7

1469 Words
TOBB ♡ CHOMPOO 7 : เล่นแรง ฉันเดินขึ้นห้องมาด้วยความเหนื่อยล้าอ้าแขน พี่ต๊อบพาตระเวนไปนู่นนี่ แต่พอฟ้องแม่ แม่ก็ดันไปทำข้าวให้เขาเอาไปกินที่บ้านซะงั้น ทำไมรู้สึกว่าแม่ลำเอียง! “นั่นอะไรยัยชม” พี่พู่ถามขึ้น เมื่อมองเห็นสิ่งที่ฉันถือผ่านกระจกที่เธอนั่งแปรงผมอยู่ “ชุดที่จะใส่ไปงานวันเกิดแม่เค้ก” “ยัยเพื่อนแกนี่ชอบแกเหรอ ใจดีเกิ้น” พี่พู่ว่าอย่างขำขัน เธอไม่ได้คิดอะไรหรอก มันแค่คำแซว แต่ฉันน่ะคิดไปไกลแล้วค่ะ ฉันวางทุกอย่างไว้ที่ฟูกนอน ตรงเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย พลางคิดถึงคำพูดของพี่ผู้หญิงคนนั้นที่เอ่ยแซวพี่ต๊อบตอนนั่งอยู่ที่ร้าน พี่ต๊อบเลิกกับแฟน แล้วไม่คบใครอีก ไหนจะบอกว่าเป็นตาแก่หวงลูกสาวนั่นอีก ฉันคิดนะ ไม่ใช่ไม่คิด พอฉันเดินเช็ดผมมา ก็เห็นว่าพี่พู่อยู่ในเสื้อสายเดี่ยว กำลังวีดีโอคอลกับใครสักคน ไม่พ้นคงจะอ้างว่าเป็นเพื่อนที่คณะ ทั้งที่จริงมันอาจมากกว่านั้นก็ได้ ฉันไม่มีมือถือใช้หรอก มันก็ไม่จำเป็นด้วย แต่พี่พู่ต้องมีเพราะถ้าไม่กลับบ้าน แม่ก็โทรหาได้ ว่าอยู่ไหน ยังไง “จะนอนแล้วเหรอ” พอฉันเช็ดผมแห้งดีแล้ว ฉันก็ล้มตัวลงฟูกนอนของตัวเอง พี่พู่นอนเตียงเหล็กธรรมดา ฉันไม่ค่อยชอบเตียง เลยบอกแม่ว่าไม่จำเป็นต้องใช้ จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปด้วย “อืม.. ชมเพลีย” ฉันเอาผ้ามาปิดหน้าไว้ เพราะรำคาญแสงไฟมันแยงลูกตา พี่พู่คุยโทรศัพท์สักพักก็ยอมลุกไปปิดไฟ ไม่นานห้องเราก็มืด เราสองคนก็ตกไปอยู่ในห้วงนิทราด้วยกัน เช้าวันหยุดที่ฉันมาเปิดร้านรอแม่ ท่านไปจ่ายของที่ตลาด เหนื่อยแค่ไหนก็อยากลุกมาช่วยนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ดี แค่คิดว่าแม่ยืนผัดข้าวตลอดวันก็เหนื่อยแทนมาก ๆ เลย ค่ากินอยู่ ค่าเช่าบ้าน ไหนจะมีเก็บเพิ่ม20% หากว่าประกอบกิจการอีกเจ้าของตึกโคตรจะหน้าเลือดเลย “ดื้อ” เฮือก... ฉันผวาตกใจ เมื่อเสียงทุ้มใหญ่กระซิบกระซาบข้างหู ฉันตื่นกลัวจนเผลอตัวทำมือไว รีบหันกลับไป แล้วฟาดแขนคนนั้นหนึ่งที “ขวัญอ่อนไง่?” เขาลูบแขนตรงที่โดนฟาด แล้วมองหน้าฉันนิ่ง “มาทำไรแต่เช้าเนี่ย” พอเริ่มตั้งสติได้ ก็ถามเขาออกไป แต่พี่ต๊อบก็เมินคำถามฉัน แล้วตรงไปหยิบแก้วที่ชั้นวางไว้สำหรับลูกค้า เขาดึงมือฉันมาที่โต๊ะหินอ่อนหน้าร้าน บนโต๊ะมีน้ำเต้าหู้สองถุง พอพี่ต๊อบเทใส่แก้ว ก็เห็นว่าถุงหนึ่งมีลูกเดือยอยู่ข้างใน อีกถุงเป็นทรงเครื่อง อะไรของพี่ต๊อบนะ! “กินข้าวยัง” เขาถามแล้วหยิบปาท่องโก๋เข้าปาก “ชมพึ่งจัดของเสร็จ รอแม่กลับมาถึงจะทำกับข้าวกิน” “งั้นก็นั่ง รถเสียอยู่ อีกนานป้าจะกลับ” เขามองมาที่ฉัน กดดันกันด้วยสายตาให้ฉันหยิบน้ำเต้าหู้ขึ้นมาซด ถ้าพี่ต๊อบเป็นหมอดูก็ว่าไปอย่าง เขาพึ่งเคยซื้อน้ำเต้าหู้ให้ฉันครั้งแรก แต่ทำไมเขาถึงรู้ว่าฉันไม่ชอบใส่อะไรนอกจากลูกเดือย “พี่รู้ได้ยังไงว่าแม่รถเสีย” ฉันถามคนที่นั่งดูผลบอลในหน้ากระดาษที่เขาพึ่งขอจากลุงส่งหนังสือ ที่ขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งตามบ้าน “ป้าโทรมาบอก” “แล้วทำไมแม่ไม่โทรเข้าบ้าน” “โทรศัพท์เสียไม่ใช่เหรอ” บางทีก็นึกว่าพี่ต๊อบเป็นหนูที่สิงสู่ในตัวบ้านของฉันนะ รู้ดี รู้ลึกไปหมด ฉันย่นจมูก เมื่อไม่รู้จะถามอะไร ได้แต่นั่งกินของที่เขาซื้อมาให้ไปเงียบ ๆ “หนังสือที่ซื้อให้อ่านจบรึยัง” ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบ หางตาก็เห็นว่าพี่ต๊อบ หลุดยิ้ม..... “มีเล่มไหนอยากได้อีกไหม” ฉันส่ายหน้าอีกรอบ พี่ต๊อบใจดีเกินจนน่ากลัว เขาต้องแอบคิดมิดีมิร้ายกับฉันแน่ ๆ ถึงได้เผื่อแผ่เป็นพ่อบุญทุ่มขนาดนี้ “ชมพู แม่กลับมารึยัง” เสียงของพี่พู่ดังขึ้นจากข้างบนบ้าน ฉันจึงรีบวิ่งเข้ามาหาเธอ ไม่พ้นออกไปข้างนอก และ ก่อนออก เธอจะต้องขอเงินแม่ก่อนทุกครั้ง “ยังเลย ชมรออยู่เนี่ย” ฉันมองพี่สาวที่แต่งตัวสวย เธอเดินไปหยิบเงินของแม่ในเก๊ะออกมา 500บาท ฉันจึงรีบทักท้วงอย่างไว “พี่พู่ มันเกินไปไหม” “ก็แม่ไม่อยู่ แกก็ไม่ต้องพูด” พี่สาวจิ๊ปากใส่ฉันระคนหงุดหงิด “จะไม่ให้ชมพูดได้ไง ห้าร้อยเลยนะ กว่าแม่จะได้มา ต้องผัดข้าวกี่จาน” ฉันเดินตรงไปยื้อแย่งเงินในมือของเธอ แต่ก็โดนมือพี่พู่จับกรามของฉันไว้ แล้วบีบ “แกอย่ายุ่งเรื่องของฉัน แล้วถ้าแม่รู้ แกโดนดีแน่” ดวงตาคมเฉี่ยวจ้องมองฉัน กดดันไม่ให้ฉันปริปาก พี่พู่บีบกรามฉันแรงขึ้นจนฉันต้องเบ้หน้าเพราะรู้สึกเจ็บ เธอมองฉันสักพัก แล้วตรงไปหยิบกระเป๋าใบเล็กของเธอที่ความจริงก็คือของฉัน เธอแต่งตัวสวยและดูโป๊เกินไป ทั้งที่วันนี้เธอก็หยุดเช่นเดียวกับฉัน แต่เธอก็ไม่คิดจะอยู่ช่วยงานแม่เลย ฉันนั่งอยู่ตรงนั้น หลังจากพี่พู่เดินออกไป ฉันรู้สึกว่าสังคมที่พี่พู่ไปอยู่และอยากจะเป็น มันทำให้เธอทำอะไรเกินตัว อวดเกินความจำเป็น ทั้งที่แม่ส่งเงินให้เรียน ให้เงินเพื่อไปเรียน แต่เธอก็ทำตัวแบบนั้น “ชมพู” เสียงแม่ดังขึ้น แม่คงมาถึงหน้าบ้านแล้ว ฉันปาดน้ำใส ๆ ที่ไหลออกมาเอง ให้หมดไปจากพวงแก้ม แล้วลงมาช่วยแม่จัดของ “พึ่งตื่นเหรอ ทำไมตาบวม” เสียงของแม่ ทำให้พี่ต๊อบที่นั่งอยู่ที่เดิม เหลือบตามามองฉัน “เปล่า ชมตื่นตั้งนานแล้ว” ทำไมแค่น้ำตาซึม ตาฉันถึงบวม ฉันจะโกหกใครไม่ได้เลยใช่ไหมชีวิต “รีบไหมต๊อบ ป้าว่าเดี๋ยวให้ชมพูเอาไปส่งอีกทีละกัน” แม่พูดกับเขา แต่เขายังจ้องหน้าฉัน “ถ้างั้นผมไปรอที่บ้านนะป้า” พี่ต๊อบเดินกลับไปทางร้านเขา แต่ฉันกำลังโดนสายตาผู้เป็นแม่จับจ้อง “แม่กลับมายังไง ชมไม่ได้ยินเสียงลุงสามล้อเลย” ฉันแสร้งถามไปเรื่องใหม่ เพราะกลัวตัวเองจะหลุดปากพูดเรื่องพี่พู่ออกไป “แม่นั่งมาอีกคันสิ เขาส่งแล้วก็รีบไปรับลูกค้าต่อ” “ชมพู” ฉันเงยหน้าจากถุงผักคะน้า แล้วมองหน้าผู้เป็นแม่อย่างงุนงง “คะ?” “คางไปโดนอะไรมา” แม่มองฉันด้วยแววตาสงสัย แสดงว่าพี่พู่เล่นแรงพอสมควร มันถึงได้ขึ้นเป็นรอย “ทะเลาะกันเรื่องอะไร” เสียงแม่แข็งขึ้น ท่านคงรู้ว่าพี่พู่เป็นยังไง ฉันเป็นยังไง ก็เราสองคนเป็นลูกแม่ แม่เลี้ยงเรามาด้วยตัวเอง แม่ต้องรู้อยู่แล้ว ว่าเราทั้งคู่นิสัยใจคอเป็นยังไง “บอกแม่มา ชมพู” ฉันชั่งใจสักครู่ เลยบอกไปทุกอย่างตามความจริง ฉันไม่อยากโกหกแม่ แม่ถอนหายใจ ท่านเองก็น่าจะมีเรื่องเครียดอยู่พอตัว เพราะฉันแอบเห็นสมุดจดรายการทำบัญชีรายรับรายจ่ายของแม่มันติดลบ “ไปทายาก่อนไป เดี๋ยวแม่ทำข้าวให้พี่ต๊อบก่อน แล้วก็เอาไปส่งพี่เขานะ” ฉันพยักหน้าแล้วขึ้นมาทายาตามที่แม่บอก ตอนพี่พู่อยู่หอเมื่อปีที่แล้ว ฉันรู้สึกดีที่ได้นอนคนเดียว ทำอะไรในห้องคนเดียว ข้าวของเครื่องใช้ก็ไม่ต้องแอบต้องซ่อน ฉันได้ของจากเค้กมามากมาย ตอนนี้กลับกลายเป็นพี่พู่ที่มาร่วมใช้ด้วย ทั้งบางอย่างยังถูกยึดไปอีก บางทีก็คิดตื้น ๆ นี่พี่สาวเราจริง ๆ งั้นเหรอ แต่หน้าตาที่คล้ายกันมันก็บ่งบอกว่าใช่ พี่พู่ไม่เคยเล่นรุนแรงขนาดนี้มาก่อนเลย ต่อไปฉันจะต้องเจออะไรบ้างล่ะ.....?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD