EP.09 #ไม่ได้ขอ

1020 Words
ไอ้… ฉันงับปากที่กำลังรัวคำถามแล้วเปลี่ยนเป็นจิกตาใส่เขาแทน นับกาลใช้สายตาคมเข้มกวาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้าฉันพลางจะกระตุกยิ้มมุมปาก “สภาพเธอตอนนี้โคตรสยองเลยว่ะ เหมือนเพิ่งผ่านศึกครั้งใหญ่มาสามวันสามคืน” พอเขาพูดงั้น ฉันเลยก้มมองสารรูปตัวเองบ้าง เออ… จริงว่ะ สภาพฉันโคตรเยินอ่ะ เสื้อผ้ายับยู่ยี่แถมแขนเสื้อยังขาดหวิ่งอีกต่างหาก ตามท่อนแขนและลำคอเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนขึ้นสีแดง ๆ ฉันค่อย ๆ ยกมือขึ้นจับผมเผ้ากระเซอะกระเซิงให้เข้าที่เข้าทาง ถามว่าตอนนี้ฉันกำลังรู้สึกอะไร… ก็เฉย ๆ นะ ชินแล้ว… “อ่ะนี่” ผ้าขนหนูสีขาวถูกยื่นมาตรงหน้า ฉันเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อแกมเจ้าเล่ห์อย่างไม่ไว้ใจ “อะไร ทำไมต้องมองด้วยสายตาแบบนั้นหะ ก็แค่เอาผ้ามาให้ไปล้างเนื้อล้างตัว” “…” “นู้น… ห้องน้ำ ตามสบายเลย” “ไม่จำเป็น ฉันจะกลับแล้ว” ฉันเดินเบี่ยงตัวหลบร่างสูงเพื่อจะออกจากห้อง แต่นับกาลเดินมาดักหน้าเอาไว้ แถมยังทำหน้าไม่สบอารมณ์ใส่ฉันด้วย “หลบไป” “อะไรวะ ฉันช่วยเธอไว้นะเว้ย ไม่คิดจะขอบคุณกันสักคำแถมยังจะเดินหนีไปง่าย ๆ แบบนี้เหรอวะ” นับกาลทวงบุญคุณ แล้วฉันต้องแคร์ไหม? “ไม่ได้ขอ” “เออ ฉันเสือกเองดิ” เขาชักสีหน้าใส่ ฉันโคตรไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ “งั้นฉันจะลงไปหาตำรวจเอง จบไหม?” ฉันตัดปัญหา รำคาญน่ะ “ไม่จบ เพราะมันไม่มีตำรวจตั้งแต่แรกเว้ย” เขาดูหงุดหงิดกว่าเดิมอีก “หมายความว่าไง ก็ฉันได้ยินเสียงคนตะโกนว่าตำรวจมา?” “ฉันตะโกนเองแหละ เธอคิดว่าฉันจะโง่โทรตามตำรวจเข้ามาระงับเหตุวิวาทเผื่อให้ผับตัวเองถูกปิดหรือไงวะ” ว่าไงนะ… ผับตัวเอง? “ที่นี่ผับนาย?” ฉันขมวดคิ้วถาม รู้สึกแสบแผลนิด ๆ แต่พอทนไหว “ใช่ เพิ่งรู้เหรอ? ห้องที่เธอยืนอยู่นี่มันห้องเจ้าของผับนะ ดูไม่ออกไง?” พอนับกาลพูดแบบนั้นฉันเลยหันไปมองรอบห้องอีกครั้ง จริงสินะ ฉันถูกพาขึ้นมาชั้นสามของผับ ซึ่งมันเป็นที่ส่วนบุคคลเฉพาะเจ้าของผับเท่านั้นถึงจะขึ้นมาได้ “แล้วนายจะเอาไง จะจับตัวฉันส่งตำรวจเลยไหมล่ะ ข้อหาก่อความวุ่นวายในผับของนาย” ไม่ได้ประชดนะ แต่ถามเพราะต้องการจบประเด็นสักที “ก็ไม่เอาไง แค่ทำตามที่สั่งก็พอ” “อะไร?” ฉันเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนริมฝีปากหนาด้วยล่ะ สีหน้านับกาลโคตรไม่น่าไว้วางใจเลย ไม่รู้ทำไมฉันถึงดวงซวยซ้ำซ้อนขนาดนี้กันนะ! ทั้งโดนรุมตบ ทั้งโดนข่มขู่ ทั้งต้องมาเจอผู้ชายอย่างหมอนี่ช่วยเอาไว้ โคตรเฮงซวยจริง ๆ! “ไปล้างเนื้อล้างตัวซะ แล้วค่อยมาทำแผล” “เพื่อ?” “สั่งก็ทำ ไม่ต้องถามได้ป่ะ” บ้าบอสิ้นดี! คิดว่าฉันจะยอมทำตามงั้นเหรอ? ง่ายไปมั้ง! ฉันหลุบตามองปลายเท้าอย่างใช้ความคิดเล็กน้อย พอเห็นว่านับกาลกำลังชะล่าใจฉันก็ยกสองมือขึ้นผลักเขาจนเซไปอีกทางก่อนจะรีบวิ่งมาทางประตู หากทว่าวิ่งมาไม่กี่ก้าวก็ถูกมือหนาคว้าท่อนแขนเอาไว้ทัน เขาจับฉันพลิกตัวกลับมาแล้วดันจนแผ่นหลังแนบชิดกับบานประตู เสียงหอบหายใจของเราสองคนดังแข่งกันเบา ๆ สองตาจับจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร “คิดจะหนีจากฉันยังเร็วเกินไป ยัยดาวจอมฉาว” “เลิกเรียกฉันด้วยชื่อทุเรศนั่นสักที!!” พลั่ก! “s**t!! มันเจ็บนะเว้ย!!” ฉันถ่องขาใส่ส่วนล่างของนับกาลเต็มแรง ตั้งใจว่าจะอาศัยจังหวะที่เขาเจ็บปวดเพื่อหนี ทว่าเขากลับไม่ยอมปล่อยมือจากฉันง่าย ๆ แม้จะงอตัวจนหน้าดำหน้าแดงก็ตาม “ปล่อยสิวะ! ไอ้บ้านับกาล!” ฉันเริ่มหยาบแล้วนะ โมโหมากแล้วด้วย! “ฮึ่ย! ทำร้ายลูกรักฉันขนาดนี้เธอต้องชดใช้โว้ยยย!” “กรี๊ดดด! จะทำบ้าอะไร! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลยนะ!!” ฉันดีดดิ้นตัวเองอยู่บนไหล่ของร่างสูง นับกาลจับฉันพาดบนไหล่แล้วเดินไปทางเตียงนอนก่อนจะโยนฉันลงบนนั้นอย่างไม่ยั้งแรง ร่างฉันกระแทกกับที่นอนเต็มแรงรู้สึกจุกไปชั่วขณะ “เล่นแรงนะยัยตัวร้าย! ฉันจะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู!” นับกาลทาบทับร่างกายสูงใหญ่ลงมา สีหน้าเขาแดงก่ำไม่รู้ว่าแดงเพราะเจ็บหรือแดงเพราะโกรธกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ คือเขาเอาจริงชัวร์! “อย่าคิดทำอะไรบ้า ๆ นะนับกาล! เราไม่รู้จักกัน! และฉันก็เกลียดขี้หน้านายด้วย! เพราะงั้นอย่ามาทำชั่ว ๆ ใส่ให้ฉันเกลียดมากไปกว่านี้ได้ยินไหม!” ฉันรัวคำพูดออกมาตามสมองคิด สองมือพยายามปัดป้องร่างสูงให้ถอยห่างจากตัว แต่ทำได้ยากเย็นมากเพราะเขาไม่ยอมถอยไปง่าย ๆ น่ะสิ! “ฉันก็ไม่ได้พิศวาสเธอเลยสักนิด ก็แค่สงเคราะห์เพราะเห็นว่าโดนรุมตบหรอก ไม่คิดว่าเธอจะอกตัญญูขนาดนี้” อกตัญญูงั้นเหรอ…? “แม่ฉันสอนเอาไว้ว่าใครที่มีบุญคุณกับเรา เราก็ควรจะตอบแทน แม่เธอไม่สอนหรือไงหะ?” ฉันชะงักไปกับคำพูดของนับกาลด้วยความรู้สึกหน้าชาราวกับโดนตบ มันจี้ใจฉันจนพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำหน้าแบบไหน ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำอะไรต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD