วันที่ 19
‘ยังไม่หายเหรอชล’
“อืม ยังรู้สึกไม่ค่อยมีแรงน่ะวา ก็เลยว่าจะนอนพักอีกสักวัน”
‘แล้วเมื่อวานกับหมวย โอเคกันแล้วใช่มั้ย’
“ไม่ค่อยนะสำหรับชล แต่สำหรับหมวย ชลไม่รู้” วาวายังคงเป็นเพื่อนคนเดียวที่พูดคุยกับสายชลเป็นประจำทุกวัน
เรื่องส่วนใหญ่ก็ทั่วๆ ไปในชีวิตประจำวันนี่แหละ ไม่ได้จีบ ไม่ได้หยอด ไม่มีตรงไหนไปในทางชู้สาวสักนิด
‘เราขอโทษจริงๆ นะ’
“ไม่ต้องขอโทษหรอกวา ชลเป็นคนบอกให้วามาเองนะ ชลต่างหากที่ต้องขอโทษวาอีกครั้ง ไม่น่ารบกวนวาให้เอาของที่ร้านมาให้เลย” ความผิดนี้เขาไม่รู้จะชดเชยอย่างไรดี วิรรรรู้ว่าสายชลไม่สบายเพราะเธอไปซื้อกาแฟที่ร้านแล้วไม่เจอสองวันถึงได้โทรถาม ประกอบกับเธออยู่ที่ร้านพอดีสายชลก็เลยวานให้ช่วยเอาของที่ร้านมาให้ที่บ้านหน่อยเท่านั้นเอง
ความคิดน้อยครั้งนี้สร้างความเสียหายมหาศาล
‘หมวยคงโกรธวาน่าดู’
“ชลขอโทษแทนหมวยเขาด้วยนะวา ทั้งหมดมันเป็นเพราะชลเองจริงๆ แหละที่คิดน้อยไป”
คอนโดหมวย
ฮะอึ้ก...!
ณ ลาดจอดรถคอนโดแห่งในตัวเมือง มุมเงียบสงบมุมหนึ่งที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ด้านหลังฝากระโปรงรถที่เปิดอยู่ หญิงสาวเจ้าของรถกำลังก้มหน้าร้องไห้จนตัวโยน
หมวยพยายามเรียนรู้และจดจำส่วนต่างๆ ภายในห้องเครื่องแต่คำถามมากมายก็ผุดมาขึ้นในหัว
แน่นอนล่ะว่าตอนที่เธอมีสามีอยู่ สายชลคอยดูแลสิ่งเหล่านี้ให้ รถที่เธอใช้จึงไม่เคยมีปัญหาเรื่องลมยาง แบตเตอรี่หรือกระทั่งหม้อน้ำ
ฮะอึ๊ก...ฮื้อออ!
ยอมรับว่าอ่อนแอลงทุกวันที่เข้าใกล้วันหย่าขาดกับเขา แต่จะให้ทำอย่างไรได้
จะให้เดินกลับไปบอกสายชลว่าไม่หย่ากันได้ไหม ทั้งๆ ที่เขานอกไปมีคนอื่น แต่คนที่อยากให้เรากลับมาเหมือนเดิมคือคนที่ถูกนอกใจอย่างเธออย่างนั้นเหรอ
ฮื้อออ!!
หมวยก้มหน้าร้องไห้และเปล่งเสียงสะอื้นดังมากขึ้นเพื่อระบายความอัดอั้น ในช่วงเวลาแห่งความเศร้าเสียใจแบบนี้ไม่รู้สึกอายใครทั้งนั้น
นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ระบายน้ำตาปล่อยให้มันไหลออกมา ครั้งสุดท้ายก็ตอนที่พ่อยิงตัวตายทิ้งปัญหาและหนีหนี้ที่สร้างเอาไว้ การหย่ากับสามีคงเป็นความเศร้าระดับนั้นเลยมั้ง เพราะเธอรู้สึกว่าการมีชีวิตต่อโดยขาดคนสำคัญไปมันหนักหนาและยากเย็นเหลือเกิน
ฮะอึ๊ก...
อยู่ๆ ก็มีมือหนึ่งยื่นทิชชูมาให้ ในม่านน้ำตาที่บดบังความชัดเจนนั้นเห็นได้ว่าคือทิวทัศน์
“พ พี่ทัศน์...”
“ร้องไปเถอะ ถ้าระบายออกมาหมดแล้วก็ใช้มันเช็ดคราบน้ำตานะ”
“คือว่าหมวย...”
“ไม่เป็นไรหรอกหมวย การร้องไห้คือวิธีระบายความรู้สึกรูปแบบหนึ่ง มันไม่ใช่เรื่องแปลกและไม่ใช่เรื่องน่าอาย เราก็แค่...ร้องไห้ มันก็เท่านั้น” มือหนาวางลงบนบ่าเล็กและตบเบาๆ เป็นการปลอบใจ ในช่วงที่อ่อนแอแบบนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือกำลังใจจากใครสักคนก็พอ
“หมวย...” หญิงสาวเบะปากจะร้องอีกครั้งราวกับว่าเธอได้รับการอนุญาตให้แสดงความอ่อนแอออกมาได้แล้ว
ทำไมนะ เธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องการที่พึ่งพิงทั้งทางกายและใจไม่ได้ต่างกับคนใครที่ไหน
“ร้องเถอะ พี่ไม่บอกทิชาหรอก” ทิวทัศน์เอามือป้องปากทำท่ากระซิบ
ทิชาเป็นคนปากเร็ว ขี้โวยวายและมักพูดก่อนไตร่ตรองให้ดี เป็นคนพูดอะไรตามความรู้สึกบางครั้งก็อาจพูดบางคำที่คนฟังได้ยินแล้วไม่สบายใจ
“พี่ทัศน์อะ” หมวยเหมือนคนเป็นไบโพร์ล่า
เธอหัวเราะทั้งน้ำตา เธอยิ้มออกได้ในขณะที่กำลังเศร้า ทิวทัศน์เป็นคนแปลกที่ทำให้เธอหัวเราะทั้งๆ ที่น้ำตาก็ไหลอาบแก้มอยู่แบบนี้
“ระบายความเศร้าออกไปให้หมดนะ หมวยรู้ใช่มั้ยว่ามีคนที่พร้อมจะรับฟังหมวยอยู่นะ ถึงพี่กับทิชาอาจไม่เข้าใจทั้งหมดแล้วก็อาจจะช่วยแก้ปัญหาที่หมวยเจอไม่ได้เลยสักอย่าง แต่พวกพี่ก็พร้อมที่จะอยู่ข้างๆ อย่างน้อยก็เป็นที่ให้หมวยระบายความทุกข์ได้ หมวยรู้ใช่มั้ย”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับและกดยิ้ม
ใบหน้าประดับด้วยน้ำตาและรอยยิ้มในคราวเดียวกันของเธอ
วันที่ 20
“โอย...ฉันเมาจะตายอยู่แล้วนะหมวย”
“ไอ้ชา! จะมีใครตายแบบนั้นด้วยเหรอ” หมวยชวนทิชาไปดื่มแก้เครียดจากนั้นก็พากันมานั่งดื่มต่อที่ห้อง
ห้องสตูขนาดน้อยนิดเต็มไปด้วยข้าวของที่ขนออกมาจากเรือนหอ มันไม่มีที่พอให้เดินด้วยซ้ำ
“แกนั่นแหละ จู่ๆ ก็ชวนฉันกินเหล้า เป็นอะไรของแกฮะยายหมวย”
“ก็แค่อยากกิน”
“รู้จักกันมากี่ปีแกไม่เคยอยากกินเหล้าสักครั้ง” ทิชาย้อน
หมวยเป็นคนขยันเรียน ขยันทำงานไม่เคยเสียเวลาไปกับการเที่ยวเล่นสักครั้งเดียว
“ผู้ชายมันก็ชอบผู้หญิงแบบนี้ไม่ใช่เหรอวะ เป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว แล้วก็เพื่อนนอนได้ด้วย”
“แกหมายถึงใครวะหมวย”
“ก็ทั่วไปแหละ หรือแกจะเถียง” สายชลเจอกับอติกานต์ครั้งแรกก็ที่คลับของเพื่อน กินเหล้าคุยกันถูกคอแล้วก็ยาวเลยที่นี่
วิรรรก็อีกคน ยายนั่นเป็นคนเสน่ห์แรงตั้งแต่สมัยเรียน นิสัยช่างพูดช่างคุยแบบนั้นผู้ชายติดกันเป็นขบวน
“เพื่อนจริงก็แค่กินด้วยกันเที่ยวด้วยกันเปล่าวะ ไอ้ที่มันนอนด้วยกันมันไม่ใช่เพื่อนแล้ว”
“ก็ปากมันบอกว่าเพื่อนไง”
“เพื่อนกับเพื่อนเอากันได้เหรอ”
“ทิชา! แกพูดอะไรวะ”
“เพื่อนกันจริงๆ มันนอนด้วยกันไม่ได้หรอกนะเว้ย” ทิชาพูดไปเรื่อยด้วยความเมาแต่นั่นทำให้คนเมาอีกคนหนึ่งคิดมาก
“แต่ไอ้ชลมันบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับวานะ”
“ฮะ อีวามันมาเกี่ยวอะไรอีก”
“มันบอกว่ามันไม่คิด แล้วมันก็คิดว่าวาก็ไม่คิดเหมือนกัน แกว่าฉันคิดมากไปเองเปล่าวะ”
“เดี๋ยวนะ คือกูงงไปหมดแล้วตอนนี้”
พอเหล้าจำนวนมากวิ่งพล่านในกระแสเลือดและประกอบเนื้อหาในบทสนทนาเริ่มเข้มข้นขึ้น
สองสาวที่ไม่เคยพูดจามึงมาพาโวยก็ดูเหมือนจะหลงลืมความเป็นตัวเองไปหมดสิ้น
ทิชาตอบกลับทันทีตามความคิดของตัวเอง เธอลืมของวาวาไปเลยตั้งแต่กลับไทยเพราะมีหลายอย่างให้ทำจนลืมนึกถึงเรื่องราวและวีรกรรมของอดีตเพื่อนรักคนนั้น
“มึง! ถ้าผู้หญิงมันไม่คิดอะไรกับผู้ชายมันจะกล้าอยู่กับเขาสองต่อสองในบ้านป้ะ”
“ถ้าเป็นกู กูไม่” สามัญสำนึกก็ยังเหลือแม้จะเมามาก
ทิชาออกความเห็นด้วยว่าเรื่องอะไรที่จะเอาตัวเองไปอยู่ในสถานที่และสถานการณ์สุ่มเสี่ยงแบบนั้น
“เออ! เป็นกู กูก็ไม่” หมวยตอกย้ำความกังวลใจนั้น
ต่อให้สายชลไม่คิดอะไรเกินเลยกับวาวาแต่ผู้หญิงมันมาถึงที่บ้านซะขนาดนั้น แล้วพวกเราก็กำลังอยู่ในช่วงรอวันหย่า มันคงง่ายมากสำหรับผู้ชายที่จะมีอะไรกับผู้หญิงที่ไม่ใช่เมียตัวเอง
_____________________
📍 # 90วัน จากคน(เคย)รัก อัพตอนใหม่ทุกวันเวลา 20.00 น.
เรามานับถอยหลังไปด้วยกันนะคะ