TOBB ♡ CHOMPOO
2 : ค่าขนม
ฉันกับพี่ต๊อบยืนกันเงียบ ๆ แต่ฉันรู้สึกว่ามีคนมองมาทางพวกเราสองคนตลอดเวลา พี่ต๊อบเองก็เหมือนจะรู้นะ เพราะเขาจ้องฉันเขม็งแล้วเหมือนจะบอกให้ฉันรู้
ว่าอย่าหันไปมองด้านหลังเด็ดขาด.....
“กลับบ้านเลยปะ”
พี่ต๊อบถามขึ้นมา
“แวะตลาดก่อน จะซื้อของไปเพิ่ม”
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่อยากพูดกับเขา แต่เวลานี้ฉันสบายใจที่เขาอยู่ใกล้ ๆ
ไม่ใช่หวั่นไหวหรอกนะ ฉันก็แค่กลัว
“งั้นลงเถอะ”
พี่ต๊อบกดกริ่งรถ แล้วดันฉันไปยืนรอทางประตู โดยที่มือของเขาคล้องคอฉันไว้ เหมือนพี่ชายหวงน้องสาว
“นิ่งไว้ พวกนั้นมองอยู่”
เขาก้มมากระซิบจากด้านหลัง นั่นทำให้ฉันกระจ่างแจ้ง ว่าคนที่เป็นจุดสนใจของกลุ่มวัยรุ่นหน้าดุ นั่นคือตัวฉัน ไม่ใช่พี่ต๊อบ
“ถ้าไม่แอบตามมาจะเป็นยังไงเนี่ย”
พอเราลงรถ ฉันที่เริ่มตั้งสติได้ก็หยุดตัวสั่น พี่ต๊อบเองก็เหมือนจะดุฉันนิด ๆ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ฉันเจออะไรแบบนี้ เส้นทางที่ฉันใช้ไปกลับโรงเรียนทุกวัน มันจะผ่านสถาบันต่าง ๆ และ มันก็มักจะมีคนสนใจชุดนักเรียนที่ฉันสวมใส่เสมอ
ฉันโดนมองแบบจ้องจะกิน บ่อยมาก ๆ ฉันไม่รู้ว่าพวกผู้ชายจะคิดยังไงกับรูปลักษณ์หน้าตาของฉัน ฉันแค่หลีกเลี่ยงมันโดยการลงก่อนป้ายเสมอ นั่นทำให้ฉันไม่มีเงินเหลือจากค่าขนมที่แม่ให้มาเลย
ถ้าวันไหนเค้กไม่อาสามาส่ง ฉันก็ต้องเจออะไรแบบนี้ อยู่เรื่อยเลย!
“ขอบคุณนะคะ ที่ช่วย”
ฉันไม่ตอบเขา ยกมือไหว้เป็นการขอบคุณจริง ๆ แล้วก็กะว่าจะเดินหนีเข้าตลาดแล้วค่อยหาทางกลับบ้านเอง
“เดี๋ยวสิวะ มีตังพอซื้อของหรือไง”
ทำไมคำพูดของพี่ต๊อบถึงสะกิดใจฉันนะ
เขารู้ด้วยเหรอว่าฉันจะซื้ออะไร แล้วมีตาทิพย์มาส่องเห็นสตางค์ในกระเป๋าฉันด้วยหรือไง
ลืมไป... เขาเป็นคนถือกระเป๋านักเรียนของฉันตอนอยู่บนรถ ว่าแต่เขาเอาเวลาไหนไปค้น
มีสกิลขโมยขโจรในตัวเยอะแน่ ๆ เลย!
“ก็ซื้อเท่าที่มีนั่นแหละพี่”
ฉันตอบปัด หาทางไปเพื่อที่เขาจะได้เลิกตาม
“ดื้อ”
พี่ต๊อบเขกหน้าผากฉันเบา ๆ ถือดียังไงมาแตะต้องร่างกายฉัน
“มานี่”
ชอบดึงทำไมแรงนัก ฉันไม่ได้แข็งแรงบึกบึนเหมือนเขานะ
สุดท้าย ฉันก็เดินหนีพี่ต๊อบไม่ได้ โดยที่เขาหยิบจับผักต่าง ๆ ได้ตรงตามที่แม่ฉันโทรมาสั่งเป๊ะ ๆ เลย
กว่าเราจะออกจากตลาดกันได้ ก็ใช้เวลาไปร่วมชั่วโมง พี่ต๊อบที่หิ้วถุงพะรุงพะรัง โบกแท๊กซี่อย่างชำนาญโดยการกระดิกนิ้วเอา
บางทีท่าทางของเขา ก็เรียกส้นเท้ามากจริง ๆ นะ
“เดี๋ยวชมจะเอาเงินกับแม่มาคืนให้พี่นะ”
ฉันบอกคนที่นั่งข้างกัน ในเบาะหลังรถแท็กซี่ โดยพี่ต๊อบนั่งเงียบ ๆ ก้มมองมือถืออยู่อย่างนั้น
แต่พอสิ้นเสียงฉัน เขาก็เหลือบตามามองฉันนิดหน่อย ก่อนจะมองผ่านไป เหมือนไม่ได้สนใจอะไร
ทำไมฉันต้องมาติดแหง็กกับมนุษย์แกล้งใบ้กวนประสาทคนนี้ด้วย
“อ้าวชม ต๊อบ มาด้วยกันได้ไง”
แม่ทักขึ้นเสียงดัง เมื่อเห็นฉันกับพี่ต๊อบพากันหอบหิ้วผักและของสดต่าง ๆ เข้ามาวางที่โต๊ะด้านในร้าน
“ผมเจอน้องยืนเอ๋อรอขึ้นรถเมล์อยู่ครับ เลยเรียกรถแล้วนั่งมาเป็นเพื่อน”
ดูปาก ยืนเอ๋อกับผีน่ะสิ ฉุดขึ้นรถ ฉุดไปเดินตลาด ฉุดกลับมาส่งถึงมือแม่ที่บ้าน แล้วยังมาหาว่าฉันเอ๋อ
ไอ้คนปากไม่ดี!
“เท่าไหร่ล่ะต๊อบ เดี๋ยวป้าคืนเงินให้”
ฉันไม่สนใจแม่กับเขาว่าจะคุยอะไรกันต่อ ฉันรีบเดินขึ้นบันไดบ้านไปยังห้องนอนของตัวเอง
รู้ไหม พี่ต๊อบแอบเอาอะไรใส่กระเป๋าของฉัน
มันคือหนังสือที่ฉันอยากได้มาก ๆ มันเป็นหนังสือพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่มีความคิดความอ่านมากขึ้น มันเป็นเล่มแปลมาจากภาษาญี่ปุ่น ซึ่งราคามันก็ห้าร้อยกว่าบาท ไม่ได้แพงมากสำหรับคนอื่น แต่ถ้าเป็นฉัน ให้ซื้อมันเองคงไม่ไหวแน่ ๆ
เขาเห็นฉันยืนจ้องมอง เขาเดินดุ่ม ๆ เข้าไปซื้อแล้วยัดมันเข้ากระเป๋าฉันอย่างถือวิสาสะ
“ชม ลงมาช่วยแม่หน่อย”
เสียงแม่ตะโกนขึ้นมา ฉันจึงผุดลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปหาแม่ที่อยู่ข้างล่าง
“ไงเรา มากับพี่ต๊อบได้ไง”
แม่ถามอย่างสงสัย ในขณะที่ฉันกำลังล้างจานที่แม่เป็นคนเดินไปเก็บมากองให้
“ชมขึ้นรถเมล์ เจอกลุ่มวัยรุ่นอีกแล้วแม่”
ฉันบอก แม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้จากปากของฉันหลายครั้งแล้ว ถึงแม่จะห่วงฉันมาก แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อที่ ที่ฉันเล่าเรียน ฉันก็ได้รับทุนการศึกษามา จะทิ้งไปก็เสียดาย
“แม่เป็นห่วงชมนะลูก”
“ชมจะดูแลตัวเองค่ะแม่”
“ต๊อบก็เป็นคนดีนะ เคยช่วยเหลือแม่ตั้งหลายครั้ง แถมยังพ่วงมาช่วยลูกสาวแม่อีก”
“. . . . .”
ฉันหัวเราะเบา ๆ คนดีแต่กวนประสาทเก่ง แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ
“เดี๋ยวแม่ผัดข้าวให้ ลูกก็เอาไปขอบคุณพี่เขานะ”
เดี๋ยวนะ... ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ
“ไม่เอา...”
“เถอะหน่า เดี๋ยวรอแม่ทำเสร็จก็ปั่นจักรยานไปส่งพี่เขา”
แม่ไม่ยอมฟังฉันเลย
20 นาทีต่อมา ฉันมาถึงหน้าร้านของพี่ต๊อบแล้ว
“พี่ต๊อบ”
ฉันตะโกนเรียกอยู่ข้างนอก
ดูเหมือนพี่เขาจะไม่ได้อยู่คนเดียวนะ เพราะรองเท้าที่กองอยู่หน้าประตูมีตั้งหลายคู่ มีแต่คู่ใหญ่ ๆ น่าจะมีแต่ผู้ชาย
แต่สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาสูบบุหรี่ เขาตัวสูง ตาโตหวานเหมือนผู้หญิง พอเห็นฉันยืนชะเง้อคออยู่ เขาก็เลยเดินมาหา
“มาหาใครครับ”
ขอบคุณที่ถามแบบสุภาพ ไม่ห่ามเหมือนกับเจ้าของร้านนี้
“เอาข้าวมาส่งให้พี่เจ้าของร้านค่ะ”
“ไอ้พี่ต๊อบมันสั่งข้าวเหรอวะ พี่ต๊อบออกมานี่ดิ่”
เขาน่าจะเป็นรุ่นน้องของพี่ต๊อบ เพราะเรียกว่าพี่ สักพักผู้ชายหน้าดุก็เดินออกมา
“มาทำไร”
คำพูดคำจาของเขา ไม่น่าเอาข้าวมาให้เลย
“เด็กพี่เหรอ”
ผู้ชายคนสุภาพถามพี่ต๊อบ ซึ่งเขานั้นส่ายหน้าแล้วไล่พี่คนนั้นเข้าร้านไปด้วยสายตา
พี่คนนั้นมองฉันสลับกับพี่ต๊อบ เขาคลี่ยิ้มหวาน ก่อนจะเดินผิวปากเข้าบ้านไป
พวกเขาเล่นจิตวิทยากันเก่ง!
“ข้าวไร ไม่ได้สั่ง”
เขามองกล่องข้าวที่ฉันถือ
“แม่ให้เอามาขอบคุณพี่ เรื่องวันนี้”
ฉันยื่นให้เขา เขารับไปแล้วกระตุกยิ้ม
“เล่าด้วยเหรอ”
“เล่า แต่บอกไม่หมด ไปนะพี่”
ฉันหมุนตัวไปหาจักรยานแต่ไม่ทันจะได้ออกตัว
“มานี่ก่อน”
พี่ต๊อบกระดิกนิ้วเรียก ด้วยสายตานั้นฉันจึงขยับเข้าไปใกล้
ธนบัตรหลายใบหลายสี มีทั้งจำนวนน้อยไปถึงจำนวนมากของตัวเลข ถูกทิ้งไว้ในตะกร้ารถจักรยานของฉันโดยฝีมือพี่ต๊อบ
“ให้... ค่าขนม”
พี่ต๊อบบอกแค่นั้น เขารีบเดินเข้าร้านไปในขณะที่ฉันกำลังเอ๋ออยู่
ทำไมต้องให้ฉันด้วยล่ะ นี่มันไม่ใช่น้อยเลยนะ ฉันคงไม่ต้องพึ่งเงินแม่ไปทั้งอาทิตย์หรืออาจจะเป็นเดือนเลย
ฉันมองเข้าไปในร้านอีกครั้ง เห็นพี่ต๊อบโบกมือไล่เพื่อให้กลับบ้าน
ซึ่งฉันก็ปั่นจักรยานกลับ ทั้งที่ยังงงอยู่นั่นแหละ
ซื้อหนังสือให้ ทั้งยังเอาเงินให้อีก
หมายความว่าอะไรกัน!