ตอนที่ 1

1248 Words
  “วันมะรืนพยัคฆ์จะกลับมาแล้ว...” เจ้าสัวธนาเอ่ยกับภรรยาทั้งสองที่กำลังนั่งร่วมโต๊อาหารเช้าภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ด้านขวาคือ ‘ชุลี’ ซึ่งตอนนี้ยึดตำแหน่งเมียหลวง ทางซ้ายคือ ‘วิไล’ เป็นภรรยารอง “เฮียเสือจะกลับมาแล้วหรือครับป๋า” ‘วายุ’ ลูกชายที่เกิดจากวิไลเอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าพี่ชายต่างมารดากำลังจะเดินทางกลับมาอยู่เมืองไทยหลังจากเรียนจบปริญญาโทมาจากประเทศอังกฤษหมาดๆ “ใช่...แกจะไปรับไอ้เสือกับป๋ามั้ยล่ะ” เจ้าสัววางช้อนกับส้อมลงในจานกระเบื้องสีขาวตรงหน้า “คงไม่ได้ครับ...มะรืนผมติดเรียนครับป๋า” วายุกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่สามในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองไทย “แล้วแกล่ะไอ้พีร์” เจ้าสัวหันมาถาม ‘พีรพงษ์’ ลูกชายอีกคนที่เกิดจากชุลี พีรพงษ์มีอายุใกล้เคียงกับวายุ ทั้งสองคลอดห่างกันเพียงไม่กี่วัน วายุจึงเรียกพีรพงษ์ว่าพี่ แต่พยัคฆ์คือพี่ใหญ่ในบรรดาสามหนุ่ม เพราะเป็นลูกที่เกิดจากเมียคนแรกของท่านเจ้าสัวธนา “ผมมีนัดแล้วครับป๋า...ใจจริงก็อยากไปรับเฮียเสือด้วย แต่ไม่ว่างจริงๆ ครับ” พีรพงษ์กล่าว ปกติคนในบ้านเรียกพยัคฆ์ด้วยชื่อเล่นสั้นๆ ว่า ‘เสือ’ “ติดสาวก็บอกมาเถอะวะพี่พีร์” วายุรู้ทัน พีรพงษ์หลิ่วตาให้น้องชายต่างมารดา “อันที่จริงคุณพี่ไม่ต้องไปรับเองก็ได้มั้งคะ...ให้คนขับรถไปรับก็ได้” ชุลีกล่าวพลางยกแก้วน้ำขึ้นจิบ หล่อนไม่พอในนักที่เห็นเจ้าสัวรักพยัคฆ์ซึ่งเป็นลูกชายที่เกิดกับเมียคนแรกจนออกนอกหน้า พยัคฆ์เป็นลูกครึ่ง เพราะว่ามารดาเป็นชาวอเมริกา อาศัยอยู่ในแถบละตินอเมริกา เจ้าสัวธนาพบรักกับโซเฟียซึ่งเป็นมารดาของพยัคฆ์ในระหว่างไปใช้ชีวิตที่อเมริกา ทั้งสองอยู่ด้วยกันโดยไม่ได้แต่งงานแต่อย่างใด แต่ก็รักกันมากจนมีลูกด้วยกันซึ่งก็คือพยัคฆ์ หลังจากมารดาของพยัคฆ์เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจ้าสัวตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ซึ่งตอนนั้นพยัคฆ์เพิ่งมีอายุเพียงสิบขวบ “วิไลว่าเจ้าสัวไปรับคุณพยัคฆ์ด้วยตัวเองก็ดีนะคะ เพราะว่านานๆ จะเจอกันที...นี่ก็สี่ปีแล้วนะ...ที่คุณพยัคฆ์ไม่ได้กลับเมืองไทย” วิไลขัดขึ้นบ้าง ดูเหมือนว่าความสุขอย่างหนึ่งของหล่อนก็คือการได้ขัดคอชุลีซึ่งยึดตำแหน่งเมียเอกไปแล้ว ทั้งที่จริงตำแหน่งนี้ควรจะเป็นของมารดาพยัคฆ์ ทว่าหลังจากโซเฟียเสียชีวิต ชุลีก็ตั้งตนเป็นเอกภรรยาไปโดยปริยาย “ไม่ขัดฉันสักเรื่องจะได้ไหมคะคุณวิไล” ชุลีกระแทกแก้วน้ำลงบนโต๊ะ บอกให้รู้ว่าหล่อนไม่พอใจ “ก็ดิฉันพูดจริงนี่คะคุณพี่” วิไลไหวไหล่ เถียงไม่ลดละ แม้จะโดนชุลีจัดอันดับให้เป็นเมียรอง แต่ใช่ว่าหล่อนจะยอมรับ เพราะวิไลถือว่าอันที่จริงชุลีก็คือ ‘เมียน้อย’ ของเจ้าสัวไม่ต่างจากหล่อน “พวกเธอหยุดทะเลาะกันสักวันได้ไหม” เจ้าสัวธนารีบยกมือห้ามศึก ด้วยรู้ว่าภรรยาสองคนนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาแต่ไหนแต่ไร วิไลแอบเบะปาก ลอยหน้าลอยตาทำปากยื่นใส่ชุลี ดูแล้วไม่ได้มีทีท่าเกรงกลัวกันเลยสักนิด “คุณชุลีคะ...คนใช้มารอสัมภาษณ์แล้วค่ะ” ป้าชื่นซึ่งเป็นคนรับใช้เก่าแก่ของบ้านเข้ามารายงายกับผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงนอบน้อม “งั้นชุลีขอตัวนะคะคุณพี่...” หันไปบอกเจ้าสัว พลางหยัดร่างขึ้นจากเก้าอี้ ตวัดสายตามองวิไลเหมือนจะบอกให้รู้ว่าอยู่ไปก็เหม็นหน้ากันเปล่าๆ     หลังจากชุลีขอตัวไปทำธุระ ด้วยหล่อนเพิ่งประกาศรับสมัครคนใช้และคนขับรถได้เพียงไม่กี่วันก็มีคนสนใจเข้ามาสมัครงาน ทำให้ต้องคอยสัมภาษณ์เป็นระยะ ครั้นเมื่อวิไลได้โอกาสอยู่กับผัวสองต่อสอง จึงรีบออดอ้อนท่านเจ้าสัวทันที “เจ้าสัวขา...ไม่รีบไปทำงานใช่ไหมคะวันนี้” ถามพลางเอื้อมมือมาทำปูไต่ที่แขน สุ้มเสียงของวิไลเต็มไปด้วยจริตมารยา หล่อนอยู่กับเจ้าสัวมานาน ผ่านโลกมาก็เยอะ ย่อมรู้ดีว่าสามีคนนี้มีรสนิยมยังไง “เธอมีอะไรหรือเปล่า?” เจ้าสัวถาม สายตาจับอยู่ที่เรือนร่างเอิบอิ่มของวิไล เหมือนเจ้าสัวจะรู้ ว่าเช้านี้หล่อนตั้งใจโนบรามาอวดเขา เจ้าสัวธนาชอบผู้หญิงนมใหญ่ สองเต้าอวบใหญ่ของวิไลที่กำลังกระเพื่อมไหว ทำเอาเจ้าสัวมากตัณหาเขวได้เหมือนกัน ทั้งที่กำลังจะไปทำงานอยู่แล้วเชียว “วิไลมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ” หล่อนทำเสียงอ้อน เว้นมาหลายคืนแล้วที่เจ้าสัวละเลยไม่ทำการบ้านเพราะเครียดกับงาน ปล่อยให้หล่อนนอนร้อนๆ หนาวๆ ทรมานในอารมณ์มาหลายคืน “นี่จะสายแล้วนะ” เจ้าสัวยกหลังมือขึ้นมองนาฬิกา “วิไลสัญญาว่าจะใช้เวลาไม่นานค่ะ” หล่อนรั้งข้อมือของสามีให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ รีบจูงเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง ครั้นเมื่อเข้ามาอยู่ด้วยกันสองต่อสองภายในห้อง วิไลก็รั้งข้อมือเจ้าสัวธนามานั่งลงที่โซฟาด้วยท่าทางใจร้อน “วิไลคิดถึงเจ้าสัวค่ะ...” หล่อนยิ้มยั่วขณะทรุดร่างลงนั่งคุกเข่าตรงหว่างขาของเขา “คิดถึงฉัน...หรือว่าคิดถึงน้องชายฉันกันแน่” เจ้าสัวรู้ เพราะเห็นภรรยาเลียริมฝีปากส่งสัญญาณ เพียงเท่านั้นคนอยากโดนดูดก็รีบถอดกางเกงอย่างรู้กัน จากนั้นก็เอนกายพิงพนักโซฟาในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน มือใหญ่ช้อนท่อนเนื้อขึ้นมาลูบคลำอุ่นเครื่อง “อูย...ของเจ้าสัวใหญ่เหลือเกิน...เห็นทีไรใจเต้นทุกที” สายตาของวิไลจับจ้องแก่นกายยาวใหญ่ ที่ผงาดแข็งเป็นดุ้นขึ้นมาอวดศักดาจนน่าเกรงขาม “จัดการเลย...ฉันมีเวลาไม่มาก” เจ้าสัวนักธุรกิจที่มีงานรัดตัวแทบจะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง รีบรั้งมือภรรยาให้ขยับเข้ามาคุกเข่าลงตรงหว่างขาอ้ากว้าง ค่อยๆ ง้างตอร์ปิโดขนาดมหึมาขึ้นมากด คลึง บด เคล้า เข้ากับนวลแก้มข้างหนึ่งของหล่อน แล้วจดจ่อเข้าที่กลีบปากเอิบอิ่มเคลือบสิปสติกสีแดง “ใหญ่จัง...” สองมือของวิไลลูบไล้พิจารณาแทงเนื้อสีเข้มคล้ำของสามีด้วยหัวใจเต้นแรง หล่อนเคยเห็น เคยกิน เคยดูด เคยเลียจนชินก็จริง แต่ทุกครั้งที่ได้เห็น...ก็ชวนให้ใจเต้นระทึกทุกที โดยเฉพาะในวันที่ได้เห็นตอนกลางวันแสกๆ ความอลังการของเจ้าสัวธนาสามารถทำให้หล่อนเกิดอาการน้ำเดินได้ในระยะเวลาอันสั้น “ฉันรู้ว่าเธอชอบ” เจ้าสัวยิ้มภาคภูมิ ขณะมือเรียวของวิไลลูบไล้ท่อนแข็งของเขาซึ่งมองดูขรุขระเหมือนดุ้นมะระจีนสีเขียวๆ ต่างกันตรงที่ของท่านเจ้าสัวเป็นสีน้ำตาลเข้มดุจเดียวกับสีผิวของเขา และที่มันขรุขระก็เพราะว่ามีเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาชัดเจน เห็นแล้ววิไลเกิดอาการใบหน้าร้อนวูบวาบ “อา...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD