“นักเรียนเคารพ” หัวหน้าห้อง ม.6/1 บอกอย่างเคย เพราะเธอทำหน้าที่นี้มาตลอดเป็นปีที่ 3
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ” นักเรียนในห้องกล่าวเสียงดังฟังชัด ต้อนรับคุณครูคนใหม่ที่เปิดประตูห้องเข้ามา แต่ที่เสียงดังที่สุดคงไม่พ้นยัยพริกเพราะนั่งโต๊ะตัวหน้าสุดติดกับโต๊ะครูประจำวิชา
ครูสาวกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องเรียนสี่เหลี่ยม ผนังขาวรอบด้าน มีคอมพิวเตอร์วางเรียงแถวเป็นแนวยาว คาดคะเนด้วยสายตา น่าจะประมาณ 40 ตัว อากาศในห้องค่อนข้างร้อน เนื่องจากเครื่องปรับอากาศยังไม่เปิดใช้งาน นึกถึงคำพูดท่านผู้อำนวยการให้เปิดตอน 10 โมง เหลียวไปข้างหน้าต่าง เห็นผ้าม่านสีชมพูอ่อนใช้บังความร้อนจากแสงแดดยามบ่าย พลันคิดได้ว่าทางนี้คงทิศตะวันตกแน่นอน
“สวัสดีค่ะ นักเรียนทุกคน เมื่อเช้าได้เจอกันแล้วที่หน้าแถว ไม่รู้มีใครจำชื่อครูได้บ้างไหมคะ”
“ครูชื่อครูมะนาว” นักเรียนในห้องร้องบอกอย่างสามัคคี พร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ส่งผ่านมาด้วย ทำเอาครูสาวต้องส่งยิ้มหวานคืนกลับไป
“ครูอัยริน ผดุงพิทักษ์ ชื่อเล่น ครูมะนาวค่ะ” คนนั่งหน้าสุดตอบอย่างภูมิใจ ได้จังหวะพอดี เพราะคนอื่นเงียบไปหมดแล้ว
“หนูชื่อพริกค่ะ พิมนพรรณ คงปัญญา เลขที่ 8” พอได้ที พริกก็รัวทั้งชื่อครูและชื่อตนอย่างเต็มที่
“ใครถามวะ ไอ้พริก ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ” เพื่อนผู้ชายที่นั่งหลังสุดตะโกนดังขึ้นมา ทำเอาเพื่อนๆ ทั้งหมดอดหัวเราะตามไม่ได้
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ พริก” อัยริน ทักทายนักเรียน หลังจากนั้นจึงเรียกชื่อ ทำกิจกรรมสร้างความคุ้นเคย แนะนำรายวิชา และการเก็บคะแนนให้นักเรียนทราบ จึงเริ่มต้นบทเรียน
หลังจากที่กลับมาจากโรงเรียนแล้ว อรรคาก็เข้าไปที่บริษัท รังสรรค์เนรมิต จำกัด บริษัท รับเหมาก่อสร้างที่มีชื่อเสียงในกลุ่มภาคเหนือ เพื่อหารือเรื่อง โครงการห้องเรียนอัจฉริยะ กับบิดาของเขา
“กลับมาแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง” บิดาถามเสียงเรียบ และเงยหน้าขึ้นมองลูกชายคนเล็กอย่างใจเย็น
“ก็ปกติดีครับ” เขาตอบสั้น ๆ ชายหนุ่มนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของบิดา ทอดสายตาไปยังกระจกใส เผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
“ทุกวันแกทำหน้ายังกับตูด วันนี้ไปเจออะไรเข้าให้ล่ะ ถึงยิ้มแป้นมาขนาดนี้” บิดาหยอก เพราะทุกวันลูกชายทำหน้าบอกบุญไม่รับ ยิ่งต้องไปเจอผู้คนสรรเสริญเยินยอตัวเขา บริษัทเขา รวมทั้งบิดาของเขาเองด้วย กับเรื่องของผลประโยชน์ก็เอือมระอาจนบ่นออกมาบ่อยครั้ง
“พ่อ ผมขอดำเนินการเองได้ไหม เรื่องห้องเรียนอัจฉริยะ โรงเรียนดำรงเลิศปัญญา”
“ได้ ถ้างบประมาณมันเป็นของบริษัทเราทั้งหมดแกจะทำเองก็ได้ แต่นี่งบส่วนหนึ่งมาจากรัฐวิสาหกิจด้วย เขามีเจ้าหน้าที่ของเขาอีก เดี๋ยวนะ! ปีนี้ เราสนับสนุนไป 3 โรงเรียน ทำไมแกบอกจะทำเองที่ดำรงเลิศฯ วะ ห๊ะ” บิดาถามด้วยความสงสัย
“ก็……ก็ดำรงเลิศฯ โรงเรียนเก่าพ่อไง พ่อก็ช่วยโรงเรียนมาตลอด ผมก็อยากจะช่วยพ่อบ้าง อีกอย่างบริษัทเรากับโรงเรียนอยู่ไม่ไกลกัน” เขาตอบไปอย่างรนๆ
“จริงๆ แกก็ควรทำทั้งหมดทุกที่ ถ้าทำที่ดำรงเลิศฯ อย่างเดียว เจ้าหน้าที่จากรัฐวิสาหกิจเขาก็หาว่าเราเลือกที่รักมักที่ชัก” ชายสูงวัยให้คำตอบลูกชายอย่างจริงจัง
หลังจากเงียบกันไปสักพัก…..
“แกบอกจุดประสงค์จริงๆ แกมาดีกว่า แกคิดว่าพ่อรู้ไม่ทันแกหรือไง” ชายสูงวัยบอกหลังจากรอคำพูดจากลูกชายแล้วไม่ได้ดั่งใจ
“ถ้าผมบอกพ่อ พ่อต้องให้ผมทำนะ” เขารบเร้าผู้เป็นบิดาอย่างกับเด็กต้องการของเล่นใหม่
“ไง เจอของถูกใจ เป็นครูหรือนักเรียนวะ อย่างหลังไม่เอานะเว้ย กูไม่อยากไปประกันตัวเสียชื่อบริษัท จะฉิบหายกันหมด คิดดีๆ ” ผู้เป็นพ่อรีบออกตัว ถึงแม้ว่าจะรู้ลูกชายคนเล็กไม่เคยมีประวัติไม่ดีด้านผู้หญิงมาก่อนก็ตาม
“ถ้าอย่างแรกล่ะ พ่อจะว่ายังไง” ชายหนุ่มให้คำตอบพร้อมยิ้มน้อยๆ แก้เก้อ
“ว่ะ อยากจะเห็นหน้านางหนูคนนั้นสักที เป็นยังไงหนอ ถึงทำให้ไอ้ลูกชายพ่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” โดนหยอกอีกดอก
“สรุปพ่อจะให้ทำไหม ถ้าให้ผมจะได้ให้อิทธิโทรบอกเจ้าหน้าที่ฝั่งโน้นว่าเราสะดวกดำเนินงานตรงนี้ และให้เขาจัดการส่วนนั้นไปครับ” อรรคาเร่งเอาคำตอบ
“เอ่อ ถ้าแกเคลียร์กับทางโน้นได้ ก็แล้วแต่แก ขอเตือนไว้ก่อนนะเว้ย จะทำอะไรคิดดีๆ เขาก็ลูกมีพ่อมีแม่ แกก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว คนรู้จักแกเยอะแยะ อีกอย่างเขาเป็นครูบาอาจารย์ ก็ต้องให้เกียรติเขาด้วย”
“คร้าบบบบพ่อ ” ถ้าหัวใจมันกระโดด กระเด้ง กระเด็นออกมาได้ คงกองอยู่ที่พื้นแล้ว ชายหนุ่มยกมือไหว้บิดา แล้วเดินออกจากห้องอย่างอารมณ์ดี ถึงแม้ว่าเขาจะมีสิทธิและอำนาจในบริษัทนี้ แต่ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ก็ยังคงรายงานพ่อ และพี่ชายเสมอ
สองสัปดาห์ผ่านไป อัยรินปรับตัวได้กับที่ทำงานใหม่ เด็กๆ ส่วนใหญ่ค่อนข้างน่ารัก แต่ที่สนิทกับเธอมากหน่อยเห็นจะเป็นพริกที่มักจะนำขนม น้ำผลไม้ โน้ตเล็กๆ วางแปะไว้ที่โต๊ะเสมอ
วันนี้ก็เช่นเดียวกัน
“เมื่อวานครูไปไหนกับครูฝ้ายมาหรอคะ หนูเห็นใน Story Facebook ครูฝ้าย”
“ไปดูหนังกันมาค่ะ ครูฝ้ายชวนไปหลายครั้งแล้ว แต่ครูไม่ว่างสักที เมื่อวานมีโอกาสเลยไปกันค่ะ”
“ครูไม่ว่างบ่อยๆ แบนี้ เพราะทำงานหรือไปเที่ยวกับแฟนคะ” พริกถามเหมือนซื่อ แต่ความจริงลุ้นกับคำตอบของครูสาวอย่างมาก
“ทำงานค่ะ ครูย้ายใหม่ ยังมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย ช่วงแรกๆ เลยไม่ค่อยมีเวลาน่ะ”
“ครูไม่มีแฟนเหรอคะ” ตึก ตึก ตึก ใจเธอเต้นแรง ตอนพูดว่าหนักแล้วตอนรอฟังคำตอบยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
--------กริ๊งๆ ๆ ๆ ๆ เสียงมือถือครูอัยรินดังขึ้น---------
‘มะนาว ผอ.เชิญพบที่ห้องประชุมเล็กค่ะ ตอนนี้เลยนะ’
อัยรินรับสายแล้วลุกขึ้นทันที หมุนตัวทำทีจะเดินออกไปแต่ก็ไม่วาย หันมาให้คำตอบนักเรียนของเธอ
“ครูโสดค่ะ”
พริกอ้าปากค้าง สวรรค์เปิดทาง ครูโสด สดด้วย ใช่แน่ๆ เรื่องแค่นี้คิดว่า คาดเดาไม่ผิด ครูมักระมัดระวังตัวเอง เวลาคุยับผู้ชาย ไม่ว่า ครูชายหรือนักเรียนชาย ปล่อยพริกมโนต่อไป
“อ้าว มาๆ เข้ามามะนาว ผอ.จะแนะนำให้รู้จักกับคุณอรรคา วันนี้เขาเข้ามาประสานงานเรื่องห้องเรียนอัจฉริยะน่ะ” ผอ.กล่าวอย่างแจ่มใส
“คุณอรรคาครับ นี่ครูอัยริน หรือครูมะนาวที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะให้รับหน้าที่ดูแลประสานงาน และโน้นครูมุกลดา หรือครูมุก ดูแลเกี่ยวกับพัสดุครับ” อัยรินและมุกลดายกมือไหว้อรรคาและอิทธิเลขาส่วนตัวของเขา
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ ผมอรรคา หรือ เรียกว่า อรรคก็ได้ครับ มาช่วยคุณพ่อเรื่องงานห้องเรียนอัจฉริยะ หลังจากนี้คงได้เจอกันบ่อยๆ ครับ” อรรคากล่าวอย่างมีไมตรี
หลังจากการประชุม ทำข้อตกลงตามระเบียบหลักเกณฑ์เรียบร้อย ผอ.จึงขอตัวไปร่วมงานที่ศูนย์ราชการพร้อมครูมุกลดา ทำให้หน้าที่พาอรรคา อิทธิ และเจ้าหน้าที่จากบริษัทคอมพิวเตอร์ สำรวจห้องที่จะใช้รองรับห้องเรียนอัจฉริยะตกเป็นของอัยริน เธออธิบายและให้ข้อมูลอย่างละเอียดแก่เจ้าหน้าที่ ถึงแม้จะเพิ่งมาอยู่ เธอเตรียมตัวมาดี กิริยาท่าทาง น้ำเสียง ล้วนถูกจับจ้องจากชายหนุ่มที่ยืนไม่ห่างออกไปไม่ไกลนัก...