90 วัน จากคนเคยรัก (13)

1305 Words
วันที่ 19 ‘ยังไม่หายเหรอชล’ “อืม ยังรู้สึกไม่ค่อยมีแรงน่ะวา ก็เลยว่าจะนอนพักอีกสักวัน” ‘แล้วเมื่อวานกับหมวย โอเคกันแล้วใช่มั้ย’ “ไม่ค่อยนะสำหรับชล แต่สำหรับหมวย ชลไม่รู้” วาวายังคงเป็นเพื่อนคนเดียวที่พูดคุยกับสายชลเป็นประจำทุกวัน เรื่องส่วนใหญ่ก็ทั่วๆ ไปในชีวิตประจำวันนี่แหละ ไม่ได้จีบ ไม่ได้หยอด ไม่มีตรงไหนไปในทางชู้สาวสักนิด ‘เราขอโทษจริงๆ นะ’ “ไม่ต้องขอโทษหรอกวา ชลเป็นคนบอกให้วามาเองนะ ชลต่างหากที่ต้องขอโทษวาอีกครั้ง ไม่น่ารบกวนวาให้เอาของที่ร้านมาให้เลย” ความผิดนี้เขาไม่รู้จะชดเชยอย่างไรดี วิรรรรู้ว่าสายชลไม่สบายเพราะเธอไปซื้อกาแฟที่ร้านแล้วไม่เจอสองวันถึงได้โทรถาม ประกอบกับเธออยู่ที่ร้านพอดีสายชลก็เลยวานให้ช่วยเอาของที่ร้านมาให้ที่บ้านหน่อยเท่านั้นเอง ความคิดน้อยครั้งนี้สร้างความเสียหายมหาศาล ‘หมวยคงโกรธวาน่าดู’ “ชลขอโทษแทนหมวยเขาด้วยนะวา ทั้งหมดมันเป็นเพราะชลเองจริงๆ แหละที่คิดน้อยไป” คอนโดหมวย ฮะอึ้ก...! ณ ลาดจอดรถคอนโดแห่งในตัวเมือง มุมเงียบสงบมุมหนึ่งที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ด้านหลังฝากระโปรงรถที่เปิดอยู่ หญิงสาวเจ้าของรถกำลังก้มหน้าร้องไห้จนตัวโยน หมวยพยายามเรียนรู้และจดจำส่วนต่างๆ ภายในห้องเครื่องแต่คำถามมากมายก็ผุดมาขึ้นในหัว แน่นอนล่ะว่าตอนที่เธอมีสามีอยู่ สายชลคอยดูแลสิ่งเหล่านี้ให้ รถที่เธอใช้จึงไม่เคยมีปัญหาเรื่องลมยาง แบตเตอรี่หรือกระทั่งหม้อน้ำ ฮะอึ๊ก...ฮื้อออ! ยอมรับว่าอ่อนแอลงทุกวันที่เข้าใกล้วันหย่าขาดกับเขา แต่จะให้ทำอย่างไรได้ จะให้เดินกลับไปบอกสายชลว่าไม่หย่ากันได้ไหม ทั้งๆ ที่เขานอกไปมีคนอื่น แต่คนที่อยากให้เรากลับมาเหมือนเดิมคือคนที่ถูกนอกใจอย่างเธออย่างนั้นเหรอ ฮื้อออ!! หมวยก้มหน้าร้องไห้และเปล่งเสียงสะอื้นดังมากขึ้นเพื่อระบายความอัดอั้น ในช่วงเวลาแห่งความเศร้าเสียใจแบบนี้ไม่รู้สึกอายใครทั้งนั้น นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ระบายน้ำตาปล่อยให้มันไหลออกมา ครั้งสุดท้ายก็ตอนที่พ่อยิงตัวตายทิ้งปัญหาและหนีหนี้ที่สร้างเอาไว้ การหย่ากับสามีคงเป็นความเศร้าระดับนั้นเลยมั้ง เพราะเธอรู้สึกว่าการมีชีวิตต่อโดยขาดคนสำคัญไปมันหนักหนาและยากเย็นเหลือเกิน ฮะอึ๊ก... อยู่ๆ ก็มีมือหนึ่งยื่นทิชชูมาให้ ในม่านน้ำตาที่บดบังความชัดเจนนั้นเห็นได้ว่าคือทิวทัศน์ “พ พี่ทัศน์...” “ร้องไปเถอะ ถ้าระบายออกมาหมดแล้วก็ใช้มันเช็ดคราบน้ำตานะ” “คือว่าหมวย...” “ไม่เป็นไรหรอกหมวย การร้องไห้คือวิธีระบายความรู้สึกรูปแบบหนึ่ง มันไม่ใช่เรื่องแปลกและไม่ใช่เรื่องน่าอาย เราก็แค่...ร้องไห้ มันก็เท่านั้น” มือหนาวางลงบนบ่าเล็กและตบเบาๆ เป็นการปลอบใจ ในช่วงที่อ่อนแอแบบนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือกำลังใจจากใครสักคนก็พอ “หมวย...” หญิงสาวเบะปากจะร้องอีกครั้งราวกับว่าเธอได้รับการอนุญาตให้แสดงความอ่อนแอออกมาได้แล้ว ทำไมนะ เธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องการที่พึ่งพิงทั้งทางกายและใจไม่ได้ต่างกับคนใครที่ไหน “ร้องเถอะ พี่ไม่บอกทิชาหรอก” ทิวทัศน์เอามือป้องปากทำท่ากระซิบ ทิชาเป็นคนปากเร็ว ขี้โวยวายและมักพูดก่อนไตร่ตรองให้ดี เป็นคนพูดอะไรตามความรู้สึกบางครั้งก็อาจพูดบางคำที่คนฟังได้ยินแล้วไม่สบายใจ “พี่ทัศน์อะ” หมวยเหมือนคนเป็นไบโพร์ล่า เธอหัวเราะทั้งน้ำตา เธอยิ้มออกได้ในขณะที่กำลังเศร้า ทิวทัศน์เป็นคนแปลกที่ทำให้เธอหัวเราะทั้งๆ ที่น้ำตาก็ไหลอาบแก้มอยู่แบบนี้ “ระบายความเศร้าออกไปให้หมดนะ หมวยรู้ใช่มั้ยว่ามีคนที่พร้อมจะรับฟังหมวยอยู่นะ ถึงพี่กับทิชาอาจไม่เข้าใจทั้งหมดแล้วก็อาจจะช่วยแก้ปัญหาที่หมวยเจอไม่ได้เลยสักอย่าง แต่พวกพี่ก็พร้อมที่จะอยู่ข้างๆ อย่างน้อยก็เป็นที่ให้หมวยระบายความทุกข์ได้ หมวยรู้ใช่มั้ย” “ค่ะ” หญิงสาวตอบรับและกดยิ้ม ใบหน้าประดับด้วยน้ำตาและรอยยิ้มในคราวเดียวกันของเธอ วันที่ 20 “โอย...ฉันเมาจะตายอยู่แล้วนะหมวย” “ไอ้ชา! จะมีใครตายแบบนั้นด้วยเหรอ” หมวยชวนทิชาไปดื่มแก้เครียดจากนั้นก็พากันมานั่งดื่มต่อที่ห้อง ห้องสตูขนาดน้อยนิดเต็มไปด้วยข้าวของที่ขนออกมาจากเรือนหอ มันไม่มีที่พอให้เดินด้วยซ้ำ “แกนั่นแหละ จู่ๆ ก็ชวนฉันกินเหล้า เป็นอะไรของแกฮะยายหมวย” “ก็แค่อยากกิน” “รู้จักกันมากี่ปีแกไม่เคยอยากกินเหล้าสักครั้ง” ทิชาย้อน หมวยเป็นคนขยันเรียน ขยันทำงานไม่เคยเสียเวลาไปกับการเที่ยวเล่นสักครั้งเดียว “ผู้ชายมันก็ชอบผู้หญิงแบบนี้ไม่ใช่เหรอวะ เป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว แล้วก็เพื่อนนอนได้ด้วย” “แกหมายถึงใครวะหมวย” “ก็ทั่วไปแหละ หรือแกจะเถียง” สายชลเจอกับอติกานต์ครั้งแรกก็ที่คลับของเพื่อน กินเหล้าคุยกันถูกคอแล้วก็ยาวเลยที่นี่ วิรรรก็อีกคน ยายนั่นเป็นคนเสน่ห์แรงตั้งแต่สมัยเรียน นิสัยช่างพูดช่างคุยแบบนั้นผู้ชายติดกันเป็นขบวน “เพื่อนจริงก็แค่กินด้วยกันเที่ยวด้วยกันเปล่าวะ ไอ้ที่มันนอนด้วยกันมันไม่ใช่เพื่อนแล้ว” “ก็ปากมันบอกว่าเพื่อนไง” “เพื่อนกับเพื่อนเอากันได้เหรอ” “ทิชา! แกพูดอะไรวะ” “เพื่อนกันจริงๆ มันนอนด้วยกันไม่ได้หรอกนะเว้ย” ทิชาพูดไปเรื่อยด้วยความเมาแต่นั่นทำให้คนเมาอีกคนหนึ่งคิดมาก “แต่ไอ้ชลมันบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับวานะ” “ฮะ อีวามันมาเกี่ยวอะไรอีก” “มันบอกว่ามันไม่คิด แล้วมันก็คิดว่าวาก็ไม่คิดเหมือนกัน แกว่าฉันคิดมากไปเองเปล่าวะ” “เดี๋ยวนะ คือกูงงไปหมดแล้วตอนนี้” พอเหล้าจำนวนมากวิ่งพล่านในกระแสเลือดและประกอบเนื้อหาในบทสนทนาเริ่มเข้มข้นขึ้น สองสาวที่ไม่เคยพูดจามึงมาพาโวยก็ดูเหมือนจะหลงลืมความเป็นตัวเองไปหมดสิ้น ทิชาตอบกลับทันทีตามความคิดของตัวเอง เธอลืมของวาวาไปเลยตั้งแต่กลับไทยเพราะมีหลายอย่างให้ทำจนลืมนึกถึงเรื่องราวและวีรกรรมของอดีตเพื่อนรักคนนั้น “มึง! ถ้าผู้หญิงมันไม่คิดอะไรกับผู้ชายมันจะกล้าอยู่กับเขาสองต่อสองในบ้านป้ะ” “ถ้าเป็นกู กูไม่” สามัญสำนึกก็ยังเหลือแม้จะเมามาก ทิชาออกความเห็นด้วยว่าเรื่องอะไรที่จะเอาตัวเองไปอยู่ในสถานที่และสถานการณ์สุ่มเสี่ยงแบบนั้น “เออ! เป็นกู กูก็ไม่” หมวยตอกย้ำความกังวลใจนั้น ต่อให้สายชลไม่คิดอะไรเกินเลยกับวาวาแต่ผู้หญิงมันมาถึงที่บ้านซะขนาดนั้น แล้วพวกเราก็กำลังอยู่ในช่วงรอวันหย่า มันคงง่ายมากสำหรับผู้ชายที่จะมีอะไรกับผู้หญิงที่ไม่ใช่เมียตัวเอง _____________________ 📍 # 90วัน จากคน(เคย)รัก อัพตอนใหม่ทุกวันเวลา 20.00 น. เรามานับถอยหลังไปด้วยกันนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD