมไฟทำให้เขามองเห็นใบหน้าของสาวน้อยใต้ร่างได้อย่างชัดเจน ใบหน้าหวานหยดคุ้นเคยนั้นทำให้นรราชชะงักงัน “ทำไมไม่ตอบคำถามล่ะ” เสียงของเขาเหมือนสำลักอะไรสักอย่างเมื่อได้เห็นใบหน้ากลมหวาน เธอเป็นเด็กสาวที่มีดวงตากลมโต คิ้วโก่งเรียวงาม        ริมฝีปากเต็มอิ่ม เขาอยากหอมแก้มเธอแรงๆ เพราะความมันเขี้ยว “ลุงราช” นิรินจำเขาได้ หลานชายคนโตของคุณย่าทวดลักษณ์นารา ผู้แสนใจดี แต่หลานชายของท่านโคตรใจร้าย แม้ใบหน้าของเขาจะรกไปด้วยหนวดเครา แต่เธอก็จำเขาได้ ปีหนึ่งจะได้เจอกันหนึ่งครั้ง บิดาของเธอกับนรราชไม่ใคร่จะลงรอยกันนัก และท่านก็ไม่ต้องการให้เธอยุ่งเกี่ยวกับเขาเป็นอันขาด... “อ้อ... ลูกไอ้สุทธิศักดิ์หรอกเหรอ” “ปล่อยนะคะลุงราช” “เรื่องอะไรจะปล่อย นี่มันห้องของฉัน เธอถือวิสาสะอะไรเข้ามานอนในห้องของฉันมิทราบ” เขายังมีท่าทีคุกคามและไม่คิดจะปล่อย “เนยขอโทษค่ะ จะรีบออกไปเดี๋ยวนี้ละค่ะ” เธอรีบพูดปากคอสั่น ไม่ได้ตั้งใจจะถือวิสาสะเข้ามานอนในห้องเขาเลยสักนิด แต่ญาติผู้พี่ทั้งสามรุมกันกลั่นแกล้งไม่ให้เธอนอนด้วย เธอจึงต้องหาที่ซุกหัวนอนใหม่ ด้วยว่าคุณย่าทวดของเธอมีหลานและเหลนหลายคน พอมีงานวันเกิดทุกคนก็ต่างแห่กันมานอนที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของท่าน เธอจึงต้องนอนรวมกับญาติวัยไล่เลี่ยกัน แต่ครั้งนี้มีปัญหา เพราะโดนพี่สาวที่นอนร่วมห้องด้วยกันไล่ออกมาจากห้อง โดยที่เธอไม่ทราบสาเหตุ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD