หญิงสาวถอนหายใจแรง ๆ อย่างนึกสมเพชตัวเอง เธอเสยผมสีดำเป็นลอนสวยไปด้านหลังพลางเก็บกระดาษภารกิจลงกระเป๋า ริมฝีปากสีสวยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงตรงหน้าตู้เสื้อผ้าแล้วค่อย ๆ ดึงลิ้นชักล่างสุดออกมาช้า ๆ
เธอมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าของที่เธอต้องการมันอยู่ในนี้แน่นอน!
ทันทีที่ลิ้นชักเปิดออก บ็อกเซอร์ที่เธอต้องการปรากฏตรงหน้าจริง ๆ แต่สิ่งที่ทำให้สาวสวยหุ่นดี ดีกรีดาวคณะอย่างเธอถึงกับสตั้นไปหลายวินาทีนั่นก็คือลวดลายของบ๊อกเซอร์ทั้งหมดในลิ้นชักนั่น…
โอ้ว… พระเจ้า! บ็อกเซอร์ลายโดราเอม่อน!!
“เฮ้ยเธอ! จะขโมยกางเกงในฉันเหรอวะนั่น?”
“กรี๊ด!”
ร่างบางสะดุ้งตกใจกับเสียงทักจากด้านหลังจนเผลอกรี๊ดออกมาดังลั่น เธอเสียหลักนั่งลงบนพื้นโดยที่ยังไม่ได้หันหน้ากลับไปหาต้นเสียง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าของเสียงนั่นเป็นใครถ้าไม่ใช่เจ้าของห้องและเจ้าของบ็อกเซอร์ลายโดราเอม่อนสุดแสนจะรสนิยมเห่ยนี่ด้วย
“จะกรี๊ดทำไมเนี่ย อยากให้คนในบ้านแห่กันมารุมกินโต๊ะเธอหรือไง”
ชายหนุ่มผู้ถูกกล่าวหาว่ารสนิยมเห่ยใช้นิ้วเขี่ยหูตัวเองเป็นเชิงรำคาญ เขาหลุบตามองร่างบางท่ามกลางความมืดสลัวในห้องอย่างหยั่งเชิง ยิ่งเห็นเธอเอาแต่นั่งหันหลังให้เขาก็ยิ่งอยากจะแกล้ง ริมฝีปากหนาเหยียดยิ้มนึกสนุกก่อนจะย่อตัวลงนั่งย่อง ๆ ด้านข้าง แล้วใช้มือสะกิดไหล่มนเบา ๆ
“นี่เธอ หันมาหน่อยซิ ฉันอยากเห็นหน้าผู้หญิงโรคจิตที่แอบเข้ามาขโมยกางเกงในผู้ชายถึงในห้องจัง ขอดูหน้าหน่อยซิ”
“นะ นี่! ฉันไม่ใช่โรคจิตนะ! ฉันแค่เข้ามาทำภารกิจเฉย ๆ ภารกิจน่ะภารกิจ! เข้าใจป่ะ?!”
เมื่อถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้หญิงโรคจิต หญิงสาวจึงไม่ทนอีกต่อไป เธอหันขวับกลับมาแว้ดใส่เขาเสียงดัง ไม่สนใจแล้วว่าใครจะแห่กันมาบ้าง ช่างหัวสิ! เธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ก็แค่ทำภารกิจที่เป็นธรรมเนียมสืบต่อกันมาเท่านั้น
เรื่องนี้เธอไม่ผิด! ถ้าจะผิดก็ผิดตรงที่เธอเข้ามาผิดห้อง!
“เดี๋ยวนะ ฉันว่าฉันคุ้นหน้าเธอนะ นี่เธอไม่ใช่เด็กเฟรชชี่ปีหนึ่งหรอกเหรอ?”
เจ้าของห้องชี้ถามอย่างไร้มรรยาท คนถูกถามเม้มปากนิด ๆ พลางลุกขึ้นยืน เธอหลุบตามองสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า รู้สึกหน้าร้อนเห่อนิด ๆ เมื่อสังเกตเห็นว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังยืนเปลือยท่อนบนอวดซิคแพคอันแข็งแกร่ง ท่อนล่างสวมเพียงบ็อกเซอร์ลายโดราเอม่อนแสนจะไร้รสนิยมเหมือนกับอีกหลาย ๆ ตัวในลิ้นชักของเขา เธอเบะปากทันทีแล้วตวัดดวงตาคมสวยขึ้นจ้องใบหน้าหล่ออีกครั้ง
ถึงหน้าจะหล่อ หุ่นจะแซ่บแค่ไหน แต่บ็อกเซอร์ลายโดราเอม่อนนี่มันไม่ช่วยเลยนะ...
“เสียใจด้วยที่ฉันไม่ใช่เด็กปีหนึ่ง และฉันก็ไม่คุ้นหน้านายเลยสักนิด เพราะฉะนั้นถอยออกไปซะ” เธอผลักร่างสูงให้หลบทาง แต่มีหรือที่เขาจะยอมทำตามเธอง่าย ๆ มือหนาคว้าข้อมือเล็กอย่างถือวิสาสะ ดวงตาคมเข้มจ้องลึกสู้กับดวงตาสวยราวกับมีประกายไฟบางอย่างเชื่อมกันอย่างไรอย่างนั้น
“อ้อ… พอได้มองหน้าเธอชัด ๆ ฉันคิดว่าฉันจำเธอได้แล้วนะ” ริมฝีปากหนายกยิ้มขณะดึงร่างบางให้หันมาเผชิญหน้ากันตรง ๆ เขาไล่ต้อนคนตัวเล็กกว่าให้ถอยหลังเข้าหาเตียงนอนช้า ๆ “อดีตดาวคณะจอมฉาว สาวสวยที่ชอบแย่งแฟนชาวบ้านจนข่าวคาวดังกระฉ่อนไปทั่วมหาลัย...”
“...”
“เธอสินะ… หยาดฟ้า”
ความเงียบปกคลุมภายในห้องไปชั่วขณะ ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองดังสลับกันแผ่ว ๆ นับว่าเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้พบหน้ากันจริงจังแบบนี้
และใช่... เธอคนนี้คือ หยาดฟ้า อดีตดาวคณะศิลปกรรม สาวสวยเสน่ห์แรงที่มักมีข่าวคราวเรื่องผู้ชายอยู่เสมอ และพวกผู้ชายที่ตกเป็นข่าวกับเธอนั้นส่วนมากจะเป็นคนที่มีเจ้าของแล้วทุกราย
ในความเป็นจริงเธอเองก็รู้จักผู้ชายคนนี้พอสมควรเช่นกัน เขาคือ นับกาล หนุ่มหล่อจอมร้ายกาจจากคณะวิศวะฯ เขาเป็นประธานบ้าน MAD HOUSE แห่งนี้ และยังเป็นหนึ่งในลูกท่านหลานเธอของผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยอีกด้วย
แน่นอน… เธอรู้ว่าเขาเป็นใคร เรียนปีไหน และนิสัยยังไง เพียงแต่ไม่อยากยอมรับก็เท่านั้น เธอจึงเลือกที่จะโกหกเพื่อตัดปัญหาให้มันจบ ๆ ไปซะ
“ถ้าใช่… แล้วจะทำไม? ฉันจะเป็นใครทำไมต้องสน?”
“หึ ปกติก็ไม่เคยสนหรอก เพราะฉันชอบของสด ๆ ไม่ค่อยชอบของคาว ๆ สักเท่าไหร่น่ะนะ” คำตอบแสนกวนประสาทของนับกาลทำให้ร่างบางกำหมัดแน่น รู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันที ถึงเธอจะเคยได้ยินสมญานามต่าง ๆ นานาเกี่ยวกับตัวเองมาเยอะ แต่ไม่เคยมีใครมาพูดใส่เธอตรง ๆ แบบนี้สักครั้ง
หมอนี่มันกล้ามาก!
“อ้อ อย่างนั้นเหรอ” ริมฝีปากบางบิดยิ้มนิด ๆ ดวงตาสวยดุจ้องกลับอย่างไม่ยอมแพ้ “ก็อย่างว่าล่ะนะ พวก ‘สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ’ ก็มักชอบกินแต่ของสด ๆ อยู่แล้วนี่”
“ที่พูดนี่จระเข้ใช่ป่ะ” คำถามกึ่งกวนประสาทของเขาทำให้หยาดฟ้ากรีดยิ้มนิด ๆ ทำไงดี… เขาเล่นถามกลับแบบนี้มันก็เข้าทางเธอน่ะสิ
“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงนะ เพียงแต่มันตัวเล็กกว่ามาก…”
“...”
“เหี้ยน่ะ รู้จักไหม?”