ตอนที่ 3

1214 Words
“รับค่ะ...เจ้าสัวเป็นคนรับค่ะ” ป้าชื่นเล่าให้ชุลีฟังว่าเรื่องราวมีความเป็นมายังไง วันนี้จึงเห็นคนางค์มาเริ่มงานแต่เช้าตรู่ “บ้าจริง...ทำแบบนี้เท่ากับคุณท่านไม่ไว้หน้าฉัน” ชุลีกำมือแน่น โกรธสามี ทั้งที่รู้ว่าการตัดสินใจของเจ้าสัวถือเป็นเด็ดขาด ภายในบ้านหลังนี้ใครจะขัดคำสั่งของเจ้าสัวไม่ได้ ชุลีออกอาการกระฟัดกระเฟียดหัวเสียอย่างเห็นได้ชัด สายตาขุ่นข้องจ้องมองคนางค์ที่ยืนงุดหน้าไม่ยอมสบตาหล่อนเพราะความกลัว “เจ้าสัวนะเจ้าสัว...ทำแบบนี้เท่ากับฉีกหน้าฉัน” ชุลีมองหน้าคนางค์ด้วยสายตาเอาเรื่อง ทว่าไม่ทันได้เอ่ยอะไรมากไปกว่านั้น เสียงเข้มของผู้เป็นนายใหญ่ของบ้านก็ดังขึ้นมาเสียก่อน “ฉันไม่ได้ฉีกหน้าใครทั้งนั้น ก็เธอบอกเองไม่ใช่หรือว่าอยากได้คนรับใช้เพิ่ม...ฉันก็รับให้แล้วนี่นา เรื่องแค่นี้ทำไมต้องโวยวายให้เป็นเรื่องใหญ่” เจ้าสัวว่า “ก็...” ชุลีเกือบจะโพล่งออกมาแล้วว่า ‘ก็ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา’ ใบหน้าของหล่อนสะสวย ผิวพรรณขาวสะอ้าน ทรวดทรงองค์เอวก็อวบอัดเย้ายวนเหลือเกิน ถ้าเป็นคนอื่นชุลีคงไม่เป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้ “ชุลีไม่เอา...” นิสัยดื้อรั้นชอบเอาชนะคน ทำให้ชุลีรีบส่ายหน้า ทอดสายตามองข้ามศีรษะของคนางค์ราวกับว่าหล่อนไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น และคำพูดของเจ้าสัวที่เอ่ยออกมา ก็ทำให้ชุลีรู้ว่าหล่อนทำพลาดอย่างแรงที่ปฏิเสธคนางค์ “เธอไม่เอาแต่ฉันเอา...งั้นให้คนางค์มาคอยรับใช้ฉันที่เรือนใหญ่ก็แล้วกัน...จากนี้ไปฉันขอประกาศให้ไอ้อีในบ้านหลังนี้ทุกคนรับรู้โดยทั่วกัน ว่าคนางค์เป็นคนรับใช้ส่วนตัวของฉัน...ใครยังข้องใจอะไรอีกไหม?”             คำสั่งของเจ้าสัวถือเป็นเด็ดขาด “ฮึ...” ชุลีกำมือแน่น ตวัดสายตามองคนางค์ รู้ว่าหล่อนพลาดเองที่ด่วนปฏิเสธโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบ เพราะการไม่ยอมรับเอาคนางค์ไว้รับใช้...ก็เท่ากับโยนเนื้อไปให้เสือร้ายอย่างเจ้าสัวธนาผู้เจ้าชู้และมักมากในกาม ใครบ้างจะไม่รู้ว่าผู้ชายบ้านนี้หื่นกันทั้งบ้าน “ป้าชื่นช่วยจัดการเรื่องห้องพักให้ที” เจ้าสัวสั่ง “เอ่อ...ดิฉันจะต้องนอนค้างคืนที่นี่ด้วยหรือคะคุณท่าน” คนางค์ตกใจ “เธอติดปัญหาอะไรรึ?” คิ้วสีดำเป็นแพดกหนาของเจ้าสัวธนาชิดเข้าหากัน “ถ้ามาค้างคืนที่นี่ดิฉันจะต้องทิ้งลูกสาวไว้ที่บ้านเช่าคนเดียวค่ะ...ดิฉันเป็นห่วงลูกสาวค่ะ” คนางค์บอกเหตุผล “งั้นก็พาลูกสาวย้ายมาอยู่ด้วยกันที่นี่...จะได้ไม่ต้องเสียเงินเช่าห้องพัก บ้านที่เธอกับลูกเช่าอยู่ในตอนนี้สภาพก็ไม่ปลอดภัยเลยนี่นา...มีแต่พวกขี้เหล้าขี้ยาเต็มไปหมด” คนางค์ตกใจว่าเจ้าสัวธนารู้ได้อย่างไรว่าหล่อนกับลูกอยู่กันยังไง หารู้ไม่ว่าที่เจ้าสัวรู้เรื่องนี้ก็เพราะว่าแอบสั่งให้ลุงดำไปสืบจนรู้เรื่องราวของคนางค์ละเอียดยิบ “ขอบคุณมากค่ะคุณท่าน” คนางค์ยกมือไหว้ ครู่ต่อมาเจ้าสัวก็ออกไปทำงาน ปล่อยให้ป้าชื่นพาหล่อนเดินชมบ้านเพื่อให้รู้จักแต่ละส่วนของบ้าน “คุณชุลีจะว่าอะไรไหมคะป้า?” สุ้มเสียงของคนางค์บอกความกังวล ดูก็รู้ว่าเมียใหญ่ของท่านเจ้าสัวไม่ชอบหน้าหล่อนตั้งแต่แรกเห็น “คำสั่งของเจ้าสัวถือเป็นเด็ดขาด...อย่าไปสนใจคุณชุลีเลย รายนั้นอยู่ห่างเข้าไว้เป็นดี ถ้านางไม่เรียกใช้ จำไว้ว่าอย่าเฉียดกรายเข้าไปใกล้เรือนของคุณชุลีเป็นอันขาด” ป้าชื่นเตือนพลางชำเลืองมองไปทางเรือนหลังรองที่อยู่ทางปีกขวา ส่วนเรือนทางซ้ายมือเป็นของวิไลซึ่งเป็นภรรยารอง “ป้าชื่นคะ” คนางค์มีเรื่องข้องใจอยากถาม “คะ...” ป้าชื่นมองหน้าคนางค์ ตอนนั้นจึงเห็นว่าสายตาของหล่อนให้ความสนใจอยู่กับเรือนไม้สักหลังใหญ่อีกหลัง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสวนบริเวณด้านหลังคฤหาสน์ “แล้วเรือนไม้ที่มีซุ้มกระดังงาปลูกล้อมอยู่ทางด้านหลังโน่น...มีคนอยู่ไหมคะ?” “อ๋อ...หลังนั้นเป็นเรือนของนายใหญ่” ป้าชื่นตอบ “นายใหญ่คือใครคะ?” หัวคิ้วของคนางค์ชิดเข้าหากันด้วยความสงสัย “นายใหญ่ก็คือคุณพจน์ ท่านเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของท่านเจ้าสัวธนา...ตอนนี้ท่านชรามากแล้ว...อายุเกือบแปดสิบ...เดินไม่ค่อยไหวแล้ว” ป้าชื่นกล่าว “แล้วใครดูแลท่านคะ” ดูเหมือนว่าคนางค์ยังไม่หายสงสัย “มีพยาบาลพิเศษมาคอยดูแลค่ะ” ป้าชื่นตอบ       ที่บ้านเช่าของคนางค์ คนางค์กลับมาที่บ้านของตัวเองในตอนใกล้ค่ำเพื่อเตรียมเก็บข้าวของที่จำเป็นบางส่วน เพราะนับจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป หล่อนจะต้องย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของเจ้าสัวธนา ตอนนี้จึงต้องบอกคืนห้องเช่า แต่ข้าวของบางส่วนหล่อนตั้งใจว่าจะกลับมาเก็บอีกทีตอนสิ้นเดือน “อะไรนะ...เอ็งกับลูกจะไม่อยู่ที่นี่แล้วรึ” ไอ้เดชผู้เป็นเจ้าของบ้านเช่าถามด้วยสีหน้าตกใจ “จ้ะพี่เดช” คนางค์ตอบ “แล้วเอ็งจะไปอยู่ไหน” ไอ้เดชอยากรู้ “ฉันจะไปทำงานที่บ้านเจ้าสัวธนาจ้ะ” คนางค์ตอบตามตรง “เสียดาย...” เจ้าของบ้านเช่าทำหน้าผิดหวัง สายตาก็จับจ้องเรือนร่างเอิบอิ่มของคนางค์ไม่วางตา “วันนี้ป้าแดงไม่อยู่หรือจ๊ะ” คนางค์รู้สึกแปลกใจที่เห็นห้องเช่าดูเงียบเชียบ และที่เรียกเมียไอ้เดชว่าป้าแดงก็เพราะว่าไอ้เดชได้เมียแก่กว่า ป้าแดงมีอายุมากกว่าไอ้เดชหลายปี “วันนี้มีงานงิ้วประจำปีที่หน้าปากซอยโน่น...ป้าแดงคงกำลังนั่งดูงิ้วเพลิน” “อ๋อ...ที่แท้ก็พากันออกไปเที่ยวงานนี่เอง ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมวันนี้เงียบนัก” “ใช่...เงียบมาก” ไอ้เดชนึกในใจว่าวันนี้เหมาะนักหนา...หลังจากพยายามหาโอกาสเรื่อยมา แต่ก็ยังไม่สบโอกาสสักที...กระทั่งวันนี้...วันที่คนางค์อยู่คนเดียว “ลูกสาวเอ็งไปไหน” ไอ้เดชสอบถามเพื่อให้แน่ใจว่าทางสะดวก “ยัยขวัญไปหาเพื่อนในตลาดจ้ะ...เอ่อ...ฉันขอตัวก่อนนะจ๊ะพี่เดช...” “เอ็งจะรีบไปไหน” เดชยังอยากพูดคุยกับหล่อน ยืนยันด้วยแววตาเหนี่ยวรั้งอาลัยอาวรณ์ “ฉันว่าจะอาบน้ำสักหน่อย วันนี้อากาศร้อน...รู้สึกเหนอะหนะเนื้อตัวเหลือเกิน” “ตามสบาย” ไอ้เดชกระตุกยิ้มเยือกเย็น จ้องมองสะโพกกลมกลึงของคนางค์ที่กำลังเดินกลับเข้าห้อง โดยคนางค์หารู้ไม่ว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของมัน   ครู่สั้นๆ ต่อมา ที่หน้าห้องน้ำซึ่งคนางค์กำลังจะอาบน้ำ ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้องน้ำซึ่งมีร่างเอิบอิ่มของคนางค์กำลังนุ่งผ้าถุงกระโจมอก เตรียมจะอาบน้ำอยู่ข้างใน 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD