วันที่ 9
“พี่ทัศน์! ไม่เห็นต้องลำบากขนาดนี้เลยค่ะ”
“ได้ไงล่ะ เพราะพี่หมวยถึงต้องเจ็บตัวพี่จะไม่รับผิดชอบได้ยังไง”
“มันเป็นอุบัติเหตุนี้ค่ะ” พี่ชายทิชาซื้ออาหารและกระเช้าผลไม้มาฝาก
ดวงตาแดงก่ำนั้นไม่ได้ร้ายแรงและหมวยก็ไม่ได้นอนโรงพยาบาล ทิวทัศน์หอบของมาเยี่ยมราวกับเธอเจ็บป่วยรุนแรงอย่างนั้นแหละ
“หมวยไม่ยอมให้พี่จ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วย พี่เกรงใจและก็รู้สึกผิด”
“จะเสียเงินทำไมล่ะคะ หมวยมีประกันนี้หน่า” เธอประหยัดเผื่อแผ่ไปถึงผู้อื่น
คนเคยลำบากมาก่อนไม่มีความโลภและประกันสุขภาพที่เธอมีก็แทบไม่ได้ใช้สิทธิ์สักเท่าไรด้วย
“รู้สึกแย่จัง” ทิวทัศน์หน้าสลด
ถ้าเขายอมทำทุกอย่างตามระบบของนิติคอนโด หมวยก็คงไม่ต้องมาเจ็บตัวเพราะเรื่องไม่ใช่เรื่องของตัวเองแบบนี้
“พี่ทัศน์ค่ะ! มันเป็นอุบัติเหตุ” หมวยเน้นย้ำ
เธอเองก็พลาดที่ไม่ระวัง เอาหน้าไปจ่อใกล้ซะขนาดนั้นนี่หน่า
“แล้วนี่ถนัดมั้ย ต้องปิดตาข้างหนึ่งคงทำอะไรๆ ลำบากน่าดูเลย”
“ก็ไม่ลำบากขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ดีนะที่คนเรามีตาสองข้าง ถึงข้างหนึ่งจะมองไม่เห็นแต่ก็ยังเหลืออีกข้างไว้ใช้งานแทนได้” ก็คงเหมือนกับชีวิตตัวเองละมั้ง ที่เคยมีคู่ครองแต่มาวันนี้กลับเหลือเพียงตัวคนเดียวแล้ว
“ธรรมชาติสร้างตามาสองข้างก็จริง แต่ตาข้างหนึ่งก็ไม่สามารถทดแทนตาอีกข้างหนึ่งได้หรอกนะ”
“แล้วทำไงได้ล่ะคะ สุดท้ายแล้วเราก็ยังต้องดำเนินชีวิตต่อ ต่อให้มันจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วก็ตาม”
“นั่นสิ! สุดท้ายแล้วเราก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปนี้”
✄••••••••••••••••••••••••••••••
วันที่ 10
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
“มีอะไร” หญิงสาวสาดน้ำเสียงหงุดหงิดเข้าไปในคนปลายสายเพราะดวงตาข้างเดียวทำอะไรได้ไม่ถนัดจริงๆ ตามที่ทิวทัศน์ว่า
ทั้งคัน ทั้งแสบและน้ำตาไหลอาบ หมวยหงุดหงิดที่คราวนี้เธอรู้สึกอ่อนแอกว่าเดิมที่เคยเข้มแข็งกับทุกเรื่อง
‘ทำไมหมวยไม่รับสายชลเลย’
“หมวยเพิ่งเห็นน่ะ”
‘เพิ่งเห็น?!’
“อะไรของชลเนี้ย” คนปลายสายก็มีน้ำเสียงที่ฟังดูหงุดหงิดตอบกลับมาไม่ต่างกัน
เพราะเธอเจ็บตาก็เลยไม่ค่อยได้เล่นมือถือ ประกอบกับจิตใจที่ยังไม่พร้อมจะรับรู้เรื่องใดๆ ก็เลยปิดแจ้งเตือนมันเสียทั้งหมด
ขอเวลาฮีลใจตัวเองอีกสักวันสองวันนะ แล้วจะกลับไปเป็นหมวยเหล็กคนเดิมที่ไม่หวั่นแม้จะเป็นวันมามากแค่ไหน
‘ชลแค่งงว่า Miss call เป็นสิบๆ สายแต่หมวยไม่เห็นเนี้ยนะ’
“ชล! มีอะไรฮะ” หญิงสาวถอนลมหายใจใส่ก่อนจะปรับน้ำเสียงให้เย็นชาแล้วเอ่ยถาม
‘เมื่อวานเป็นอะไร’
“อุบัติเหตุนิดหน่อย”
“เป็นอะไรบ้าง แล้วนี่อยู่ไหนอะเดี๋ยวชลไปหา” คำว่าอุบัติเหตุอาจฟังดูร้ายแรงสำหรับสายชล เขาเปลี่ยนจากหงุดหงิดเป็นเป็นห่วงเธอทันที
“ไม่ได้เป็นไรมาก โอเคดี ไม่ต้อง”
‘หึ่ยหมวย อะไรเนี้ย...’
ปลายสายสัมผัสได้ถึงความมึนตึงเย็นชา ทั้งๆ ที่สายชลยังเป็นห่วงและหวังดีกับหมวยเสมอแต่เธอตั้งกำแพงสูงลิบแต่ตั้งท่าราวกับเป็นศัตรูคู่อริกัน
“ไม่มีไรแล้วใช่มั้ย”
‘เดี๋ยวชลไปหา’
“ชลจะมาทำไม มาเพื่ออะไรเหรอ” ถึงแม้หมวยจะสะกดน้ำเสียงให้นิ่งและเย็นชาเหมือนเดิมแต่ก็ไม่สามารถซ่อนความตัดพ้อน้อยใจและเศร้าในนั้นได้ มันยากที่เราอยากเลิกกันแต่ก็ยังเลิกไม่ได้เพราะเหตุผลที่ไม่เข้าท่า
กว่าจะครบเก้าสิบวันความเศร้ามันกัดกินหัวใจเธออย่างช้าๆ แล้วใช่ว่าเมื่อถึงกำหนดวันนัดเซ็นใบหย่าเธอก็จะยิ้มอย่างร่าเริงได้
ไม่แน่ใจว่าจะชินกับมันไหมหรืออาจจะรู้สึกแตกสลายมากกว่านี้
‘ชลเป็นห่วงนะทำไมหมวยต้องทำขนาดนี้ด้วย’
“หมวยทำอะไร หมวยผิดอะไรอีก”
‘หมวย! นี้ชลไม่ได้จะโทรมาชวนทะเลาะนะเว้ย’
“เออ! งั้นก็แค่นี้แหละ”
ชีวิตคู่ของเรามันเริ่มมึนตึงใส่กันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร เราเริ่มรักและห่วงใยกันน้อยลงตั้งแต่ตอนไหน วันนี้แค่ได้เสียงของอีกฝ่ายก็มีแต่ความรู้สึกแย่ๆ ให้กัน
__________________
📍 # 90วัน จากคน (เคย) รัก อัพตอนใหม่ทุกวันเวลา 20.00 น.
เรามานับถอยหลังไปด้วยกันนะคะ