8

1565 Words
TOBB ♡ CHOMPOO 8 : ผมรับปาก ด้วยสายตาของพี่ต๊อบที่จ้องมองก่อนที่เขาจะกลับ ทำให้ฉันงอแงแม่ไม่อยากเอาข้าวมาส่งวันนี้ แต่จะทำอะไรได้ เมื่อฉันมาถึงตรงนี้ และ มีเจ้าของบ้านนั่งปากคาบบุหรี่เหมือนรอการมาเยือนของฉัน “อย่าพึ่งกลับ” เขาเดินมาหยิบถุงกับข้าวที่ฉันใส่ตะกร้าจักรยานไว้ เดินหายเข้าบ้านไป สักพักก็ได้ยินเสียงเฮดังขึ้น ล้วนแต่เป็นเสียงผู้ชายทั้งนั้น “น้องชมพูคนสวย” มีคนที่คุ้นหน้า แต่ว่าไม่รู้ชื่อเดินออกมาตามหลังพี่ต๊อบ เขาเอ่ยชื่อฉันด้วยสีหน้าชื่นมื่น มือของเขาพาดอยู่ที่ไหล่พี่ต๊อบ นี่สิ สายตาแพรวพราวส่อแววความเจ้าชู้ “ไปทำห้องให้หน่อย” พี่ต๊อบหมายถึงอะไรล่ะเนี่ย เขามองฉันนิ่ง ฉันเองก็นิ่งเพราะงง จากนั้นเขาก็กดมือถือแล้วยื่นมาแนบหูฉัน (ชมพูเหรอลูก ทำความสะอาดห้องให้พี่เขาหน่อยนะ พี่เขาไม่เชื่อใจใคร เดี๋ยวแม่ให้ค่าขนมนะลูก) ฉันยังไม่ทันจะตอบ สายของแม่ก็ตัดไป แล้วประเด็นคือบ้านหลังนี้ ตอนนี้มีแต่ผู้ชายไงล่ะทุกคน สักพักก็มีผู้ชายอีกสองคนเดินออกมา คุ้น ๆ หน้าแต่ไม่รู้จัก พี่คนที่มีผิวกายแทน ๆ เดินมาตบหัวคนที่แซวฉัน จากนั้นก็ลากกันขึ้นรถกระบะสีดำออกไป ส่วนอีกคนก็กระซิบสักอย่างกับพี่ต๊อบ แล้วดึงจักรยานฉันพอฉันปล่อยเขาก็ปั่นไปทางที่ฉันมาหน้าตาเฉย “พี่ต๊อบ ไหนกูบอกให้สั่งสุกี้เผื่อกูด้วย ทำไม... อ้าวน้อง” คราวนี้เป็นพี่ลีที่ออกมา คือพวกเขานัดรวมตัวอะไรกันเนี่ย ข้างในก็มีเงาคนอยู่สองคน แต่เงานั้นเป็นผู้หญิง “เข้ามา” พี่ต๊อบส่งสายตาเป็นเชิงสั่ง ไหนจะจักรยานฉัน ไหนจะอะไรก็ไม่รู้อีกล่ะ ฉันมาทำอะไรที่นี่? “ดูมัน มันสั่งแต่ของที่มันชอบ จืด ๆ กูกินได้ที่ไหน” เสียงผู้หญิงดังขึ้น มันเป็นเสียงเดียวกับคนที่แซวพี่ต๊อบเมื่อวานที่ร้านสัก เธอนั่งก้มหน้าดูถุงกับข้าว ส่วนสาวอีกคนก็พึ่งเดินมา พลางพยักหน้าเป็นเชิงขออนุญาตพี่ต๊อบอีกด้วย ที่ถือวิสาสะหยิบถ้วยชามในครัวเพื่อเอาออกมาทานข้าว พี่ต๊อบชอบทานผัดกะเพราก็จริง แต่ทุกครั้งแม่จะใส่แค่กลิ่นของพริกเท่านั้น นั่นคือการเอาพริกกับกระเทียมลงไปขั่ว พอได้ที่ แม่ก็ตักออก ก่อนจะเอาหมูลงไปผัดต่อ ตามด้วยปรุงรสชาติที่พี่ต๊อบทาน นั่นคือหวานนำ น้ำมันหอยพอหยด ฉันจดจำทุกอย่าง เพราะเคยโยนหินถามทางว่าใครกันกินแบบนี้ สรุปหวยออกที่พี่ต๊อบ “ก็ให้พี่ต๊อบสั่งเอง พี่แพรวขี้บ่นว่ะ” พี่ลีขำนิด ๆ ก่อนจะนั่งขัดสมาธิแล้วแกะกล่องผัดซีอิ๊วเทใส่จานก่อนจะกินอย่างมูมมาม เดาว่าน่าจะหิวมาก “ไอ้ต๊อบมึงมัน... แนะ เลี้ยงเด็กไว้ใกล้ตัวซะด้วย” แซวอีกแล้ว พอเห็นหน้าฉันก็แซวออกมาอีกแล้ว คราวนี้มีคนอื่นด้วยไงประเด็น แล้วพี่ลีที่กินอยู่ก็ยังจะเงยหน้ามายิ้มใส่อีก เคี้ยวแล้วกลืนก่อนไหมพี่! “ถ้ามาแล้วเป็นงี้ พวกมึงไม่ต้องขนกันมาบ้านกูเลยนะ” พี่ต๊อบว่าให้ ดันหลังฉันขึ้นบันไดมาอย่างเร่งรีบ ให้ฉันตั้งสติก่อนได้ไหม ฉันทำแน่ แต่ขอตั้งสติก่อน! “อยู่ในนี้ไปก่อน จะทำอะไรก็ทำ นั่งนอนได้ตามสบาย” ปิด ประ ตู ขัง ฉัน... นี่มัน “พี่ต๊อบ” ฉันเอากำปั้นทุบประตูอย่างแรง ทำไมต้องหลอกเข้าห้องแล้วมาขังฉันไว้ เขาจะทำอะไร ในหัวฉันคิดไปต่าง ๆ นานาแล้วนะ ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองจะไม่ปลอดภัยเลย ทำไมพี่ต๊อบมาขังฉันไว้ ทำไม ทำไม ทำไม??? ???? ????! ขังเด็กไว้บนห้องครับ ขังเฉย ๆ ไม่ได้คิดจะทำอะไรทั้งนั้น ยังไม่อยากนอนคุกครับ “น้องล่ะวะ” ไอแพรวมันถามขึ้น เมื่อเห็นว่าผมเดินลงมาคนเดียว “ลี... ” ผมเรียกคนที่จะไว้ใจได้มากที่สุด ไอ้นี่มันมีคนที่มันรักแล้ว ถ้าชมพูหลุดออกมาได้จากการเผลอปลดล็อกที่ผมแอบทำไว้ได้ ไอ้ลีนี่ล่ะ จะปกป้องชมพูจากการโดนพวกนี้มันแซว มันมีบางอย่างที่ผมต้องไปทำนิดหน่อย “ถ้าชมออกมาได้ ก็อย่าพึ่งให้กลับบ้านนะ ยื้อไว้จนกว่ากูจะมา” ผมสบตากับรุ่นน้อง เราสนิทกันชนิดว่ามองตาก็อ่านความคิดกันออก ลีมันพยักหน้า ไอแพรวก็เลยตบบ่าผมหนึ่งที เพราะเห็นหน้าตาที่ซีเรียสของผม ยังไงชมพูก็ยังกลับบ้านน้องตอนนี้ไม่ได้ ผมกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาที่บ้านน้อง ก่อนหน้านี้ที่ไอ้ศิลป์มันแย่งจักรยานน้องมา ก็วานให้มันมาเฝ้าหน้าร้านให้ก่อนนี่ล่ะครับ “ผัดวันประกันพรุ่ง นี่มันสามเดือนแล้วยายเดือน เธอเห็นค่าเงินของฉันเป็นอะไร ทำมาหากินได้เพราะพื้นที่ของฉันแท้ ๆ ยังมาผัดวันผัดเดือนอีก” นี่คือเสียงเจ๊เจ้าของตึกนี้ ร่างกายสมส่วนสวมผ้าเนื้อดีหลากสีถ้าเปรียบผ้าสามสีก็จะเกินไป ข้อมือนิ้วมือประดับด้วยแหวนทองวงหนามีค่าหลายบาท แต่ออกตัวมาทวงค่าเช่าที่รายเดือนด้วยตัวเอง ไม่กลัวโดนดักปล้นกลางทางเหรอวะ? “เท่าไหร่ครับ” ผมถามอย่างสุภาพ เพราะเห็นคุณนายกำลังเริ่มท้าวสะเอวแล้วครับ เธอกำลังรวบรวมพะละกำลังที่จะตะเบ็งเสียงใส่ป้าเดือนแม่ของชมพู คุณนายนั้นมองผมตั้งแต่หัวยันเท้า คงกำลังดูหมิ่นการแต่งกายของผมด้วย ด้วยทรงผมที่ค่อนข้างไว้ยาวของผมอีก สายตาดูแคลนนั้น ผมเกลียดที่สุด แต่ก็ต้องใจเย็น “สามหมื่นบาทถ้วน จ่ายมาสิไอ้หนุ่ม” ผมมองหน้าป้าเดือน ตึกนี้ค่าเช่ารายเดือนเจ็ดพันบาท ประกอบกิจการร้านค้าก็เบ็ดเสร็จประมาณแปดพันกว่า แต่ด้วยว่าติดค้าง เลยอยากจะคูณเงินขึ้นเอง มนุษย์เจ้าของตึกผู้หน้าเลือด “ล่วงหน้าไปอีกสามเดือน แล้วป้าก็เตรียมตัวไปโรงพักกับผมด้วยนะ” ผมยื่นเงินให้คุณนายที่กำลังตาเบิกโต แต่พอผมพูดจบ แกก็มองผมเชิงถาม ว่าทำไมต้องทำตาม “ทำลายของทำมาหากินเขา แล้วมาขูดรีดเงินเขา ถ้ายังมีความเป็นคนอยู่บ้าง ป้าน่าจะเห็นใจคนทำมาหากินด้วยกัน ป้าก็เห็น มันจะขายได้เท่าไหร่เชียว เก็บค่าเช่าเหมือนรีบเลยนะครับ” “ไอ้เด็กนี่ แกไม่เป็นฉัน แกไม่รู้หรอกว่าคนมีสิทธิ เขาก็ทำทั้งนั้น” “ได้เงินแล้วก็ไปสิครับ ชักช้าผมไม่จ่ายนะ” พอแกเดินออกไป ป้าเดือนก็ถอนหายใจพลางทรุดตัวนั่งลงกับเก้าอี้ ก่อนหน้าที่จะมา ผมได้รับสายจากป้าว่าเงินที่จะจ่ายค่าเช่านั้นหาย ผมเลยออกอุบายให้ชมพูไปอยู่ในห้อง ผมก็ขังน้องไว้ ไม่อยากให้รับรู้ว่าเจ้าหนี้ของแม่หน้าเลือดขนาดไหน น้องยังเด็กเกินไป ขืนมารู้ ได้มีความคิดแผลง ๆ แน่นอน เช่นการไปหางานทำที่คิดว่าได้เงินง่าย ซื่อบื้อขนาดนั้นกลัวโดนหลอกเอาน่ะสิครับ “ขอบคุณนะต๊อบ ขอบคุณจริง ๆ” ป้าจะยกมือไหว้ผม ผมเลยจับมือท่านวางไว้ที่ตักท่านเหมือนเดิม ผมต้องทำอะไรสักอย่างกับตึกนี้ แต่ยังคิดไม่ออก “ตอนผมมาหาชมพู ผมได้ยินน้องทะเลาะกันครับ” ผมได้ยินทุกอย่าง แค่ไม่เห็นเหตุการณ์ แต่พอเห็นคางแดง ๆ ของชมพู ผมก็อยากจะสอนน้องให้ป้องกันตัวบ้าง ถึงจะกับพี่สาวก็เถอะ ผมไม่ยอมให้น้องโดนรังแกอยู่ฝ่ายเดียวหรอก “ป้าเตรียมเงินไว้แล้ว แต่มันหายไป” ผมจะทำยังไงดี ได้แต่ดูแลอยู่ห่าง ๆ ก็อยู่ใกล้กันบ้างแบบนี้ บางทีพี่สาวน้องก็อันตรายกว่าคนอื่นภายนอก ผมเห็นชัดเลย ว่าชมพูยอมพี่สาวตลอด “อย่าพึ่งให้ยัยชมกลับมานะต๊อบ สักเย็น ๆ ก็ได้ ป้าอนุญาต ป้าจะเก็บของพวกนี้ก่อน” “ผมคงต้องพาน้องไปที่อื่น ไม่อย่างนั้นชมพูต้องงอแงแน่นอน” ไม่รู้ว่าคำพูดของผมมันแปลกตรงไหน ป้าเดือนอมยิ้มมองหน้าผม “รู้จักลูกสาวป้าดีจังเลยนะ” ปากไม่ออกแล้วครับ นั่นสินะ รู้จักชมพูดีขนาดนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? “ป้าฝากลูกสาวป้าด้วยนะ” “ครับ?” “ตลอดชีวิต รับปากป้าสิ” นี่หมายถึงอนุญาตเต็มที่ ให้สิทธิอำนาจเต็มที่ ในการปกครองเด็กดื้อแล้วใช่ไหม ถ้าใช่... โอกาสนี้ผมจะรับมันไว้เอง “ครับ ผมรับปาก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD