บทที่ 2 เธอคนนั้น

1410 Words
บทที่ 2 เธอคนนั้น เพียงไม่กี่สิบนาทีต่อมาเสียงรถพยาบาลก็มาถึง พร้อมกับตำรวจก็เข้ามาถึงที่เกิดเหตุ เมื่อเฌอรินเห็นดังนั้นเธอจึงปลีกตัวออกมาเพื่อไม่ให้เป็นการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ เธอดูจนมั่นใจว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว “ตายแล้ว ลืมพี่รัญไปเลย โดนดุอีกแน่" กว่าจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเผลอลืมเรื่องสำคัญ ร่างบางก็เปียกปอนด้วยสายฝนจนตัวโชก ถึงต่อให้เธอเอาเอกสารมาให้พี่สาวเธอได้ทัน แต่สุดท้ายด้วยสภาพแบบนี้ เฌอรินก็ไม่สามารถเข้าไปร่วมประชุมกับพี่สาวตัวเองได้อยู่ดี “ทำไงดีเลยเวลาแล้วด้วย” เฌอรินขับรถไปที่ลานจอดก่อนจะวิ่งกระหืดกระหอบเพื่อขอเข้าไปพบพี่สาวที่หน้าตึกขอบริษัทชาร์โตที่พี่สาวมาเจรจาธุรกิจ แต่ด้วยสภาพที่เปียกปอนและเนื้อตัวเปื้อนเลือด ทำให้ รปภ.ไม่ยอมอนุญาตให้เธอเข้า เธอพยายามโทรหาพี่สาวครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้พี่สาวลงมารับเอกสาร แต่เหมือนว่าพี่สาวของเธอจะปิดเครื่องไปเสียแล้ว หยดน้ำตาใสเกลือกกลิ้งบนดวงตาอย่างนึกโทษตัวเอง เพราะรู้ดีว่าการที่พี่ของเธอปิดเครื่องคือน่าจะเข้าไปพบผู้บริหารของชาร์โตเรียบร้อยแล้ว หากบริษัทของคุณพ่อต้องพลาดการเจรจาธุรกิจครั้งนี้ เฌอรินจะโทษว่าเป็นความผิดของเธอแต่คนเดียว .... เกือบสามชั่วโมง ที่เฌอรินยังยืนคอยพี่สาวอยู่หน้าตึกอย่างกระวนกระวาย แม้สายฝนที่ค่อย ๆ ซาลงไปจนเหลือเพียงกลิ่นอายของสายฝนและน้ำที่เจ่อหนองตามพื้นถนน เฌอรินก้มมองสภาพของตัวเอง มองเห็นรอยเลือดที่ยังเปรอะเปื้อนด้วยคราบเลือด -เขาคนนั้นจะเป็นยังไงบ้างนะ-  “เฌอริน!!” เสียงตวาดแวดของพี่สาวทำให้เธอสะดุ้งก่อนจะเห็นพี่สาวของตัวเองเดินออกมาจากหน้าตึก “พี่รัล” ทั้งที่ตัวเองเพิ่งโดนพี่สาวเอ็ด แต่ครั้นเห็นพี่สาวที่ตัวเองยืนรอมาเกือบสามชั่วโมง ใบหน้าหวานก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ก่อนจะต้องหุบยิ้มลงอีกครั้ง เพราะเฌอรัลยังคงมีสีหน้าไม่พอใจกับความผิดพลาดของน้องสาว “นี่เธอเห็นงานของบริษัทเราไม่สำคัญหรือไง พี่บอกแล้วใช่ไหมให้รีบมา แล้วดูสภาพแต่งตัวสิ เปียกปอนจนไม่เหลือคราบลูกเจ้าของบริษัท” นอกจากเฌอรัลไม่ได้ขอบคุณน้องสาวที่รีบร้อนเอาเอกสารมาให้ เธอยังโดนหล่อนต่อว่า และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฌอรินมักจะโดนพี่สาวของเธอต่อว่าแบบนี้ “แล้วนี่ทำไมเนื้อตัวถึงเปื้อนเลือดแบบนี้” ไม่มีสายตาที่เป็นห่วงแต่ที่ถามเพราะแค่รู้สึกสงสัย “ขอโทษค่ะพี่รัล พอดีมาถึงหน้าตึกแล้วรินเจออุบัติเหตุพอดี” “แล้วเธอก็ยุ่งเรื่องชาวบ้าน จนลืมว่าตัวเองมีเรื่องที่ต้องทำสำคัญกว่า!” เฌอรัลกอดอกมองน้องสาวอย่างดูแคลน “เออว่าแต่การเจรจาเป็นอย่างไงบ้างคะ” “เพราะไม่มีเด็กอย่างเธอมาร่วมด้วยมั๊ง งานถึงสำเร็จ”เฌอรัลเบะปากใส่น้องสาว ก่อนจะยกโทรศัพท์ออกมา เพื่อโทรมาผู้เป็นพ่อที่นอนป่วยอยู่ที่บ้าน หากไม่เช่นนั้นแล้วคนที่ต้องมาเจรจาครั้งนี้คงเป็นพ่อของเธอเอง (ว่าไงเรียบร้อยไหมรัล) “เรียบร้อยสิคะ แหมระดับรัลมาเองเขารีบตกลงเซ็นต์สัญญาร่วมกับเราทันทีเลยละค่ะ” (ตัวแทนของตระกูลภัควรเดช คงไม่ได้มาสินะ หึ หึ หึ) “คุณพ่อรู้ได้ยังไงคะ ว่าบริษัทนั้นไม่มา” (พ่อรู้ของพ่อก็แล้วกัน ว่าแต่ครั้งนี้ลูกสาวของพ่อทั้งสองคนทำได้เยี่ยมมาก) “สองคนที่ไหนคะ รัลคนเดียวค่ะ พอถึงเวลารินหายไปไหนก็ไม่รู้” เฌอรัลไม่ยอมบอกพ่อของเธอไปตามตรง ว่าเธอเป็นคนให้เฌอรินน้องสาวกลับไปเอาเอกสารที่บริษัท เฌอรินที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ยังคงมองพี่สาวด้วยความชื่นชมเพราะดีใจกับความสำเร็จของพี่สาว เพราะนั่นหมายถึงการเจรจาในครั้งนี้จะทำให้กิจการของทางบ้านของเธอไปต่อได้ ....... อาทิตย์ต่อมาในขณะที่ตระกูลดิษสถาวงศ์ เลี้ยงฉลองกับความสำเร็จที่สามารถแย่งโปรเจคพันล้านมาครอบครองจนถึงขึ้นลงนามทำสัญญากันเป็นที่เรียบร้อย แต่อีกฝากฝั่งคือตระกูลภัควรเดช กำลังเคืองแค้นเพราะ ปราบ หรือ ปัณณทัต ลูกชายคนโตของตระกูล ภัควรเดช กลับโดนลอบยิงจนบาดเจ็บสาหัส และเขาต้องถูกนำตัวส่งเข้าโรงพยาบาล ทั้ง ๆ ที่อีกไม่ถึงชั่วโมงเขาจะเดินทางเข้าไปที่ตึกของบริษัทชาร์โต ทำให้สัญญาพันล้านต้องหลุดลอยไปให้บริษัทคู่แข่งอย่างตระกูลดิษสถาวงศ์ไปอย่างน่าเสียดาย ภายในห้องพักผู้ป่วยวีไอพีของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ปราบที่เพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บนอนพิงตัวอยู่บนเตียงนอนปรับระดับ ในมือมองสร้อยคอจี้เพชรราคานับแสนคำว่า Char-r แต่ตัวอักษรสองตัวหลังน่าจะหักไปจนเหลือข้อความมาไม่ครบ และพยาบาลเพิ่งนำมาให้เมื่อเช้านี้โดยบอกว่าติดมากับกระเป๋าเสื้อสูทของเขา -ของเธอคนนั้นสินะ- ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ปราบหลุดออกจากภวังค์ “เข้ามา” ปราบเอ่ย เพราะรู้ว่าคนหน้าห้องคือ ก้องภพ ลูกน้องของพ่อเขาที่เพิ่งถูกส่งตัวมาคุ้มครองเขาเป็นกรณีพิเศษ ก้องภพมีอายุไม่ห่างจากปราบมากนัก ระหว่างทั้งคู่ ก้องภพก็เป็นทั้งลูกน้องและเพื่อนเล่นในวัยเด็กเลยก็ว่าได้ เนื่องจากคุณพ่อของก้องภพรับใช้ตระกูลของภัควรเดชมาอย่างยาวนาน ลูกหลานจึงล้วนแต่ถูกเลี้ยงดูมาพร้อมกับการฝึกฝนให้รับใช้คุณหนูภายในตระกูลควบคู่กัน พอก้องภพเรียนจบตำรวจได้ไม่นาน แต่เขากลับถูกดึงตัวเข้ามาเพื่อคุ้มครองปราบโดยเฉพาะ ที่ผ่านมาคงครอบครัวภัควรเดชประมาทศัตรูทางการค้าจนเกินไป ไม่คิดว่าการทำธุรกิจแบบขาวสะอาด แต่กลับต้องมาเจอวิธีการที่สกปรกแบบนี้จากคู่แข่งอย่างตระกูลดิษสถาวงศ์ “นายมาก็ดีแล้วก้องภพ เดี๋ยวออกไปทำเรื่องให้ออกจากโรงพยาบาลให้ด้วย” “จะออกจากโรงพยาบาลทั้งที่แผลยังไม่หายดีมากหรือครับ” “ไกลหัวใจ ไม่ตายหรอกน่า นายไปทำเรื่องให้ฉันไว ๆ จะดีกว่า” ก้องภพพยักหน้ารับคำ ก่อนที่ปราบจะเอ่ยถามออกไปถึงข้อสงสัยที่เกิดขึ้นภายในใจ “เดี๋ยว แล้วนายให้คนไปตรวจสอบมาหรือยังว่าฝีมือใคร” “ได้ความมาแล้วครับ ตอนนี้คนของเราตามจนจับตัวคนที่ลอบยิงมาได้แล้ว เป็นคนของตระกูลดิษสถาวงศ์ส่งตัวมา ตอนนี้นายท่านจับตัวมันไว้แต่ยังไม่ได้ส่งเรื่องให้ตำรวจ” “หึ ... ดิษสถาวงศ์งั้นเหรอ สกปรกดี” ปราบแค่นหัวเราะ “แล้วอีกเรื่องที่ฉันให้ตามหา” น้ำเสียงครั้งนี้ดูอ่อนลงกว่ารอบแรก “เออ...เรื่องผู้หญิงคนนั้นที่เข้ามาช่วยเหลือคุณปราบหรือครับ” “อืม” “นี่ครับเป็นข้อมูลของทะเบียนรถของคุณผู้หญิงที่เขามาช่วยเหลือคุณปราบในวันนั้น” ปราบรับเอกสารจากก้องภพ ก่อนมองเอกสารเจ้าของรถในมืออย่างสนใจ รสรัล ดิษสถาวงศ์ (เฌอรัล) Char-ral งั้นเหรอคือชื่อของเธอคนนั้น ใช่ถ้าดูจากสร้อยที่หายไป Char-r ตัวที่หายไปคงจะเป็น al สินะ ปราบเผลอยิ้มออกมาที่มุมปาก ขนาดว่าตัวเองเพื่อรอดตายจากคนในตระกูลดิษสถาวงศ์มาแท้ ๆ แต่ดันกลับไปคิดถึงอ้อมกอดเธอคนนั้น ชั่วขณะที่สติใกล้จะเลือนหายแต่กลิ่นอายความหอมอ่อน ๆ กับเนื้อตัวนุ่มนิ่มบนตัวหญิงสาวคนนั้น ยังติดตรึงอยู่ไม่หาย ก่อนจะเปลี่ยนใบหน้าสีหน้าอย่างแค้นเคียง ดิษสถาวงศ์ กล้าดียังไงที่ส่งคนมาฆ่าเขา!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD